ปลัด สธ. เผยพบฝุ่น PM 2.5 หลายจังหวัดรวมทั้ง กทม.เพิ่มสูงขึ้นในระดับปานกลางถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ แนะ ปชช.ตรวจสอบค่าฝุ่นก่อนออกจากบ้านหรือทำกิจกรรมนอกบ้าน
19 ต.ค.2566 - นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 มักเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปีต่อเนื่องไปจนถึงต้นปี สธ.จึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังสุขภาพได้อย่างทันท่วงที ซึ่งข้อมูลจากเว็บไซต์รายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษ พบว่า ค่าฝุ่น PM 2.5 ในหลายจังหวัดเพิ่มสูงขึ้นในระดับปานกลางหรือสีเหลือง ไปจนถึงระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพหรือสีส้ม โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น นครพนม มุกดาหาร ยโสธร หนองคาย อุบลราชธานี ขณะที่พื้นที่กรุงเทพมหานคร พบค่าฝุ่น PM 2.5 ในระดับสีส้มหลายพื้นที่เช่นกัน อาทิ ริมถนนกาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน, ริมถนนดินแดง เขตดินแดง, แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม, ริมถนนจรัญสนิทวงศ์ เขตบางพลัด, แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร, ริมถนนเจริญนคร เขตคลองสาน เป็นต้น
นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า เมื่อจะต้องออกจากบ้านหรือทำกิจกรรมนอกบ้าน ขอให้ประชาชนตรวจสอบสถานการณ์และค่าฝุ่น PM 2.5 จากแอปพลิเคชัน Air4Thai หรือ เว็บไซต์ http://air4thai.pcd.go.th ของกรมควบคุมมลพิษ หรือข้อมูลจากเครื่องตรวจวัดคุณภาพอากาศด้วยดาวเทียม ผ่านแอปพลิเคชันเช็คฝุ่น หรือ https://pm25gistda.or.th และปฏิบัติตนตามคำแนะนำจากระดับสีคุณภาพอากาศ ดังนี้ 1.สีฟ้า ระดับดีมาก ประชาชนทุกคนสามารถทำกิจกรรมนอกบ้านได้ตามปกติ 2.สีเขียว ระดับดี ประชาชนทั่วไปสามารถทำกิจกรรม นอกบ้านได้ตามปกติ ส่วนกลุ่มเสี่ยง ควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายที่ใช้แรงมาก กลางแจ้ง เป็นเวลานาน และเฝ้าระวังสุขภาพตนเอง
3.สีเหลือง ระดับปานกลาง ประชาชนทั่วไปเลี่ยงการทำกิจกรรมหรือ การออกกำลังกายที่ใช้แรงมาก กลางแจ้งเป็นเวลานาน และเฝ้าระวังสุขภาพตนเอง กลุ่มเสี่ยงควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมภายนอกอาคาร และการออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่ใช้แรงมาก กลางแจ้ง ถ้าออกนอกบ้านให้สวมหน้ากากป้องกันฝุ่น ส่วนผู้มีโรคประจำตัว ควรเฝ้าระวังสุขภาพตนเอง หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ 4.สีส้ม ระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ประชาชนทั่วไปควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมภายนอกอาคาร หรือ การออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่ใช้แรงมากกลางแจ้ง กลุ่มเสี่ยงลด/จำกัดระยะเวลาการทำกิจกรรม ภายนอกอาคาร และการออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่ใช้แรงมากกลางแจ้ง ถ้าจำเป็นออกนอกบ้านให้สวมหน้ากากป้องกันฝุ่น และสังเกตตนเอง หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ ส่วนผู้มีโรคประจำตัวควรเตรียมยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นให้พร้อม
และ 5.สีแดง ระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ ประชาชนทั่วไปควรลด/จำกัดระยะเวลา การทำกิจกรรมภายนอกอาคาร และการออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่ใช้แรงมากกลางแจ้ง เปลี่ยนมาออกกำลังกายในบ้าน ถ้าออกนอกบ้านให้สวมหน้ากากป้องกันฝุ่น และสังเกตตนเอง หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ กลุ่มเสี่ยงงดทำกิจกรรมกลางแจ้ง ถ้าต้องออกนอกบ้านให้สวมหน้ากากป้องกันฝุ่นทุกครั้ง หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ ส่วนผู้มีโรคประจำตัวควรเตรียมยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นสำรองเผื่อไว้อย่างน้อย 5 วัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ประเดิมแจ้งเตือน 'ฝุ่นPM2.5' ผ่าน Cell Broadcast 'กทม.' โหมดส้ม
เริ่มแล้ว! แจ้งเตือน PM2.5 ผ่าน Cell Broadcast 'กรุงเทพฯ–ปริมณฑล' เข้าสู่โหมดสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 'รมว.สุชาติ' กำชับ ทส. ติดตามใกล้ชิด หลังแนวโน้มฝุ่นสะสมต่อเนื่องถึง 2 ธ.ค.
อุตุฯ ออกประกาศเตือนชาวอีสานเตรียมตัว 27-30 พ.ย.อุณหภูมิลดวูบ 4-7 องศา
นางสาวสุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา
ห้ามลืมร่ม! วันนี้มีสิทธิ์เจอฝน 60-70% ของพื้นที่
กรมอุตุนิยมวิทยาได้พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าในลักษณะทั่วไป
ฝนกระหน่ำต่อเนื่อง! วันนี้ทั่วไทยเจอฝน 60-70% ของพื้นที่
กรมอุตุนิยมวิทยาได้พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าในลักษณะทั่วไป
‘วราวุธ’ กำชับ ทีม พม. รับมือ พายุวิภา เตรียมความพร้อมช่วยกลุ่มเปราะบางยามวิกฤต
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยถึงกรณี กรมอุตุฯประกาศเตือนพายุวิภาซึ่งมีกำลังแรงจะเข้าสู่ประเทศไทย อาจส่งผลกระทบหลายพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้มีฝนหนักถึงหนักมาก ปริมาณฝนที่ตกลงมาจะมีปริมาณมากขึ้น ว่า ตนมีความห่วงใยพี่น้องกลุ่มเปราะบาง และประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ที่อาจได้รับผลกระทบดังกล่าว
สธ.-มท.-ก.ท.ม. ตั้งเป้าลดแม่ท้องคลอดก่อนกำหนด ลดเด็กแรกเกิดเสียชีวิต เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิม พระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขและประธานคณะกรรมการอำนวยการโครงการเครือข่ายสุขภาพมารดาและทารกเพื่อครอบครัวไทยในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เป็นประธานเปิดการประชุมโครงการสร้างเสริมสุขภาพเชิงรุกเพื่อลดภาวะคลอดก่อนกำหนด เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว


