'ดร.ปริญญา' ยกรธน.ม.29 ยืนยันการได้รับการประกันตัวของผู้ต้องหา เป็นสิทธิพื้นฐานตามรธน.

'ดร.ปริญญา'ยกรัฐธรรมนูญม.29 ยืนยันการได้รับการประกันตัวของผู้ต้องหาเป็นสิทธิพื้นฐานตามรธน. เหตุผลที่ไม่ให้ประกันตัวเพื่อป้องกันมิให้มีการหลบหนีเท่านั้น ส่วนเหตุผลอื่นใดล้วนไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ

14 ม.ค.2565- ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า

มาตรา 29 #วรรคสาม #มาตราในรัฐธรรมนูญที่คนไม่ค่อยรู้จัก และ #ควรต้องมีการเคร่งครัดปฏิบัติตามให้มากขึ้น
จากหลัก #สันนิษฐานไว้ก่อนว่าบริสุทธิ์ หรือ presumption of innocence ทำให้รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 บัญญัติไว้ในมาตรา 29 #วรรคสอง ว่า

“ในคดีอาญา ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจําเลยไม่มีความผิด และก่อนมีคําพิพากษา อันถึงที่สุดแสดงว่าบุคคลใดได้กระทําความผิด จะปฏิบัติต่อบุคคลนั้นเสมือนเป็นผู้กระทําความผิดมิได้”

ซึ่งเป็นหลักที่ได้รับการบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับถาวรของประเทศไทยทุกฉบับตั้งแต่ปี 2492 เป็นต้นมาหลักสันนิษฐานไว้ก่อนว่าบริสุทธิ์ หรือที่มักกล่าวกันเป็นคำพูดว่า “บุคคลย่อมเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าศาลจะพิพากษา” นี้เอง ทำให้ #การได้รับการประกันตัวเป็นสิทธิพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ผู้ต้องหา หรือจำเลย สามารถสู้คดีนอกคุก และเพื่อที่จะไม่ติดคุกก่อนศาลพิพากษา

และด้วยหลักนี้เอง ทำให้รัฐธรรมนูญมาตรา 29 ต้องมีการบัญญัติไว้อีกวรรคหนึ่ง เป็น #วรรคสาม ว่า

“การควบคุมหรือคุมขังผู้ต้องหาหรือจําเลยให้กระทําได้เพียงเท่าที่จําเป็น เพื่อป้องกันมิให้มีการหลบหนี”

ดังนั้น เหตุผลที่ไม่ให้ประกันตัว เพราะ #คดีมีอัตราโทษสูง หรือ #ผู้ตัองหาจะกระทำผิดซ้ำ หรือเหตุผลอื่นใดที่ผิดไปจากนี้ ล้วนไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญทั้งสิ้น เพราะมาตรา 29 วรรคสาม อนุญาตให้ควบคุมหรือคุมขังผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่ว่าจะต้องข้อหาในคดีใด ด้วยเหตุผลข้อเดียวเท่านั้นคือ #เพื่อป้องกันมิให้มีการหลบหนี

ว่าง่ายๆ คือถ้าผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีพฤติกรรมที่จะหลบหนี หรือไม่มีความเสี่ยงที่จะหลบหนี หรือมีอุปกรณ์ติดตามตัวที่จะป้องกันการหลบหนีได้ ก็ต้องให้ประกันตัว ไม่ว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยจะต้องข้อหาในคดีใดครับ

นี่คือมาตราในรัฐธรรมนูญที่ #กระบวนการยุติธรรมควรต้องเคร่งครัดปฏิบัติตามให้มากขึ้น เพราะเราควรจะติดคุกเมื่อศาลพิพากษาแล้วเท่านั้น และนี่คือสิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญของเราทุกคนครับ

ทั้งนี้ในวันที่ 14 ม.ค.2565 เวลา 14.00 น.ศาลอาญากรุงเทพใต้ นัดฟังคำสั่งว่าจะให้ประกันตัว น.ส.เบนจา อะปัญ กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ในความผิด 2 คดี ได้แก่ คดีอ่านแถลงการณ์หน้าซิโน-ไทย และ คดีชุมนุมหน้าสถานทูตเยอรมนี หรือไม่

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘ปริญญา’ ชี้ชัด ‘ยุบสภา’ ไม่ได้ หลังนายกฯพ้นตำแหน่ง

แม้อำนาจยุบสภาจะเป็นอำนาจเฉพาะตัวของนายกฯ แต่ประเทศอังกฤษหรือประเทศอื่นใด ไม่มีที่ไหนที่ศาลมีอำนาจในการสั่งให้นายกฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่ เมื่อนายกฯ ประเทศไทยถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ได้ ผู้รักษาราชการนายกรัฐมนตรีก็ควรต้องมีอำนาจยุบสภาได้ แต่ทั้งนี้ต้องมีเหตุอันควรให้ต้องยุบสภาด้วย ไม่ใช่ยุบสภาตามอำเภอใจ

‘ปริญญา’ประเมินคดีนายกฯอิงค์รอดยากจับตาสูตรชิงลาออก

“ปริญญา”ชี้ศาลรธน.นับถอยหลังใกล้วินิจฉัยคดีนายกฯอิงค์ ประเมินรอดยาก สูตรชิงลาออกก่อนเกิดขึ้นได้ เชื่อได้เห็นแน่ โหวตผู้นำประเทศคนใหม่

'เพนกวิน' เดือด! ศาลอุทธรณ์กลับคำพิพากษาคดี 112 จำคุกอดีตแนวร่วมฯขนสมุดปกแดง

นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน ผู้ต้องหาคดี 112 ซึ่งหลบหนีออกไปต่างประเทศ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กรณีล่าสุดที่ศาลอุทธรณ์ตัดสินให้นายณัฐชนน ไพโรจน์ มีความผิดตามมาตรา 112 นั้นถือว่าเป็นอีกครั้งที่ศาล

'ปริญญา' ชี้เป้าจับตา 'กกต.' ยุบเพื่อไทยมาตรฐานเดียวยื่นก้าวไกลหรือไม่   

'ปริญญา' มองการตีความคำว่า 'ชี้นำ-ครอบงำ' กว้าง อยู่ที่ 'กกต.-ศาลรธน.' ตัดสิน หลังคำร้อง 'ยุบเพื่อไทย' ถูกรับไว้ จับตาเดินตามแนวก้าวไกลหรือไม่

นับถอยหลังคดีตากใบ! 'ปริญญา' ชี้บทพิสูจน์ครั้งใหญ่ความเชื่อมั่นยุติธรรม

“ปริญญา” ยันต้องมีความยุติธรรม ถึงจะสร้างสันติภาพชายใต้ได้ ชี้ 'คดีตากใบ' แค่เงินเยียวยาไม่พอ รัฐบาลต้องทำเต็มที่ นำตัวผู้ต้องหากลับมาดำเนินคดี  โยนคำถามใหญ่ ขาดอายุความทำอย่างไรต่อ