
“หมอประกิต” โยนคำถามใหญ่ให้รัฐบาล รายได้ภาษีบุหรี่ไฟฟ้า กับการต้องแลกด้วยจำนวนนักสูบหน้าใหม่ผุดเพิ่มในประเทศ คุ้มค่าหรือชอบธรรมทางจริยธรรมหรือไม่
10 พ.ย.2567 – ศ.นพ ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ระบุ รายได้จากภาษีบุหรี่ไฟฟ้า จะเก็บได้มากจริงหรือ ล็อบบี้ยิสต์บุหรี่ไฟฟ้าอ้างว่า ยกเลิกห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อรัฐจะมีรายได้จากภาษีเพิ่มขึ้น
แต่ในประเทศที่บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย บริษัทผู้ผลิตพยายามวิ่งเต้นให้เก็บภาษีต่ำ ๆ อ้างว่า
1. บุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัยกว่าบุหรี่มวน และ
2. เพื่อจูงใจให้คนสูบบุหรี่มวนเปลี่ยนมาสูบบุหรี่ไฟฟ้า
ซึ่งทั้ง 2 ข้อ ขัดแย้งกับข้ออ้างที่ว่า ยกเลิกการห้ามขายแล้ว รัฐจะเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้น เพราะ
1. ถ้าคนเลิกสูบบุหรี่มวนและหันมาสูบบุหรี่ไฟฟ้า รายได้ภาษีจากบุหรี่มวนก็จะลดลง ส่วน
2. ถ้าจะให้บุหรี่ไฟฟ้าเสียภาษีต่ำ ๆ แล้วรัฐบาลจะได้รับภาษีจากบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นได้สักเท่าไร
อีกประเด็นที่สำคัญมาก ที่จะทำให้รัฐบาลเก็บภาษีจากบุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้มากสักเท่าไร คือ
ที่พรรคประชาชนเสนอให้ขายบุหรี่ไฟฟ้าได้“เฉพาะชนิดที่ไม่มีกลิ่นรสหอม เย้ายวน เด็กและเยาวชน”
แต่เด็กและเยาวชน จะชอบสูบแต่บุหรี่ไฟฟ้าชนิดที่มีกลิ่นหอม ซึ่งมีถึงกว่า 17,000 กลิ่นรสให้เลือก
ดังนั้นเมื่อบุหรี่ไฟฟ้าที่มีกลิ่นหอมถูกห้ามขาย
แล้วรัฐบาลจะเก็บภาษีจากบุหรี่ไฟฟ้าชนิดที่ไม่มีกลิ่นหอม ที่คนไม่ชอบสูบ จะได้ภาษีสักเท่าไร
และบุหรี่ไฟฟ้าชนิดที่มีกลิ่นหอมที่กฎหมายห้ามขาย จะไม่มีการลักลอบขายทั่วไป อย่างเช่นที่เป็นอยู่ในขณะนี้ จะเป็นไปได้หรือ
ศาสตราจารย์อิศรา ศานติศาสตร์ อดีตอาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้เชี่ยวชาญภาษียาสูบ อดีตที่ปรึกษาองค์การอนามัยโลก และอีกหลายประเทศในภูมิภาค วิเคราะห์ว่า
หนทางเดียวที่รัฐบาลจะเก็บภาษีจากบุหรี่ไฟฟ้าได้มากขึ้น คือมีคนอายุน้อยที่ไม่สูบบุหรี่เข้ามาเป็นนักสูบบุหรี่ไฟฟ้าหน้าใหม่ เป็นจำนวนมาก
ตรงนี้มันจะคุ้มกับปัญหาสุขภาพของประชาชนในระยะยาว และค่าใช้จ่ายการรักษาโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้า ที่รัฐบาลจะต้องแบกรับหรือไม่
ยังไม่รวมปัญหาที่เด็กและเยาวชนที่เริ่มสูบบุหรี่ไฟฟ้าขณะอายุน้อย มีความเสี่ยงที่จะนำไปสู่การติดยาเสพติดชนิดอื่นๆ ซึ่งเป็นปัญหารุนแรงมากอยู่แล้ว
จึงเกิดคำถามว่า หากรัฐบาลคิดจะหารายได้เข้าประเทศ ด้วยการอนุญาตให้ขายสิ่งเสพติดที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยเฉพาะต่อเยาวชน อย่างบุหรี่ไฟฟ้า เป็นเรื่องที่สมควร และมีความชอบธรรมทางจริยธรรมหรือไม่.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ส้มขีดเส้นโหวตก่อนปีใหม่!
'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'
'ไอติม' เลี่ยงยื่นซักฟอก ใช้กลไกอื่นตรวจสอบรัฐบาลแทน
'พริษฐ์' ปัดตอบยื่นซักฟอกรัฐบาล ขอใช้กลไกอื่นของสภาตรวจสอบเข้มข้นแทน เชื่อถกแก้ รธน. วาระ 2 จบภายใน 3 วัน นัดประชุมวิปฝ่ายค้านวางกรอบ 9 ธ.ค.
โอนเงินเยียวยาน้ำท่วม สำเร็จแล้ว 4.9 พันล้าน 5 แสนครัวเรือน
'ภราดร' เผยยอดโอนเงินเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย ช่วง 1-4 ธ.ค. โอนสำเร็จแล้ว 548,126 ครัวเรือน วงเงินรวม 4.9 พันล้านบาท
รัฐบาลยกเว้น 'ค่าไฟ' พ.ย. 420 ล้าน เยียวยาน้ำท่วมสงขลา
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา เดินหน้าไปอย่างมาก โดยปัจจุบันสามารถนำประชาชนกลับบ้านไปได้กว่า 90%
'อนุทิน' สวน พท. ใครทำงานห่วย ยุครัฐบาลนิด-อิ๊งค์ ติดโพลอันดับ 2
'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'
นายกฯ ประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตร ถวายพระราชกุศล 'ร.9'
นายกฯ เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ 'ในหลวง ร.9' วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธ.ค. 2568


