'อัษฎางค์' แฉชัดๆ ใครโหนศพหากินหรือไม่

15 พ.ค.2567 - นายอัษฎางค์ ยมนาค นักประวัติศาสตร์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กกรณี น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง ทะลุวังเสียชีวิต ในหัวข้อ “บุ้ง ตอนที่ 2 “โหนศพหากินหรือไม่?””

ช่อ พรรณิการ์ วานิช โพสต์ทวิตเตอร์ว่า “ต้องรอให้มีคนตายก่อนหรือ ถึงจะทำให้สังคมตระหนักว่าคนเห็นต่างไม่สมควรตายหรือติดคุก และสิทธิการประกันตัวเป็นของทุกคน“ คำพูดดังกล่าวถือว่าเป็นการโหนศพหากินหรือไม่? แต่ความจริงคือ…….“บุ้งไม่ได้ติดคุกเพราะเห็นต่าง…..และบุ้งได้รับสิทธิการประกันตัวเหมือนทุกคน”

ย้อนไทม์ไลน์ให้เห็นกันชัดๆ

เริ่มต้นบุ้งและพวกร่วมทำกิจกรรมสอบถามประชาชนว่าขบวนเสด็จสร้างความเดือดร้อนรำคาญหรือไม่ ซึ่งศาลตัดสินว่า “เป็นการสื่อความหมายเป็นการโจมตีเรื่องขบวนเสด็จ เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร และเพื่อให้ประชาชนละเมิดกฎหมายแผ่นดิน”

“ทั้งที่ขบวนเสด็จเป็นการถวายความปลอดภัยให้กับสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งทุกประเทศทั่วโลกล้วนต้องมีการรักษาความปลอดภัยให้กับขบวนของประมุขหรือบุคคลสำคัญของชาติ”

จากเหตการณ์ต้นเรื่องดังกล่าวทำให้บุ้งถูกจำคุก 2 ครั้ง เนื่องจากหลังจากได้รับการประกันตัวแล้วยังละเมิดเงื่อนไขการปล่อยตัวด้วยการทำผิดซ้ำ

ภายหลังการถูกคุมขังในทัณฑสถานหญิงกรุงเทพฯ ในวันที่ 27 ม.ค.2567 จากนั้นบุ้งประกาศอดอาหารและน้ำประท้วง (Dry Hunger Strike) โดยมี 2 ข้อเรียกร้อง ดังนี้
1. ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม
2. จะต้องไม่มีคนเห็นต่างทางการเมืองถูกคุมขังอีก

จะเห็นได้ว่า ข้อเรียนร้องทั้ง 2 ข้อของบุ้ง สอดคล้องกับข้อความที่พรรณิการ์ วานิช โพสต์ทวิตเตอร์หลังจากการเสียชีวิตของบุ้ง

หากคำว่า ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม หมายถึง เรื่องสิทธิการประกันตัวเป็นของทุกคนและคนเห็นต่างทางการเมืองไม่ควรถูกคุมขัง คือหนึ่งในกระบวนการขับเคลื่อนทางการเมืองของบุ้งกับช่อ พรรณิการ์และพรรคพวก เป็นแนวทางเดียวกัน หรือมีการส่งเสริมสนับสนุนซึ่งกันและกัน หรือไม่?

ในขณะที่ข้อเท็จจริงคือ…..“บุ้งไม่ได้ติดคุกเพราะเห็นต่าง…..และบุ้งได้รับสิทธิการประกันตัวเหมือนทุกคน"

บุ้งและพรรคพวกอีกหลายคนที่ถูกดำเนินคดี โดยเฉพาะคดีในมาตรา 112 ที่กลุ่มคนดังกลับพุ่งเป้าให้เป็นประเด็นทางการเมือง ไม่ได้เป็นแสดงความเห็นต่างทางการเมือง แต่เป็นการจงใจละเมิดกฎหมาย
รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ชัดเจนว่า…...

มาตรา 6 องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้

เมื่อถูกจับกุมดำเนินคดีแล้วศาลยังให้สิทธิประกันตัว โดยมีข้อกำหนดเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราว แต่เมื่อบุ้งและพรรคพวกได้รับการประกันตัวจากการปล่อยตัวชั่วคราว บุ้งและพรรคพวกก็ละเมิดเงื่อนไขที่กำหนดว่า “ห้ามทำกิจกรรมหรือกระทำการใดๆ ในลักษณะเดียวกับที่ถูกฟ้อง ทำให้ถูกถอนประกันหรือไม่ให้ประกันตัว” ด้วยการทำผิดซ้ำ

ดังนั้นคำพูด ช่อ พรรณิการ์ ดังกล่าวข้างต้นถือว่าเป็นการโหนศพหากินเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของตนและพรรคพวกหรือไม่? ใครจะให้คำตอบนี้กับสังคม

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เอ็ดดี้' วิเคราะห์ละเอียดยิบ ทางเลือกของคนไทยรักชาติ กาพรรคใดเข้ามาบริหารประเทศ

การเมืองรอบนี้ไม่มี พระเอกขี่ม้าขาว ที่สมบูรณ์แบบ 100%  เราต้องถามตัวเองว่า เราให้ราคากับอะไรมากที่สุด? เลือกแบบไหน ได้ประเทศแบบนั้น

ไทยหวังพึ่งจีนได้หรือไม่ ในกรณีถูกสหรัฐฯกดดัน 'เอ็ดดี้' มีคำตอบ

ไทยสามารถหวังพึ่งจีนในมิติของการสนับสนุนทางการทูตและเศรษฐกิจเพื่อคานอำนาจได้ แต่ไม่สามารถคาดหวังความช่วยเหลือทางทหารโดยตรงในปัญหาชายแดนกับกัมพูชา

'ช่อ พรรณิการ์' กับ 'เวลาของฮีโร่' ใครได้ประโยชน์จากสงครามไม่จบ?

“มีคนไม่อยากให้สงครามจบ เพราะช่วงเวลาที่เกิดสงคราม คือเวลาที่ตนเป็นฮีโร่หรือไม่” ถ้อยคำของ ช่อ พรรณิการ์ สะดุดใจทันทีที่ได้ยิน เพราะมันไม่ใช่เพียงประโยคถามเล่นๆ แต่คือการท้าทายที่ชวนให้สังคมต้องหยุดคิด ว่าใครกันแน่ที่ได้ประโยชน์จาก สงครามไม่จบ?

'ช่อ' อัด 'นายกฯอิ๊งค์' ไม่ขอโทษประชาชน ไม่มีท่าทีตอบโต้ฮุนเซนเพื่อปกป้องเกียรติภูมิประเทศ

น.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กว่า ความผิดของฮุน เซน ในเรื่องนี้คืออะไร? ไม่ใช่แค่ผิดมารยาทการทูตค่ะ การปล่อยคลิปนี้เข้าข่ายการจงใจแทรก

'ผู้นำนิกายชีอะห์' ตามร่องรอยทฤษฎีสมคบคิดที่ชายแดนใต้ อาจเป็นจังหวะ 'รีเซ็ตโต๊ะเจรจา'

นายซัยยิด สุไลมาน ฮูซัยนี ผู้นำศาสนาอิสลามนิกายชีอะห์แห่งประเทศไทย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว หัวข้อ ตามร่องรอยทฤษฎีสมคบคิดที่ชายแดนใต้!!!! มีเนื่อหาดังนี้