“ทนายด่าง” ได้เอกสารผลการรักษา “บุ้ง ทะลุวัง”ย้อนหลัง 5 วันจาก รพ.ราชทัณฑ์แล้ว ขอนำไปตรวจสอบ-อ่านให้ชัด แต่กล้องวงจรปิดอ้างว่าติดปัญหาต้องเบลอหน้าผู้ต้องขังรายอื่น ยืดเวลาให้ภายในวันศุกร์นี้
20 พ.ค.2567 - เวลา 13.00 น. ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ถนนงามวงศ์ วาน กรุงเทพฯ นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เดินทางเข้าทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เพื่อติดตามการรับเอกสารประวัติการรักษาย้อนหลัง 5 วัน ของ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง ทะลุวัง โดยเปิดเผยภายหลังจากการเข้ารับประวัติการรักษาว่า วันนี้ได้ผลการรักษาย้อนหลัง 5 วันแล้ว ซึ่งจากการเข้าไปคุยกับทางผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ก็ได้ให้ความร่วมมือในการหาข้อเท็จจริงเป็นอย่างดีและให้เอกสารมาทั้งหมด 27-28 แผ่น ตามคำร้องขอ แต่เบื้องต้นยังไม่ได้เปิดดูทั้งหมด ต้องขอกลับไปตรวจสอบและอ่านให้ละเอียดก่อน
ส่วนการขอไฟล์กล้องวงจรปิดวันเกิดเหตุนั้น ทางผอ.โรงพยาบาลราชทัณฑ์ชี้แจงว่าขอเวลาในการรวบรวมและใช้เทคนิคเกี่ยวกับการแก้ปัญหาติดภาพผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องหรือต้องเบลอผู้ป่วยหรือผู้ต้องขังรายอื่นก่อน ตนจึงกำหนดเวลาให้ 4 วันและคิดว่าคงไม่น่ายาก เพราะถือว่าเป็นการให้โอกาส ซึ่งทางราชทัณฑ์เองก็ยืนยันว่าจะดำเนินการให้เร็วที่สุด โดยในวันศุกร์ที่ 24 พ.ค.จะเดินทางมาอีกครั้ง
ทนายกฤษฎางค์ กล่าวอีกว่า จุดกล้องวงจรปิดน่าจะซูมเห็นเตียงของบุ้งกับตะวัน ที่นอนด้วยกัน ตลอดจนเห็นเหตุการณ์ตั้งแต่น.ส.เนติพร นอนอยู่กับน.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ ที่เตียง ก่อนจะเป็นลมและหิ้วปีกบุ้งลงมายังห้องฉุกเฉินชั้นล่าง ในช่วงเวลาราวๆ 06.30 น. รวมถึงในการช่วยเหลือและการจัดเตรียมพาตัวน.ส.เนติพร ไปส่งที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมฯเกิดอะไรขึ้นบ้าง มีการทำซีพีอาร์หรือไม่ ใส่ท่อช่วยหายใจอย่างไร เข้าเครื่องอะไรบ้าง พร้อมทั้งจะเห็นว่าใครเป็นคนไปส่งบุ้งที่โรงพยาบาลฯบ้าง มีการช่วยเหลืออย่างไรภายในรถพยาบาลจากภาพเคลื่อนไหว ซึ่งจะเป็นหลักฐานและพยานสำคัญที่จะสอดคล้องให้เห็นว่าเกี่ยวข้องกับสาเหตุที่พาบุ้งไปโรงพยาบาลไม่ทันจนเสียชีวิตหรือไม่
"ส่วนตัวก็ยังแปลกใจและมองว่ามันไม่น่าจะมีอะไรปิดบังกัน ยอมรับว่าผิดหวังในกระบวนการ และการไม่เปิดเผยกล้องวงจรปิดวงจร แต่กลับเอาไปดูกันเองก่อน"ทนายกฤษฎางค์ กล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าได้พูดคุยกับผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชทัณฑ์หรือไม่ ในกรณีพบว่ามีการใส่ท่อผิดนั้น นายกฤษฎางค์ บอกว่ายังไม่ได้สอบถามเจ้าหน้าที่ แต่ยืนยันว่าทางญาติติดใจกรณีนี้อยู่แล้ว แต่ยังไม่ได้คุยในประเด็นนี้ เพราะต้องการเอาเอกสารของทางราชทัณฑ์ก่อน ซึ่งเชื่อว่าเขาน่าจะรู้คำถามของเรา เพราะออกทั้งหนังสือและแถลงการณ์
อย่างไรก็ตาม เท่าที่ทราบมาในเรื่องของกล้องวงจรปิด พบว่าทางอธิบดีกรมราชทัณฑ์ก็ได้ดูแล้ว รวมถึงพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็ได้บอกว่าจัดเตรียมไว้ให้ทั้งหมดแล้ว จึงเชื่อว่าน่าจะใช้เวลาไม่นาน
ขณะที่ช่วงบ่ายวันนี้ทางทีมทนาย จะเดินทางไปเยี่ยมตะวันและไปเอาเอกสารเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติด้วย ส่วนกล้องวงจรปิดจากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ คาดว่าใช้เวลา 1-2 วันจะได้เพิ่มเติม โดยขั้นตอนหลังจากนี้แม้ว่าจะได้รายละเอียดทั้งหมดแล้ว และเป็นความลับของคนไข้ แต่ก็ต้องเอาเอาออกมาเปิดเผย ตั้งแต่วันก่อนเกิดเหตุจนถึงวันเกิดเหตุ ซึ่งต้องนำมาบวกกับรายงานของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ เพื่อหาข้อเท็จจริง เชื่อว่ามันมีข้อมูลทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นค่าชีพจร การให้ยาการรักษา โดยจะนำมาพูดคุยกับทางกรมราชทัณฑ์เพื่อหาข้อสรุป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดีเอสไอเผยคืบหน้าคดีคุกวีไอพี อธิบดีราชทัณฑ์ ยันขรก.ทุจริตต้องถูกลงโทษ
"ดีเอสไอ" เร่งสอบเส้นทางเงินผู้ต้องขังชาวจีน พร้อมเรียกเจ้าหน้าที่และอดีต ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ให้ปากคำครบทุกฝ่าย
ป.ป.ช. สอบคุกวีไอพี ไล่เช็กกล้อง-เส้นทางนำคนนอกเข้าเรือนจำ
ป.ป.ช.ลุยตรวจเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เปิดปฏิบัติการเชิงรุกสอบสิทธิพิเศษ “ผู้ต้องขังจีนเทา” ไล่เช็กกล้อง-เส้นทางนำคนนอกเข้าเรือนจำ จ่อรายงานบอร์ดป.ป.ช.พิจารณาต่อ
กสม. มีมติสอบ 'คุก VIP' ส่อละเมิดสิทธิ เรียกหน่วยเกี่ยวข้องแจง
'กสม.' มีมติตรวจสอบ กรณีพบห้องวีไอพีของผู้ต้องขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ส่อเลือกปฏิบัติละเมิดสิทธิ จ่อเชิญหน่วยเกี่ยวข้องให้ข้อมูล
แจงยิบสางผบ.คุกฉาว 28พ.ย.สรุปชงรมว.ยธ.
โฆษกกรมราชทัณฑ์เผยคืบหน้าปมตรวจสอบ "คุก VIP เทา" แย้มไล่กวดเอกสารลาพักร้อน “มานพ” อดีต ผบ.คุก-เอกสารการเงินปรับปรุงห้องลับใต้บันได
รมว.ยุติธรรม เผยเจ้าหน้าที่อึดอัดพฤติกรรมอดีต ผบ.คุกพิเศษกรุงเทพ
รมว.ยุติธรรม เผยข้าราชการในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ-กรมราชทัณฑ์ สุดอึดอัดกับพฤติกรรมของ “อดีตผบ.มานพ” แย้ม ดีเอสไอเร่งตรวจสอบเส้นทางการเงิน
เซ่นคุกวีไอพี! รมว.ยธ. สั่ง 'ผบ.คุกพิเศษกรุงเทพ-เลขาฯ' ให้ออกจากราชการไว้ก่อน
พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เอื้อผู้ต้องขังชาวจีนว่า ข้อมูลจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงถือว่ามีความคืบหน้าและเริ่มมีพยานหลักฐานชัดเจนแล้ว


