ระทึก! 13.30 น.ศาลปกครองสูงสุดเตรียมชี้ขาดปมฟ้องขุดเจาะปิโตรเลียมบนบกที่บุรีรัมย์ หลังศาลปกครองชั้นต้นพิพากษายกฟ้องมาแล้ว เพราะผู้ฟ้องไม่ใช่ผู้เสียหาย
13 ก.ย.2566 - ในเวลา 13.30 น. ห้องพิจารณาคดี 6 ชั้น 3 อาคารศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะ ศาลปกครองกลางนัดอ่านคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ในคดีหมายเลขดำที่ ส.40/2557 หมายเลขแดงที่ ส.745/2559 ระหว่าง สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ที่ 1 กับพวกรวม 98 คน (ผู้ฟ้องคดี) กับ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ที่ 1 กับพวกรวม 4 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี) คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ
ผู้ฟ้องคดี ฟ้องว่า ผู้ถูกฟ้องคดีได้ให้สัมปทานขุดเจาะปิโตรเลียมบนบกในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์แก่บริษัท ซ่านซี เหยียนฉาง ปิโตรเลียม (กรุ๊ป) จำกัด (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4) ซึ่งทำการสำรวจทางธรณีวิทยาด้วยวิธีวัดคลื่นไหวสะเทือนแบบ 3 มิติ โดยบุกรุกเข้าไปในที่ดินของผู้ฟ้องคดีโดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้ฟ้องคดีเห็นว่าการกระทำดังกล่าวก่อให้เกิดผลกระทบ เช่น การเกิดหลุมลึก ทำให้พืชผลเสียหาย และมิได้ปฏิบัติตามขั้นตอนหรือวิธีการตามที่กฎหมายกำหนด ไม่มีการรับฟังความเห็นของประชาชน จึงนำคดีมาฟ้องต่อศาล
คดีนี้ ศาลปกครองชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง เนื่องจากศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พยานหลักฐานบ่งชี้ว่าผู้รับจ้างของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4 ไม่ได้เข้าทำการสำรวจปิโตรเลียมที่เป็นเหตุแห่งการฟ้องคดีในพื้นที่หมู่บ้านที่ผู้ฟ้องคดีที่ 2 ถึงที่ 98 อยู่อาศัย ดังนั้น ผู้ฟ้องคดีที่ 2 ถึงที่ 98 จึงไม่ควรจะเป็นผู้ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายหรืออาจจะเดือดร้อนหรือเสียหายจากการปฏิบัติหรือไม่ปฏิบัติหน้าที่ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ถึงที่ 3 กรณีการสำรวจปิโตรเลียมของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4 ผู้ได้รับสัมปทาน และไม่มีสิทธิฟ้องคดี และผู้ฟ้องคดีที่ 1 ย่อมไม่มีสิทธิฟ้องคดีไปด้วยตามหลักผู้รับมอบอำนาจไม่มีสิทธิดีกว่าผู้มอบอำนาจ
นอกจากนี้ ผู้ฟ้องคดีทั้ง 98 คน ไม่ได้ระบุหรือแสดงหลักฐานว่ามีการเข้าสำรวจปิโตรเลียมในที่ดินของผู้ฟ้องคดีหรือราษฎรรายใด ศาลจึงไม่อาจวินิจฉัยได้ว่าผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4 ไม่ปฏิบัติงานปิโตรเลียมที่ดี ตามนัยของมาตรา 51 (5) แห่งพระราชบัญญัติปิโตรเลียม พ.ศ.2514 หรือไม่ และต้องถือว่าไม่มีเหตุตามคำฟ้องที่จะเพิกถอนสัมปทานของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4 ตามกฎหมายดังกล่าวได้ และเมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4 ได้ดำเนินการสำรวจวัดคลื่นไหวสะเทือนแบบ 3 มิติ เสร็จสิ้นแล้ว โดยไม่ได้ทำการสำรวจในพื้นที่ที่ผู้ฟ้องคดีที่ 2 ถึงที่ 98 อาศัยอยู่ จึงไม่มีกรณีที่ศาลจะต้องกำหนดคำบังคับขอให้ผู้ถูกฟ้องคดียุติ ระงับ หรือเพิกถอนการสำรวจวัดคลื่นไหวสะเทือนแบบ 3 มิติ เก็บกู้วัตถุระเบิด หรือดำเนินการให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4 ทำสัญญากับประชาชนเพื่อรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้ฟ้องคดี ผู้ฟ้องคดีจึงยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้นต่อศาลปกครองสูงสุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดับสลด! นักเรียน ม.5 กระโดดตึกชั้น 4 ต่อหน้าเพื่อน เผยผู้ตายโพสต์บอกล่วงหน้า
สลดนักเรียนชาย ม.5 โรงเรียนมัธยม ใน อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ กระโดดตึกชั้น 4 ต่อหน้าเพื่อนร่างกระแทกพื้นสาหัส ครูเร่งนำส่ง รพ.ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ ตร.ตรวจสอบพบก่อนเกิดเหตุ 10 ชั่วโมง ผู้ตายโพสต์ข้อความใน Instagram ส่วนตัว “จะตลกแค่ไหนวะถ้าพรุ่งนี้กูโดดตึก” เร่งสาเหตุ
ชาวไร่อ้อยบุรีรัมย์ โอดราคาอ้อยตกหนัก เหลือตันละ 890 บาท วอนรัฐบาลหามาตรการช่วยเหลือ
เกษตรกรชาวไร่อ้อย จ.บุรีรัมย์ โอดราคาอ้อยตกต่ำในรอบหลายปี เหลือเพียงตันละ 890 บาท ไม่สอดคล้องกับภาระต้นทุนทั้งค่าต้นพันธุ์ ยากำจัดวัชพืช ปุ๋ย และค่ารถตัดที่แพงขึ้น
ปิดฉากมหากาพย์ก่อสร้างตึกสูงซอยร่วมฤดี!ศาลปกครองสูงสุดยืนไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณา
ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยืนตามคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้นที่ไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณาคดีบริษัท ลาภประทาน จำกัดฟ้องเรียกค่าเสียหาย กทม.ละเมิดไม่ตรวจสอบความกว้างของเขตทางในซอยร่วมฤดี
ลุ้นระทึก! ศาลปกครองสูงสุดอ่านคำสั่งมหากาพย์คดีก่อสร้างตึกสูงซอยร่วมฤดี
ศาลปกครองกลางนัดอ่านคำสั่งศาลปกครองสูงสุด ในคดีหมายเลขดำที่ 2306/2564
บุรีรัมย์ระดม ชรบ.ชายแดน 2,000 นาย ฝึกเข้มรับมือเหตุฉุกเฉิน
บ้านกรวดเปิดแผน “พิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง” ติวเข้ม ชรบ. 118 หมู่บ้าน ใช้อาวุธ–ป้องกันตัว เตรียมพร้อมดูแลความปลอดภัยชาวบ้านแนวชายแดน หลังเหตุระเบิด-ปะทะชายแดนถี่ขึ้น
โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ให้ดำรงตำแหน่งต่างๆ 3 ราย
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งตุลาการในศาลปกครองสูงสุด


