
สว.สายสีกากี มองอนาคตบิ๊กโจ๊ก จะถูกตั้งกรรมการสอบวินัย และ ยังมีสิทธิ์ลุ้นเก้าอี้ผบ.ตร.อยู่หรือไม่? วอนข่าวตำรวจมีเอี่ยวคดีเว็บพนัน ฯ เป็นแค่เรื่องคนไม่กี่คน อย่าเหมารวมตำรวจไม่ดีทั้งหมด
8 เม.ย.2567-พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร สมาชิกวุฒิสภา-อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ-อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้สัมภาษณ์กับ”ไทยโพสต์” ถึงข่าวเกี่ยวกับวงการสีกากีในตอนนี้ โดยเมื่อถามถึงกรณี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ที่ไปรับทราบข้อกล่าวหาคดีฟอกเงินที่สน.เตาปูนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า ถือว่าคดีก็เข้าสู่กระบวนการแล้ว เพราะถ้าเป็นเรื่องของมาตรา 149 กับ 157 ต้องไปป.ป.ช. แต่ที่เป็นข่าวคือตามพรบ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินฯ ตำรวจเขาก็มีสิทธิ์ทำคดีไป แต่สุดท้าย เมื่อการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว และหากมีความเห็นสั่งฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้องก็ตาม ต้องส่งสำนวนการสอบสวนและตัวผู้ต้องหาไปให้ พนักงานอัยการ เป็นผู้พิจารณา แต่หากอัยการเขาเห็นแล้วว่าการสอบสวนไม่ชอบ ตำรวจไม่มีอำนาจ เพราะมันน่าจะเข้ามาตรา 149 หรือ 157 เขาก็อาจส่งสำนวนคืนให้ไปให้ป.ป.ช.ก็ได้ มันอยู่ที่ดุลยพินิจ
ถามต่อไปว่า ตอนนี้พนักงานสอบสวนคือตำรวจนครบาล ถ้าหากเป็นผบช.นครบาลอยู่ คดีนี้จะเดินไปแนวไหน พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า ต้องดูในข้อเท็จจริงๆ ก่อน เพราะผมไม่รู้ในข้อเท็จจริง ว่าเขาสอบไปถึงไหน มันเกี่ยว มันเชื่อม มาจากเรื่อง 149 กับ 157 หรือไม่ หากมันเกี่ยว มันก็อาจเข้าได้ แต่ถ้ามันไม่เกี่ยว มันเรื่องต่างหาก มันเป็นเรื่องของการฟอกเงิน หรือสนับสนุนให้มีการฟอกเงิน มันก็ต้องเดินไปตามพรบ.การฟอกเงินฯ แล้วเมื่อสอบสวนเสร็จแล้ว ก็ดำเนินการต่อไปที่อัยการ ซึ่งบางทีอัยการอาจเห็นด้วยกับตำรวจ แต่พอไปถึงศาล ศาลอาจบอกว่า ไม่ได้แล้ว เพราะหลายครั้งที่ตำรวจสอบสวน อัยการส่งสำนวน แล้วร่างฟ้องส่งไปที่ศาล แต่ข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย ไม่นั้นเลย เพราะเขาจะมาพิจารณาว่าสอบสวนนั้นชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ คดีหมดอายุความหรือยัง บางทีแค่นี้ ทั้งที่ๆ ผิด (ผู้ถูกกล่าวหา) แต่พอตีความว่าสอบสวนไม่ชอบ ไม่ใช่พนักงานสอบสวนเป็นผู้รับผิดชอบ ยกเลย ตายน้ำตื้นเหมือนกัน ก็มี
ถามย้ำว่า มองปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นยังไง เรื่องบิ๊กโจ๊ก บิ๊กต่อ เรื่องเว็บพนัน สังคมฟังแล้วหดหู่มาก พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า ตำรวจเป็นผู้รักษากฎหมาย ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้น ผมถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ได้เกี่ยวกับองค์กรเท่าไหร่
“คนสองคน สามคน แล้วจะมาเหมารวมว่าตำรวจชั่วทั้งหมดเลย หรือตำรวจดีทั้งหมด ก็อาจพูดได้ไม่เต็มปากเต็มคำ ซึ่งหากเรามองว่า ถ้ามันไปเกิดกับปลัดกระทรวง อธิบดี แล้วจะบอกว่ากระทรวงนั้น เหลวแหลกหมดเลยใช่ไหม? ก็ต้องให้ความเป็นธรรม แต่ก็อย่างว่าแหละ มันอาจเป็นเรื่องที่เราเข้าใจกันได้ว่า เมื่อสังคมเขาสนใจ สื่อมวลชนก็ต้องตาม ซึ่งหากเรามีความรู้ความเข้าใจ เรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเกิดกับใครก็ตามในองค์กร ทุกองค์กร อย่าไปเหมารวม บางคนไปบอกตำรวจถึงขีดต่ำสุด ปัดโถ่ เอ๊ย ถ้าตำรวจมันเลว ป่านนี้มันวุ่นวายไปหมด เพราะถ้าตำรวจมันไม่ดี บ้านเมืองอยู่ได้หรือไม่? 1400 กว่าสถานี”
ถามถึงว่า ในเชิงกฎหมาย พอตำรวจ ที่เป็นตำรวจใหญ่ด้วย โดนแจ้งความดำเนินคดี คดีฟอกเงินด้วย แล้วขั้นตอนต่อไป การตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง สอบวินัย สั่งพักราชการ มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า เบื้องต้นก็ต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง สอบข้อเท็จจริงแล้วถึงค่อยตั้งสอบวินัย แต่กรณีนี้ ผู้ที่ถูกกล่าวหา เป็นผู้ต้องหาในคดี ก็ต้องรายงานตนว่าตัวเองต้องคดีต่อผู้บังคับบัญชา ซึ่งตอนนี้ เขาไม่ได้อยู่ตรงนี้(สำนักงานตำรวจแห่งชาติ) เขาถูกไปช่วยราชการทำเนียบรัฐบาล ก็ต้องไปรายงานตน ยังหน่วยงานที่เขาสังกัดอยู่ในปัจจุบัน จากนั้นก็มีการตั้งกรรมการฯ ซึ่งในความเห็นส่วนตัว ก็น่าจะเป็นเรื่องที่นายกฯ เขาตั้งก่อนหน้านี้( นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน) ก็ตั้งสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งก็มีเรื่องของเงื่อนเวลาในเรื่องการสอบวินัยอยู่เหมือนกัน
สว.สายอดีตบิ๊กสีกากีกล่าวต่อว่า คือกระบวนการมีสองส่วน ส่วนแรกเป็นเรื่องข้อเท็จจริงก่อน ว่ามีมูลหรือไม่ หากมีมูล ก็ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ตอนนี้ถ้าจำไม่ผิด มันมีไล่ออก กับปลดออก การให้ออก อาจจะไม่มีแล้ว ถ้าจำไม่ผิด แต่ก็ต้องใช้กระบวนการสอบสวนอยู่พอสมควร แต่ในระเบียบ หากผู้บังคับบัญชาพิจารณาแล้ว หากเห็นว่าถ้ายังอยู่ในตำแหน่งหน้าที่เดิม อาจทำให้เกิดความเสียหาย ก็อาจให้ออกไว้ก่อนได้ หรือจะไม่ให้ออกไว้ก่อนก็ได้ จะให้ไปประจำที่ไหนก็ได้ อยู่ที่ดุลยพินิจของผู้บังคับบัญชา อันนั้นคือมาตราการแรก แต่ว่าขั้นตอน ก็ยังมีเรื่องของการให้อุทธรณ์ได้อีกเยอะแยะกว่าจะจบสิ้นกระบวนการ
ถามย้ำว่า หากเป็นแบบนี้ จะมีผลต่อการแต่งตั้งโยกย้ายหรือไม่ พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า ถ้าผลการสอบสวนออกมาแล้ว มันมีแน่ แต่ถ้าผลการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ก็แล้วแต่ คือเวลาแต่งตั้งโยกย้าย ถ้าจะเอาเช่น จะตั้ง นาย ก.เสียอย่าง ก็จะบอกว่า ก็ผลสอบยังไม่เสร็จ แต่ถ้าจะไม่เอานาย ก.ถึงแม้ผลสอบยังไม่เสร็จ ก็จะบอกว่ามัวหมองแล้ว มันอยู่ที่ผู้บังคับบัญชาจะใช้ดุลยพินิจของเขา มันไม่มีอะไรตายตัว ก็อ้างกันได้หมด ไม่เหมือนคณิตศาสตร์ หนึ่งบวกหนึ่งเป็นสอง เรื่องดุลยพินิจมันก็แล้วแต่ว่าเป็นคนของเขาหรือเปล่า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชำแหละ ‘มีเรา ไม่มีเทา’ จุดขายมาเป็นจุดตาย ส้มไม่ได้ปลอดเทาจริง
อัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊ก เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ถึงพรรคประชาชนว่า เมื่อจุดขายมาเป็นจุดตาย "ส้มไม่ได้ปลอดเทาจริง เพียงแต่เทายังไม่ถูกจับได้เท่านั้น“
'ไชยชนก' แย้ม 'DSI' มีข้อมูลโยง 2 นักการเมือง ปม MOU บ.สแกนม่านตา
'ไชยชนก' ชี้หน้าที่ 'ดีเอสไอ' สอบสวน หลังพบข้อมูลนักการเมือง 1-2 คน เอี่ยว MOU กระทรวงดีอี-บ.สิงคโปร์ สแกนม่านตา โยงฟอกเงินดิจิทัล
เชือดล็อตแรก 8 ราย 'อั้งยี่-ฟอกเงิน' คดีฮั้ว สว. ดีเอสไอสรุปสำนวนส่งอัยการแล้ว
"ดีเอสไอ" สรุปสำนวน "คดีอั้งยี่-ฟอกเงิน สว." ให้อัยการคดีพิเศษเชือดล็อตแรก "8 ผู้ต้องหา" ประกอบด้วย 2 สว.ตัวจริง และ 6 เครือข่ายพรรคใหญ่ หลังสอบสวนนาน 9 เดือน เหตุคำชี้แจงแก้กล่าวหาไม่สามารถหักล้างพยานหลักฐานได้
'บิ๊กโจ๊ก' ยื่นฟันวินัย-อาญา ผบ.ตร. ละเว้น ประวิงเวลา ปมตำรวจรับส่วยเว็บพนัน
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีต รอง ผบ.ตร.ยื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อ พล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม ประธานคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ หรือ ก.ร.ตร. เพื่อดำเนินการทางวินัยกับ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) คณะกรรมการสอบสวนตามคำสั่ง ตร.ที่ 177/2568 ซึ
ปปง.-ปปช. ลุยสอบจนท.รัฐ-นักการเมือง เอี่ยวสแกมเมอร์ โยงภาพ 'เบน สมิธ' ลงนาม MOU ดีอี-บ.สิงคโปร์
นักการเมืองไทย-เจ้าหน้าที่รัฐมีหนาว! ภาพคู่ "เบน สมิธ" พ่นพิษ หลัง ปปง. - ป.ป.ช. เดินหน้าลุยตรวจสอบเส้นทางเงิน-ธุรกรรม-โครงการโยง "เบน สมิธ และบริษัทฯ"
ดีอีสั่งเลิก MOU กับบริษัทสิงค์โปร์ หลังโยงฟอกเงินดิจิทัล พบเบน สมิธ-บิ๊กเนมร่วมเป็นขยาน
วันนี้ (9 ธันวาคม) จากกรณีที่ นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผย เมื่อวันที่ 24 พศจิกายน ว่า ได้สั่งยกเลิก บันทึกข้อตกลง (MOU) ระหว่างกระทรวงดีอี และ บริษัท Prime Opportunity Fund VCC Singapore และส่งหนังสือเวียนถึงกระทรวงที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ได้รับทราบ และหากมีการกระทำใดๆ ภายใต้ MOU นี้

