'เทพไท' ชี้เป้า 200 ส.ส. ของทักษิณ เป็นไปได้ยาก

26 พ.ย. 2567 – นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง”  ระบุว่า ผล อบจ.อุดรธานี ไม่ได้ชี้วัดเป้า200 ส.ส.ของทักษิณ

การที่นายทักษิณ ชินวัตร ประกาศว่า ในการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคเพื่อไทยจะกวาดที่นั่ง ส.ส. 200 คนได้ไม่ยากนั้น ถ้าหากจะหยิบยกกรณีผลการเลือกตั้งนายกอบจ.อุดรธานี ที่นายทักษิณไปลงพื้นที่หาเสียงด้วยตัวเอง และผลการเลือกตั้งที่ออกมาอยู่ในระดับที่ห่างกัน 58,000 คะแนน  ถือว่าไม่ได้ชนะขาดลอย เพราะถ้าจะชนะขาดลอยต้องมีคะแนนห่างกันไม่น้อยกว่า 100,000 คะแนน แต่เป็นการชนะกันในระดับปานกลาง ไม่ถึงขั้นสูสี

แต่เมื่อดูการขยายฐานเสียงระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชน มีการพัฒนาทางด้านฐานเสียงที่แตกต่างกัน เพราะถ้าเปรียบเทียบกับผลการเลือกตั้ง อบจ.เมื่อปี 2563 พรรคเพื่อไทยมีคะแนนเพิ่มขึ้นแค่ 1554 คะแนน ในขณะที่พรรคประชาชนมีคะแนนเพิ่มขึ้นถึง 82,874 คะแนน ถือว่าประสบความสำเร็จในการขยายฐานเสียง แต่ไม่ประสบความสำเร็จในผลการเลือกตั้ง ที่ไม่สามารถเอาชนะได้

ถ้าหากจะนำผลการเลือกตั้งนายกอบจ. อุดรธานี ซึ่งเป็นการเมืองระดับท้องถิ่นมาเปรียบเทียบกับการเลือกตั้งระดับชาติ ไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้ เพราะเงื่อนไขที่แตกต่างกันคือ

1.การเลือกตั้งระดับชาติเป็นการเลือกตั้งทั่วไป มีพรรคการเมืองส่งสมาชิกลงสมัครรับเลือกตั้งทุกพรรค การแข่งขันกันหลายพรรค ซึ่งต่างกับการเลือกตั้งนายกอบจ. ครั้งนี้ ที่ต่อสู้กัน2พรรค ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชน

2.การเลือกตั้งระดับชาติ มีการแข่งขันกันในเรื่องแคมเปญการหาเสียง มีจุดยืนอุดมการณ์ทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง มีตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นเดิมพัน มีการสร้างกระแสกันระดับทั่วประเทศ ส่วนการเลือกตั้งท้องถิ่น เป็นเรื่องเฉพาะท้องถิ่นนั้นๆ ไม่สามารถสร้างกระแสทางการเมืองในวงกว้างได้

3.การเลือกตั้งระดับชาติ มีการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า และมีการเลือกตั้งนอกสถานที่ ทำให้คนรุ่นใหม่ที่กำลังเรียนหนังสือ และทำงานอยู่ในต่างจังหวัด สามารถใช้สิทธิ์ได้ แต่การเลือกตั้งท้องถิ่นไม่มีการเลือกตั้งล่วงหน้า และเลือกตั้งนอกเขต จึงทำให้คนที่ทำงานในต่างจังหวัด ไม่ได้เดินทางมาลงคะแนน จึงทำให้พรรคประชาชนที่มีฐานเสียงของคนรุ่นใหม่เสียเปรียบ

4.การเลือกตั้งท้องถิ่น พรรคเพื่อไทยอยู่ในฐานะแกนนำรัฐบาล สามารถใช้เงื่อนไข และกลไกอำนาจรัฐเอื้อประโยชน์ ในการสร้างคะแนนเสียงได้มากกว่าพรรคประชาชน ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน และฐานเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด เทคะแนนให้กับพรรคเพื่อไทยมากกว่าพรรคประชาชนที่เป็นฝ่ายค้าน 

5.พรรคเพื่อไทยอยู่ในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาลสามารถระดมทุน จากกลุ่มผู้สนับสนุนช่วยเหลือ ผู้สมัครของพรรคได้มากกว่าพรรคประชาชนที่เป็นฝ่ายค้าน ไม่มีกลุ่มทุนสนับสนุน ยกเว้นทุนของตัวเอง ซึ่งทำให้การหาเสียงมีความอัตคัด ฝืดเคืองมากกว่าพรรครัฐบาล

ถ้าหากจะวัดศักยภาพของพรรคเพื่อไทยว่า จะได้ที่นั่งส.ส. 200 ที่นั่งตามที่นายทักษิณประกาศเอาไว้หรือไม่ ขอให้รอดูการเลือกตั้งระดับชาติในปี 2570 จะมีความชัดเจนกว่าการเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งเงื่อนไขและบริบทแตกต่างกัน จนไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้เลย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ศึกเลือกตั้งรอบใหม่ กับ 'สามก๊กฉบับชาติวิบัติ' ภาค 3

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า สามก๊กฉบับชาติวิบัติ ภาค 3 (มีการปรับเปลี่ยนฝ่ายและชื่อตัวละครให้สอดคล้องสถานการณ์)

สแกน 100 ชื่อปาร์ตี้ลิสต์ 'เพื่อไทย' จับตาใช้สูตรปี66 จัดลำดับ

สแกน 100 ชื่อปาร์ตี้ลิสต์พท. แกนนำรุ่นใหญ่ ภูมิธรรม-สมศักดิ์-เสี่ยเพ้ง-สรวงศ์ ส่งลูก-หลังบ้าน-เครือญาติเข้าพรรค พวกย้ายพรรค-โยกสลับจากสอบตกเขตเพียบ จับตาอาจใช้สูตรเดิม เอาตัวเต็งรมต.ไว้ท้าย ลดแรงกระเพื่อม

เพื่อไทย ชูเครือญาติ 'ชินวัตร' นั่งแคนดิเดตนายกฯ อันดับ 1

"เพื่อไทย ชู "ยศชนัน" นั่งแคนดิเดตนายกฯ เบอร์ 1 ชี้ไม่เป็นปัญหาถูกมองหนีไม่พ้นตระกูลชินวัตร ลั่นเป็นโอกาส-จุดเด่น รับเป็นหน้าใหม่การเมือง เชื่อเวลา 2 เดือน ชนะใจปชช.ได้ พร้อมยัน ไม่ถูกครอบงำจาก “เยาวภา” ด้าน “สุริยะ” ยังมั่นใจ ถึงเป้า 200 ที่นั่ง ขณะที่ “จุลพันธ์” ประกาศพร้อมฝ่าด่านอำนาจรัฐ กระสุน กระแสชาตินิยม สู่ชัยชนะด้วยนโยบาย