03 ก.ค.2567 – นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิปพร้อมเนื้อหาในเรื่อง “ชาญ พวงเพ็ชร์ หยุดปฎิบัติหน้าที่ ใครรับผิดชอบ? ขอให้ดูกรณี ผู้ว่าฯอภิรักษ์ โกษะโยธิน เทียบเคียง” ระบุว่า กรณีที่นายชาญ พวงเพ็ชร์ ได้รับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.ปทุมธานีและอยู่ในระหว่างถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด และฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ศาลประทับรับฟ้องแล้ว ซึ่งจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนายกอบจ.ปทุมธานี ที่เพิ่งได้รับเลือกตั้งเข้ามา เมื่อ กกต.รับรองผลการเลือกตั้งแล้ว นายชาญ พวงเพ็ชร์ ก็จะดำรงตำแหน่งนายก อบจ.ปทุมธานี แต่ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่นายก อบจ.ได้ ซึ่งทำให้เกิดผลเสียหายต่อการบริหารงานของ อบจ.ปทุมธานี ซึ่งประชาชนจะได้รับผลกระทบในการหยุดปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้ทั้งจังหวัดโดยตรง
เมื่อเกิดกรณีเช่นนี้ สังคมต้องตั้งคำถามว่า ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น ระหว่างนายชาญ พวงเพ็ชร์ กับพรรคเพื่อไทย ที่มีมติส่งลงสมัครรับเลือกตั้งในนามของพรรค และประเด็นดังกล่าว ทำไมไม่มีการนำข้อเท็จจริงมาชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชน ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งชาวจังหวัดปทุมธานีหรืออย่างไร โดยเฉพาะคู่แข่งอย่าง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ไม่ได้ปราศรัยอธิบายว่า ถ้าเลือกนายชาญ พวงเพ็ชร์ เป็นนายก อบจ. ปทุมธานีแล้ว ผลที่เกิดขึ้นทางกฎหมายจะเป็นอย่างไร ทำไมมีการปกปิดความจริงกันทุกฝ่าย
การที่ชาวจังหวัดปทุมธานี เลือกนายชาญ พวงเพ็ชร์ เป็นนายก อบจ.ไม่ต่างอะไรกับการซื้อรถยนต์มาหนึ่งคัน แต่ถูกอายัดไว้ไม่สามารถใช้ขับขี่ได้ ซึ่งเป็นการเสียเงินเปล่า ไม่ได้ใช้งาน เช่นเดียวกันกรณีของนายชาญ พวงเพ็ชร์ เลือกเข้ามาแล้ว ไม่สามารถทำงานให้กับประชาชนได้
แม้ว่าจะมีแกนนำพรรคเพื่อไทย ออกมาปกป้องว่า ไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่อัตโนมัติ เหตุศาลยังไม่ได้สั่ง กกต.ไม่ได้ฟันขาดคุณสมบัติ ส่วนความเห็นของเลขาธิการคณะกฤษฎีกาไม่ใช่ต้องทำตามทุกเรื่อง ซึ่งเป็นเรื่องแปลกประหลาดมาก ที่คนในรัฐบาลไม่ยอมฟังรับความเห็นและปฎิบัติตามคำแนะนำของที่ปรึกษากฎหมายของรัฐบาลเอง
ขอยกตัวอย่างกรณีนายอภิรักษ์ โกษะโยธินได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯกทม. สมัยที่ 2 ในวันที่ 5 ตุลาคม 2551 เมื่อถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดคดีรถดับเพลิง โดยยังไม่ได้ยื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบเลย นายอภิรักษ์ก็ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นผู้ว่าฯ กทม.ทันที ในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2551 ซึ่งคดีนี้เกิดขึ้นในสมัยนายสมัคร สุนทรเวช เป็นผู้ว่ากทม และเรื่องมาสำเร็จในสมัยนายอภิรักษ์เป็นผู้ว่าสมัยแรก ซึ่งสามารถเทียบเคียงกับกรณีของนายชาญ พวงเพ็ชร์ได้ เพียงแต่มาตรฐานจิตสำนึกและความรับผิดชอบทางการเมืองของพรรคที่สังกัดแตกต่างกัน
ในทางการเมืองพรรคเพื่อไทยในฐานะต้นสังกัด และเป็นผู้อนุมัติส่งให้นายชาญ พวงเพ็ชร์ ลงสมัครรับเลือกตั้งในพรรค จะต้องแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองต่อชาวจังหวัดปทุมธานี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หยิกเล็บเจ็บเนื้อ! 'ภท.-พท.' โต้เดือดพัวพัน 'เบน สมิธ'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กรณีเบน สมิธ : ภูมิใจไทย-เพื่อไทย หยิกเล็บเจ็บเนื้อ
เพื่อไทยกระอัก! 'อนุทิน' ย้อนเจ็บ มีภาพคู่ทักษิณเยอะ ไม่เห็นมีปัญหา
"อนุทิน" เหน็บ "สุริยะ-โฆษกเพื่อไทย" ไม่รู้เรื่องอะไรเพราะไม่ได้ร่วมวง การสนทนาสำหรับผมต้องระดับสูงขึ้นไป ย้อนเจ็บภาพถ่ายคู่ทักษิณก็มีตั้งเยอะ ไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย
โฆษกภูมิใจไทย โต้เดือด โทรโข่งเพื่อไทยแกล้งตาบอด ไม่เห็นภาพทักษิณกับเบน สมิธ
โฆษกภูมิใจไทย สวนโฆษกเพื่อไทย อย่าแกล้งตาบอด ปีนี้ใครถ่ายรูปกับ "เบน สมิธ" ยัน "อนุทิน" แค่รู้จักแต่ไม่สนิท ผลงานประจักษ์ยึดทรัพย์หมื่นล้านสแกมเมอร์รายใหญ่ บีบพ้น มท.1 เหตุไม่ให้สัญชาติใครหรือไม่ เย้ย 4 เดือนใครบริหารน้ำท่วมเหลว ขณะที่ "2 เดือน" นายกฯอนุทิน" เข้ามาแก้วิกฤติ
เพื่อไทย เปิดตัว 'อดีตปลัด ก.เกษตร' ลงสนามชนบ้านใหญ่ 'ศิลปอาชา'
พท.เปิดตัว “ประยูร อินสกุล” อดีตปลัด ก.เกษตรฯ ลงสนามชนบ้านใหญ่ “ศิลปอาชา” ไม่ฟันจะปักธงเมืองสุพรรณได้หรือไม่ ชี้ขึ้นกับ ปชช. อ้อนกาเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรค
'เทพไท' ชี้ 5 ปัจจัยทำเพื่อไทยยึกยักสางแค้นซักฟอกรัฐบาล
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิปพร้อมเนื้อหา
ลูกพรรครอเก้อ! 'ทวี' ชิ่งประชุมสรรหาผู้สมัคร สส. พบโผล่หาดใหญ่กับคณะเพื่อไทย
พรรคประชาชาติได้จัดประชุมคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยที่ประชุมได้เห็นชอบส่งผู้สมัครเฉพาะใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้รวม 13 เขต มี 7 ส.ส. ในนามพรรคยังคงเป็นผู้สมัครในนามพรรค และรายชื่อทั้งหมดจะนำเข้าสู่การพิจารณาของ


