'จตุพร' ขยี้ พท. บักสีหาเหตุ ชอบใจก้าวไกลส่ง 'หมอสัตว์' ชิง ปธ.สภา

จตุพร

‘จตุพร’ ซัด พท. ‘บักสีหาเหตุ’ ทำตัวเป็นหมาป่ารังแกลูกแกะ ชอบใจก้าวไกลสุดแสบ ข่มความเขี้ยวเสือสิงห์กระทิงแรด ส่ง ‘หมอสัตว์’ ชิง ‘ปธ.สภา’ ถึงสุดท้าย ‘สุชาติ’ คว้าไปครอง

30 มิ.ย. 2566 – นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน “เบี้ยว ดื้อดื้อ!!” ระบุว่า พรรคเพื่อไทยมีพฤติกรรมไม่ต่างกับสำนวนอีสาน “บักสีหาเหตุ” ก่อเรื่องตำหนิก้าวไกลได้ทุกกรณี ทั้งที่เพื่อไทยผิดข้อตกลงตำแหน่งประธานสภา กลับคำพูด ยังหาเรื่องกล่าวหาก้าวไกลไร้มารยาท ขาดจิตสำนึกพรรคอันดับหนึ่ง

นายจตุพร กล่าวว่า เมื่อพรรคเพื่อไทยมีมติ (เมื่อ 27 มิ.ย.) กลับหลังหันในตำแหน่งประธานสภาแล้ว พรรคก้าวไกลส่งสัญญาณเลื่อนประชุมกับพรรคเพื่อไทยมาเป็นวันที่ 2 ก.ค. นี้ และเสนอนายสัตวแพทย์ปดิพัทธ์ สันติภาดา หรือ หมออ๋อง ซึ่งเป็นหมอสัตว์มาเป็นประธานสภา แสดงถึงการข่มความเขี้ยวพวกสัตว์ เสือ สิงห์ กระทิง แรด ในพรรคอันดับสอง ที่พยายามแย่งชิงทำตัวอยู่เหนือก้าวไกลพรรคอันดับหนึ่ง ดังนั้นการเสนอหมอสัตว์มาเป็นประธานสภา ถือว่าถูกต้องแล้วและสะท้อนความแสบไม่ใช่เล่นทีเดียว

ส่วนนายอดิศร เพียงเกษ กล่าวหาพรรคก้าวไกลไม่มีมารยาทที่เสนอหมอสัตว์ (หมออ๋อง) ส.ส.พิษณุโลก มาเป็นประธานสภานั้น นายจตุพร กล่าวว่า เพื่อไทยพรรคอันดับสองกลับคำพูด เปลี่ยนคำสัญญาเดิมที่เสนอให้ก้าวไกลได้ประธานสภา ส่วนเพื่อไทยเอา 2 รองประธานสภา แล้วมาเปลี่ยนจะเอาประธานสภา ยังบังอาจกล้าตำหนิก้าวไกลไม่มีมารยาท จึงเป็นการพูดเลอะเทอะต้องไปให้หมออ๋องรักษาสมองอย่างยิ่ง

นายจตุพร เสนอว่า เมื่อพรรคก้าวไกลเสนอหมออ๋องมาแข่งเป็นประธานสภาแล้ว พรรคเพื่อไทยควรเสนอชื่อมาแข่งบ้างเพื่อให้ประชาชนตรวจสอบ อีกทั้งพรรคฝ่าย 188 เสียงหรือพลังประชารัฐ (พปชร.) เสนอนายสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.พรรคเพื่อไทย มาแข่งสมทบเป็นตัวเลือกก็ได้ ให้สภาผู้แทนราษฎร 500 เสียงลงมติเลือกจะเอาใครใน 3 คนนี้เป็นประธานสภา

“ถ้าจะหลีกเลี่ยงให้ประชาชนประณามแล้ว เมื่อก้าวไกลเสนอ (ประธานสภา) เพื่อไทยก็ควรเสนออีกคนหนึ่ง แล้วพรรคอื่นมาเสนอนายสุชาติ ตันเจริญ แข่งกัน 3 คน ส่วนก้าวไกลจะได้เสียง 151 บวกกับพรรคเล็กพรรคน้อย เพื่อไทยก็ 141 เสียง อีกซีกหนึ่งได้ 188 เสียง ดังนั้น สูตรนี้นายสุชาติก็เข้า (เป็นประธานสภา) หรือสูตรเพื่อไทยเสนอนายสุชาติ ก็เข้า ไม่ว่าคิดวิธีสูตรแปลกอย่างไรก็ตาม นายสุชาติก็เป็นประธานสภาอยู่ดี”

ทั้งนี้ เพื่อไทยจะเสนอแข่งฟรีโหวตตำแหน่งประธานสภากับก้าวไกล เพื่อให้เกิดปัญหาลามไปถึงการโหวตเลือกนายกฯ อย่างไรก็ตาม ทุกทางเลือกในการแข่งขันนั้น ผลลัพธ์ออกมาก็ได้นายสุชาติ เป็นประธานสภา แล้วต่อไป พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้า พปชร. ได้เป็นนายกฯ ตามแบบการเมืองที่กำหนดเกมไว้

นายจตุพร เสนอแบ่งสรรตำแหน่งรัฐมนตรี (รมต.) ว่า เพื่อไทยขอประธานสภา โดยขอแลกแบ่งรัฐมนตรี บวกนายกฯ ให้ก้าวไกลในอัตรา 15+1 นั้น ในความจริงแล้ว ทั้ง รมต. 35 ตำแหน่งกับ 1 นายกฯ ล้วนเป็นตำแหน่งทิพย์ที่ไม่เป็นจริงมาตั้งแต่ต้น แต่ขณะนี้มีเพียงตำแหน่งประธานสภา ที่เป็นจริงเท่านั้น

“ดังนั้น ถ้าก้าวไกลเสนอกับเพื่อไทยบ้าง โดยแลกตำแหน่งประธานสภา คือ แบ่ง รมต. 35+1 ให้เพื่อไทยไปเลย โดยก้าวไกลเอาแต่ประธานสภาอย่างเดียวจะว่าอย่างใด เพราะเพื่อไทยเสนอสูตร 15+1 กับ 13+1 ล้วนเป็นเรื่องเหลวไหลทั้งนั้น เนื่องจากสิ่งที่เสนอมานั้น มันไม่เป็นจริง”

นายจตุพร เชื่อว่า ถึงที่สุดแล้ว ความขัดแย้งระหว่างเพื่อไทยกับก้าวไกลจะมาเร็วขึ้น ซึ่งดีกว่าความลับไปแตกในวันเลือกประธานสภา แม้มีเสียงบางคนของเพื่อไทยให้พรรคเปิดชื่อคนชิงประธานสภาออกมาเลย แต่ถ้าเพื่อไทยไม่เปิดชื่อนายสุชาติ ถึงที่สุดผลลัพธ์ออกมากก็จะเป็นนายสุชาติได้ตำแหน่งประธานสภา อย่างไรก็ตามมีทางเดียวที่นายสุชาติไม่เป็นประธานสภา คือ เพื่อไทยต้องหันกลับไปที่ข้อตกลงเดิมคือ มอบประธานสภาเป็นของก้าวไกลเท่านั้น

“เพื่อไทยทำตัวเองกลับไปกลับมา เป็นการหาเรื่องก้าวไกลทำตัวเป็นหมาป่าหาเรื่องกับลูกแกะกวนน้ำขุ่นอยู่เรื่อย ดังนั้น ผมเตือนอีกครั้งว่า การสร้างเรื่องขัดแย้งนั้น ไม่รู้ว่าจะลุกลามไปขนาดไหนในวันเลือกประธานสภา และต่อเนื่องถึงวันเลือกนายกฯ หรือไม่? เพราะยากที่จะคาดการณ์ได้”

นายจตุพร กล่าวว่า เมื่อความขัดแย้งลุกลามถึงขั้นมวลชนลงถนนแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นเข้ามาแทรกซ้อนให้ขยายผลรุนแรงถึงขั้นต่อต้าน ม.112 เมื่อมวลชนมาสมทบจะกลายเป็นการเผชิญหน้าความขัดแย้งครั้งใหญ่ในสังคมไทยอีกหรือไม่?

“เราพยายามเตือนสติ พรรคการเมือง (เพื่อไทย) อย่ามาเหลี่ยมกับประชาชน ช่างกล้าพูดออกมาได้พรรคที่สองตำหนิพรรคที่หนึ่งว่า ไม่มีมารยาท ขาดจิตสำนึก ซึ่งทางการเมืองแบบนี้ถือว่าหาเรื่องกัน ถ้าเป็นคำพูดอีสานเรียกว่า บักสีหาเหตุ คือ คนหาเหตุตำหนิไปได้ทุกเรื่อง”

นายจตุพร กล่าวว่า นับจากนี้ไป (29 มิ.ย.) อีก 5 วันจะถึงวันเลือกประธานสภา ซึ่งที่สุดแล้ว MOU 8 พรรคคงไปกันยากลำบาก เพราะเป็นเรื่องไม่จริง แต่จับมือลงนามกันเป็นไปตามกระแสสังคมเท่านั้น แล้วต่อมาก็หาเรื่องเลิกลากัน เอาเรื่องที่ไม่เป็นประเด็นก็กลายเป็นประเด็นปัญหาขึ้นมาได้ รวมทั้งนักการเมืองมักกล้าทำให้สิ่งที่มนุษย์ไม่กล้าทำเสมอ และสิ่งที่ทำนั้นก็ล้วนมีผลกระทบมากมาย พวกนี้ไม่สนใจเพราะเจ้าของพรรคจะเอาแบบนี้ เมื่อต้องการซ้ายก็เอาซ้าย รุ่งขึ้นเปลี่ยนมาเอาขวาก็เอาขวาอีก ดังนั้น คนไม่มีอำนาจในพรรคต้องมาแต่งเรื่องใหม่อีก เพื่อหนีความสับปลับที่เกิดก่อนหน้านี้ให้ได้

“ดังนั้น ในสถานการณ์ข้างหน้าไม่ใช่เรื่องสีใดสีหนึ่ง เพราะข้างหน้าเป็นเรื่องของประเทศ ของบ้านเมือง ของชาติไทย จึงให้ทุกส่วนมาร่วมมือกัน สลัดความรู้สึกส่วนตัวออก เอาชาติบ้านเมืองเป็นที่ตั้ง มาจับมือกันเป็นทีมชาติไทยภาคประชาชนเพื่อทำภารกิจของประชาชน เพื่อวางรากฐานให้ประเทศไทย” นายจตุพร ระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แฉเล่ห์เขมร ส่งหนังสือเจรจาหยุดยิง เสนอให้ถอยกำลังทหารกลับไปจุดเดิมก่อนปะทะ

พลตรีสุรสันต์ คงศิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่พลเอก เตีย เซรย ฮา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชาออกมา ชี้แจงหนังสือที่ส่งถึงไทยไม่ใช่เป็นการขอเจรจาหยุดอิงว่า เรื่องของการหยุดยิงหรือไม่หยุดยิงนั้นได้ มีการชี้แจงไปแล้วในช่วงการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ

กต. เร่งชี้แจงทูตอินเดีย รื้อถอนสิ่งก่อสร้างเพื่อควบคุมพื้นที่ ไม่ใช่เทวสถาน

นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงแนวทางของกระทรวงการต่างประเทศ ต่อสถานการณ์ไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในห้วงเวลาที่ทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการประชุม เช่น วานนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

ทหารไทยเสียขารายที่ 9 เหยียบทุ่นระเบิดใกล้ปราสาทตาควาย

มีกำลังพลเหยียบทุ่นระเบิด ทราบชื่อ ส.อ.นิติธรรม ศรีคำแซง สังกัด ช.6 ประสบเหตุเหยียบทุ่นระเบิดในพื้นที่ใกล้ปราสาทตาควาย ขณะปฏิบัติภารกิจตามแนวชายแดน ส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ขาซ้าย

'นักข่าวเทวดา' ซัดทหารไทยเมาสงคราม สื่อ-กองเชียร์สิ้นคิดทำลายรูปปั้นเทพเจ้าฮินดู จี้รัฐบาลขอโทษอินเดียด่วน

นายประวิตร โรจนพฤกษ์ นักเคลื่อนไหว และผู้สื่อข่าวประจำข่าวสดภาคภาษาอังกฤษ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า นี่ก็อาการเมาสงคราม! ถามจริง ตอนนี้เมาจนสังคมขาดสติ ไม่รู้ว่าทำอะไรไปบ้าง และสร้างความรู้สึกยี้ให้กับต่างชาติมากขึ้นเรื่อยๆ?

ชำแหละ! หนังสือ 'เตีย เซ็ยฮา' พยายาม 'รีเซ็ตเกม' ในจังหวะที่กัมพูชาเสียเปรียบ

จากกรณี กระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้มีหนังสืออย่างเป็นทางการถึง รมว.กลาโหมของไทย เพื่อแสดงความประสงค์ในการเจรจาหยุดยิงผ่านกลไกคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) โดยไทยย้ำว่าต้องพิสูจน์ความจริงใจผ่าน 3 เงื่อนไขเหล็ก ก่อนลงนามสันติภาพในวันที่ 27 ธ.ค. 68 ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้

เผย 'เนิน 225' อยู่ไหน สำคัญอย่างไร หลังกองทัพภาค 2 ต้องประกาศให้รู้ยึดพื้นที่ได้แล้ว

กองทัพภาคที่ 2 แจ้งว่า ขณะนี้ยึด "เนิน 225" เรียบร้อย และยังอยู่ในระหว่างปฏิบัติการทางทหารอย่างต่อเนื่อง