'ดร.ไชยณรงค์' อยากให้คิดเรื่องการอนุรักษ์!

11 ก.ค.2567 - ผศ.ดร.ไชยณรงค์ เศรษฐเชื้อ อาจารย์คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม โพสต์เฟซบูกในหัวข้อ “อยากให้คิด” ระบุว่า เอาเข้าจริง เมือง-ชานเมืองล้วนเคยเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพมาก่อนทั้งนั้น ชานกรุงแต่ก่อนช้างเขาใหญ่ก็เคยลงมาหากิน สนามบินสุวรรณภูมิแต่ก่อนก็คือพื้นที่ชุ่มน้ำ ทุ่งรังสิตแต่ก่อนก็มีสมัน ริมฝั่งเจ้าพระยาก็มีป่าที่เป็นสังคมพืชริมน้ำ

เมืองใหญ่อื่นๆ แม้แต่บ้านและที่ดินของเราจำนวนมาก หากสืบสาวกลับไปก็เป็นเช่นนั้น

แต่ทำไมพอพูดถึงการอนุรักษ์ กลับผลักภาระให้กับชาวนาชาวไร่ คนยากคนจน คนชายขอบ กลุ่มชาติพันธุ์ จนพวกเขาตกอยู่ในวงจรอุบาทว์ ทั้งถูกแย่งยึดที่ดินโดยประกาศพื้นที่อนุรักษ์ทับ ทั้งถูกจับกุมดำเนินคดีแม้ว่าจะเก็บเห็ดมากิน ทั้งบังคับให้อพยพ จะคืนสิทธิในที่ดินให้ก็ไม่ได้ กลัวจะขายให้นายทุน จะใช้ประโยชน์จากป่าตามวิถีชีวิตดั้งเดิมก็ไม่ได้ กลัวผลกระทบต่อความหลากหลายทางชึวภาพ แม้ว่าชีวิตจริง ชนชั้นนำและชนชั้นกลางแต่ละคนก็เสวยสุขจากการใช้ทรัพยากรและความหลากหลายทางชีวภาพ หรือทำลายสิ่งแวดล้อม ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม บางคนสุขสบายจนถึงขั้นเกินกว่าความจำเป็นมากก็มี

คำตอบประการหนึ่งก็คือ เรารับแนวคิดนิเวศวิทยากระแสหลักจากตะวันตกที่แยกมนุษย์ออกจากธรรมชาติมาปฏิบัติ ทำให้เกิดความคิดว่าธรรมชาติห้ามแตะต้อง คนจะอยู่กับพื้นที่อนุรักษ์ไม่ได้ ต้องเอาออก ไม่เอาออกก็ต้องแช่แข็งไว้อย่างนั้น

คำตอบอีกประการหนึ่งก็คือ การที่ชนชั้นนำและรวมถึงชนชั้นกลางเปลี่ยนทัศนะที่มองว่าป่าคือป่าเถื่อน ส่วนเมืองคือพื้นที่ทีมีอารยะ มาเป็นทัศนะที่ว่าป่าคืออารยะและป่าก็ถูกรวมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของอารยธรรมเมือง ป่าจึงเป็นหัวใจของการอนุรักษ์ และเราก็จะรักป่ามาก ส่วนพื้นที่ชุ่มน้ำ ป่าริมน้ำ ท้องทุ่ง จะถม จะสร้างโรงงาน จะสร้างเมือง จะถูกทำลายก็ช่างหัวมัน

ขณะที่เราปฏิเสธไม่ได้ว่าสังคมไทยเป็นสังคมที่มีชนชั้น และชนชั้นนำรวมถึงชนขั้นกลางก็มีเสียงที่ดังกว่าและมีอำนาจมากกว่าคนจน ชาวนาชาวไร่ คนชายขอบ กลุ่มชาติพันธุ์

ความรู้ดังกล่าวเมื่อบวกกับเสียงและอำนาจที่ไม่เท่ากัน คนบางกลุ่มหรือบางชนชั้นจึงสามารถกำหนดความจริงขึ้นมาได้ เช่น เราคือนักอนุรักษ์ โลกสวย เราจะยอมให้ใครทำลายธรรมชาติไม่ได้ ขณะที่สมองอีกด้านก็มองว่าพวกคนยากคนจน ชาวนาชาวไร่ คนชายขอบ กลุ่มชาติพันธุ์ คือตัวปัญหาของการอนุรักษ์ คนพวกนี้คือพวกทำลายสิ่งแวดล้อม คือพวกเห็นแก่ตัว จะคืนสิทธิในที่ดินเดี๋ยวมันก็เอาไปขายนายทุน ฯลฯ และผลิตวาทกรรมเหล่านี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนทำให้สังคมเชื่อว่าคนยากคนจน ชาวนาชาวไร่ คนชายขอบ กลุ่มชาติพันธุ์ ไม่ใช่พวกเดียวกับเราและเป็นปัญหาของการอนุรักษ์

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘สุรเดช’ ชงใช้แรงงานกลุ่มชาติพันธุ์แทนกัมพูชา

‘สุรเดช’เตรียมเสนอ ‘รมว.ตรีนุช’ ใช้แรงงาน ‘กลุ่มชาติพันธุ์’ 2 แสนกว่าคน เผยนำร่องที่เชียงรายแล้ว 700 กว่าคน ทดแทนแรงงานกัมพูชา ชี้รวมกับแรงงานจากศูนย์พักพิง 4 หมื่นคน เชื่อช่วยบรรเทาปัญหาขาดแคลนแรงงานได้

คนกรุงเข้าถึงหมอมีอายุยืนกว่าคนชายขอบ6-9ปี

ทุกคนบนโลกใบนี้อยากมีอายุยืนยาวอย่างมีสุขภาวะหรือสุขภาพที่ดี เรามาร่วมสร้างอนาคตประชากรไทยให้มีอายุยืนยาวร่วมกัน ลดการตายก่อนวัยอันควร เพิ่มคุณภาพชีวิตให้อายุยืนยาวขึ้น

ปชน. ชี้ 2 ปัญหาใหญ่หล่นหาย หลังสภาฯผ่านร่างกฎหมายคุ้มครองกลุ่มชาติพันธุ์

ปชน. ชี้ยังมีประเด็นสำคัญกฎหมายชาติพันธุ์หล่นหายระหว่างทางอยู่ หลัง 'สภาฯ' ผ่านกฎหมาย พร้อม เดินหน้าผลักดันกฎหมายลำดับรอง-แก้ พ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้อง เพื่อคุ้มครองสิทธิให้ครอบคลุมมากขึ้นต่อไป

สภาฯ เห็นชอบร่างกฎหมายคุ้มครองกลุ่มชาติพันธุ์ ปลดล็อกข้อจำกัดสิทธิที่อยู่ทำกิน

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ พ.ศ. … ที่วุฒิสภาพิจารณาเสร็จแล้ว และมีการแก้ไขเพิ่มเติม ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา

นายกฯอิ๊งค์ ดีใจสานต่อผลงานยุคเศรษฐา ลดขั้นตอนขอสัญชาติไทยให้กลุ่มชาติพันธุ์

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางฝ่าฝนที่ตกกระหนักระหว่างทาง มาพบกลุ่มชาติพันธุ์ ที่ได้รับสัญชาติไทย และมอบบัตรประชาชนให้กับตัวแทนกลุ่มชาติพันธุ์ 21 คน นำโดย น.ส.ฝน โวยเจ่อ ชาวอาข่า

‘ประเสริฐ’ ขึ้นเชียงใหม่รับข้อเรียกร้องแก้กฎหมายป่าอนุรักษ์ พร้อมชงครม.พิจารณา

รองนายกฯ "ประเสริฐ"ขึ้นเชียงใหม่พบปะรับข้อเรียกร้องแก้กฏหมายป่าอนุรักษ์จากกลุ่มสมัชชาชุมชนคนอยู่กับป่าที่ปักหลักรอตามสัญญารับปากจะนำข้อเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม. วันอังคารนี้