16 ส.ค.2567 - ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีที่วานนี้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล พ้นจากตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงจนถูกตั้งกรรมการสอบสวน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน พ.ศ.2567 นั้น ซึ่งถือว่าเป็นการสิ้นสุดตามกระบวนการแล้ว
ตนเองในฐานะรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้ลงนามในคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อน ณ เวลานั้น ยืนยันว่าได้ดำเนินการด้วยเหตุผลและเจตนาที่สุจริต ไม่มีอคติต่อผู้ใด รวมทั้งยังเป็นช่วงเวลาที่ต้องใช้ดุลยพินิจให้เป็นไปตามข้อเท็จจริงและกฎหมาย การที่เรื่องดำเนินมาจนถึงบัดนี้ ถือเป็นการแสดงออกถึงเจตนารมณ์ที่ตนเองได้ใช้ดุลยพินิจและดำเนินการไป ยืนยันว่าไม่ได้มีความรู้สึกดีใจหรือเสียใจ
“ถือว่ากระบวนการให้ออกราชการไว้ก่อนนั้นเสร็จสิ้นตามขั้นตอนของพระราชบัญญัติสำนักงานตำรวจแห่งชาติทุกขั้นตอนแล้ว หาก พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ต้องการใช้สิทธิ์เรียกร้องความเป็นธรรม ก็ยังสามารถใช้ช่องทางฟ้องร้องต่อศาลปกครองสูงสุดได้ หากศาลมีคำวินิจฉัยเช่นไร ก็ต้องปฏิบัติไปตามนั้น” รอง ผบ.ตร.
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ถูกสอบสวนวินัยร้ายแรงโดยคณะกรรมการสอบสวนข้าราชการตำรวจ ที่มี พล.ต.อ.สราวุฒิ การพานิชย์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานนั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา ส่วนผลจะออกมาเป็นเช่นไรไม่สามารถไปก้าวก่ายได้ คณะกรรมการสอบสวนจะต้องรวบรวมพยานหลักฐาน และมีดุลยพินิจว่าจะมีความผิดทางวินัยในระดับใด หากไม่ผิดก็ยุติเรื่อง หากพบว่าผิดวินัยร้ายแรงก็ดำเนินการปลดออก ไล่ออก ตามขั้นตอน ส่วนจะมองว่าเป็นการลงดาบสองหรือไม่นั้นตนเองไม่ทราบ
เมื่อถามว่า พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ พ้นจากตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. ส่งผลให้แคนดิเดต ผบ.ตร.มี 3 คน รวมถึง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ที่เป็นแคนดิเดตอาวุโสอันดับ 1 นั้น พอที่จะให้ผู้ใหญ่สามารถพิจารณา หลังจากที่มีประสบการณ์ที่ผ่านมา รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ท่านนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ที่มีหน้าที่และอำนาจตามกฎหมายกำหนด ที่จะเสนอชื่อต่อคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นอาวุโสเบอร์ไหน ก็สามารที่จะถูกหยิบเสนอชื่อได้ทุกท่านอยู่แล้ว ตนเองก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องถูกเสนอชื่อในฐานะอาวุโสอันดับ 1 ขึ้นอยู่กับการพิจารณาจากประวัติผลงาน ความประพฤติ ประกอบกับระดับอาวุโสตามกฎหมายตำรวจ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘ก.ตร.เอก’ เตือนผู้มีอำนาจ ตั้ง ‘รองผบช.-ผบก.’ 116 เก้าอี้ ยึดกฎระเบียบ ฝ่าฝืนโทษวินัย-อาญา
พล.ต.อ.เอก แจงยิบการแต่งตั้ง รอง ผบช.จำนวน 41 ผบก.75 ตำแหน่ง เตือนผู้มีอำนาจแต่งตั้งทุกระดับ ทั้งโทษวินัยและอาญา
หนุ่มขับรถขโมยท่อน้ำเทศบาล พลเมืองดีช่วยกันจับได้ทัน
พ.ต.ท.ดำรงค์ สุชชูศรี สารวัตรสอบสวน สภ.บางแก้ว รับแจ้งเหตุมีโจรขโมยตัดท่อสูบน้ำเหล็กที่ต่อไว้กับท่อยางของเทศบาลเมืองบางแก้ว
'บิ๊กต่าย' สั่งตำรวจภาค 8-9 เร่งดูแลประชาชนในพื้นที่อุทกภัยด้ามขวานเต็มที่
'ผบ.ตร.' สั่งตำรวจ ภ.8-ภ.9 ดูแลช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อุทกภัยอย่างเต็มที่ นำแนวทางที่สั่งถอดบทเรียนในพื้นที่ประสบภัยที่ผ่านมา มาปรับใช้
'สามารถ' จนมุมเชียงราย! ตำรวจรวบส่งตัวดีเอสไอ
นักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้รับแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านดู่ จ.เชียงราย ได้ควบคุมตัวนายสามารถแล้ว
หนุ่มสมุทรปราการโร่แจ้งความ มือมืดปาถุงเลือดใส่หน้าบ้าน
นายปริญญา ไกรกิจธนโรจน์ อายุ 24 ปี เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ว่า เมื่อเวลา 00.20 น. ได้มีผู้ก่อเหตุมาขว้างปาถุงเลือดสด
เช็ก 41 รายชื่อแต่งตั้งนายพลสีกากี ระดับ รองผบ.ตร.-ผบช. วาระประจำปี 2567
การประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ที่มีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเมื่อวันที่ 21 พ.ย.2567 ได้มีมติเห็นชอบบัญชีรายชื่อแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ