
18 มิ.ย. 2566 – นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ ที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ในประเด็น สังคมไทยเรียนรู้อะไรในเรื่องของ”หยก”
ปัญหาการเรียนต่อของ”หยก” เยาวชนไทยอายุ ๑๕ ปี ได้ขยายบานปลายไปในสื่อสังคมต่างๆ จนเข้าไปอยู่ในวังวนของความรู้สึกที่รุนแรง หวาดกลัว หรือกระทั่งหวาดระแวงการแสดงออกของเยาวชนคนหนุ่มสาวในปัจจุบัน ที่มีความเห็นต่างทางการเมือง สังคม และการศึกษา นับเป็นโอกาสที่ดี ที่เราจะได้ทบทวนเพื่อก้าวต่อไปด้วยกัน เพราะคนรุ่นนี้จะมาเป็นหลักในการพัฒนาและสืบสานสังคมไทยในอนาคต
ก่อนอื่นควรมาทำความเข้าใจในพื้นฐาน ๒ ด้านของปัญหานี้ ด้านที่ ๑ คือ ความเห็นต่างทางการเมือง อันที่จริงเราได้รับบทเรียนมากว่า ๑๐ ปี ว่าการปฎิบัติต่อความเห็นต่าง ว่าเป็นเรื่องของความถูกผิด ดีเลว ทำให้สังคมไทยไม่มีทางออก จนเกิดความรุนแรงและกลายเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาสังคมเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ถึงเวลาแล้วที่เราจะกลับมาเปิดใจกว้างกับความเห็นต่าง ว่าเป็นส่วนหนึ่งของความเป็นพลเมือง ที่มีความปรารถนาดีต่อสังคม ทำให้เรามีทางเลือก มองเห็นปัญหาและทางออกที่หลากหลาย แทนความเกลียดชัง ( เพราะไปเห็นว่า ถูกผิดดีเลว )
ความต่างด้านที่ ๒ คือ เรื่องของวัย ที่จริงผู้ใหญ่ทุกคนก็เคยผ่านการเป็นวัยรุ่นมาแล้ว จึงไม่ยากที่จะเข้าใจได้ว่า เป็นวัยที่แสวงหาอัตลักษณ์และความเป็นตัวของตัวเอง จนอาจแสดงออกที่ไม่ถูกใจเราได้ แต่ด้วยการฟังและให้ความสำคัญกับความมีอยู่ของตัวตนและความคิดเห็นของเขา ก็จะมองข้ามการแสดงออกบางอย่างที่ดูเหมือนรุนแรงไปได้ ในที่สุดเขาก็จะกลับมามีบทบาทในทางสร้างสรรค์ ในทางตรงข้าม ถ้าฝ่ายที่เป็นผู้ใหญ่กว่า ใช้วิธีไม่ยอมรับและกดดัน ความข้ดแย้งก็จะไปในทางรุนแรงมากขึ้น
ยิ่งต่างฝ่ายมีสังคมและสื่อสังคมของตนเอง ก็ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความเกลียดชังและข่าวลวงต่างๆ อย่างที่เราสัมผัสได้ในเวลานี้
ก่อนอื่นผมจึงเสนอว่า ในสื่อสังคมเราต้องช่วยกัน ๒ ไม่ (ไม่ผลิตและไม่ส่งต่อ) ๑ เตือน (ด้วยเหตุผล) เพื่อให้สังคมไทยกลับมาอยู่บนพื้นฐานของการเปิดรับความเห็นต่างโดยไม่เกลียดชัง เพื่อที่จะทำให้สังคมไทยเดินหน้าต่อไปได้
ส่วนการแก้ปัญหากความ”เห็นต่าง” กับเยาวชน สถานศึกษาควรใช้มาตราการเชิงป้องกัน ด้วยการสื่อสารและสร้างความเข้าใจ ระหว่าง ๓ ฝ่าย (โรงเรียน ผู้ปกครอง และนักเรียน) ผ่านกลไกต่างๆ เช่น home room ประชุมผู้ปกครอง กิจกรรมนร.นศ. ด้วยบรรยากาศของการเปิดรับและเคารพซึ่งกันและกัน
กรณีที่บานปลายไปแล้ว อย่างที่เป็นข่าว ควรให้สายวิชาชีพ ที่จะทำงานโดยไม่มีอคติทางเมือง เข้ามาเป็นคนกลางในการไกล่เกลี่ย สร้างความเข้าใจระหว่าง ๓ ฝ่าย โดยเฉพาะนักสังคมสงเคราะห์ของกระทรวงพม. และนักวิชาชีพสุขภาพจิตของกระทรวงสาธารณสุข
สำคัญที่สุดในสถานการณ์ปัจจุบันคือ ช่วยกันอย่าปล่อยให้สื่อสังคมสร้างความเกลียดชัง ที่ทำให้สังคมไทยเสี่ยงต่อความรุนแรง ด้วยการไม่ส่งต่อ และช่วยเตือนการส่งข้อความที่รุนแรง และข่าวลวงด้วยครับ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มูลนิธิ รพร. ร่วมกับกรมสุขภาพจิต เปิดตัว “โครงการสุขภาพจิตเด็กและเยาวชน ตามรอยพระราชดำริ เทิดพระเกียรติแม่แห่งแผ่นดิน”
วันที่ 3 ธันวาคม 2568 ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรีมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชร่วมกับกรมสุขภาพจิต เปิดตัว
'นฤมล' ยันดูแล 'นร.-ครอบครัว' ประสบภัยน้ำท่วมสำคัญสุด เร่งฟื้นฟูโรงเรียนทุกแห่ง กลับสู่ภาวะปกติ
‘รมว.นฤมล’ ลุยฟื้นหาดใหญ่หลังน้ำลด สั่งเร่งกู้โรงเรียนเสียหายหนัก ตั้ง 50 ศูนย์ Fix It ช่วยซ่อมของประชาชนกว่า 1 หมื่นคัน ย้ำ จะเคียงข้าง ปชช.จนกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ
บุกโรงเรียนกลางวันแสกๆ พ่อเดือดใช้ปืนตบนักเรียน ม.2 ศีรษะแตก-นิ้วหัก
เหตุระทึกกลางสถานศึกษา นครศรีธรรมราช ผู้ปกครองบุกโรงเรียน หลังลูกชายโทรฟ้อง ถูกเพื่อนแกล้ง คว้าปืนตบเด็กวัย 14 ปี บาดเจ็บเลือดอาบ ตำรวจเร่งสอบสวนเอาผิด พร้อมตรวจวงจรปิดหาหลักฐาน
รบ.เตือนนักเรียน-นักศึกษาเร่งจัดทำสัญญากู้ยืมเงิน กยศ.
รบ. เตือนนักเรียน นักศึกษา กยศ. เร่งจัดทำสัญญากู้ยืม แบบยืนยันการเบิกเงินกู้ยืม พร้อมย้ำสถานศึกษาต้องแนบไฟล์เข้าระบบ DSL ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 พ.ย.
'หมอยง' เตือน RSV กำลังระบาดหนัก ทิ้งท้ายปลายฤดู
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า RSV กำลังระบาดอย่างมากทิ้งท้ายปลายฤดู
รุมจวก 'รมว.ศธ.' ห้ามสถานศึกษาจัดงานรื่นเริง 1 ปี 'เรวดี' จี้แก้ไขอย่าให้มัวหมอง 'เจี๊ยบ' ชี้กระทบวันเด็ก-กีฬาสี
ดาหน้าฉะ รมว.ศธ. ออกคำสั่งห้ามสถานศึกษาจัดงานรื่นเริง 1 ปี ชี้กระทบเด็กนักเรียนหลายกิจกรรม จี้เร่งทบทวน


