
3 ม.ค.2568- นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์คลิปพร้อมเนื้อหาบนเฟซบุ๊กในหัวข้อ ประชาธิปัตย์-เพื่อไทย เหมือนน้ำกับน้ำมัน มีเนื้อหาดังนี้
หลังจากนายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ได้วิพากษ์วิจารณ์นายทักษิณ ชินวัตร ว่ากำลังทำให้การเมืองปั่นป่วนทั้งที่ไม่มีหน้าที่ และตำหนิรัฐบาล ที่ปล่อยประละเลยให้นายทักษิณ ชินวัตร ไม่ต้องติดคุก ทำให้ลิ่วล้อและสมุนของนายทักษิณ เรียงหน้ากันมาตอบโต้นายชวน เริ่มต้นจากนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ จนถึง นายพายัพ ปั้นเกตุ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายภูมิธรรม เวชยชัย)
จนทำให้สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์และอดีตสมาชิกออกมาตอบโต้ปกป้องนายชวนเช่นเดียวกันนับตั้งแต่นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ นายราเมศ รัตนะเชวง อดีตโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เลขานุการนายชวน หลีกภัย ก็ออกมาตอบโต้และท้าทาย สมาชิกพรรคเพื่อไทยให้ไปบอกนายทักษิณ ปรับพรรคประชาธิปัตย์ออกจากพรรคร่วมรัฐบาล และล่าสุดนายพิทักษ์เดช เดชเดโช รองโฆษกพรรค ก็ออกมาตอบโต้เช่นเดียวกัน
การเกิดวิวาทะระหว่างสมาชิกพรรคเพื่อไทยและสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เป็นเรื่องปกติทางการเมืองของพรรคการเมืองทั้ง2พรรค ที่มีพื้นฐานอุดมการณ์และจุดยืนทางการเมืองที่แตกต่างกัน เพียงแต่วันนี้การจับมือกันร่วมรัฐบาลกัน ก็เพราะการตัดสินใจของคณะกรรมการบริหารพรรคชุดปัจจุบัน และส.ส.หน้าใหม่จำนวน 21 คน ที่กำลังคุมพรรคเป็นเสียงข้างมากในพรรค จึงมีมติเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ท่ามกลางเสียงคัดค้านของผู้อาวุโส และกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ทั่วประเทศ
การออกมาท้าทายให้นายทักษิณ ปรับพรรคประชาธิปัตย์ออกจากการร่วมรัฐบาลแพทองธาร ต้องจับตาดูว่าเรื่องนี้จะจบอย่างไร เพราะในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์กรรมการบริหารพรรคและส.ส.หน้าใหม่ของพรรคจำนวน 21 คน ก็ยังเกาะติดแน่นเหมือนตีนตุ๊กแก ไม่ยอมออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลแน่นอน และนายทักษิณคงจะไม่ปรับพรรคประชาธิปัตย์ออก เพราะมีความสัมพันธ์อันดีกับผู้บริหารพรรคชุดนี้
การพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย นายทักษิณมีแต่ได้กับได้และยิ่งเป็นผลดีที่นำพรรคการเมืองคู่แข่ง อย่างพรรคประชาธิปัตย์ มาเป็นนั่งร้านทางการเมืองให้กับตัวเอง เป็นการทำลายพรรคประชาธิปัตย์ทางอ้อม และเป็นการทำลายความรู้สึกและสร้างความเจ็บปวดให้กับนายชวน หลีกภัย ที่เป็นปูชนียบุคคลของพรรคประชาธิปัตย์
การวิวาทะเกิดขึ้นในครั้งนี้ น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์ และเชื่อว่ายิ่งนานวัน ความขัดแย้งก็ยิ่งเพิ่มขึ้น เพราะพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทยเหมือนน้ำกับน้ำมัน ไม่มีวันที่จะเข้ากันได้อย่างแน่นอน
ถ้ากรรมการบริหารพรรคชุดนี้ ยังอยากจะทำงานร่วมกับพรรคเพื่อไทยต่อ ก็ควรจะย้ายออกจากพรรคประชาธิปัตย์ไปสังกัดพรรคเพื่อไทย และคืนพรรคประชาธิปัตย์ให้กับกลุ่มผู้อาวุโสในพรรคจะดีที่สุด
จะรอดูว่านายทักษิณกล้าปรับพรรคประชาธิปัตย์ ออกจากรัฐบาลตามคำท้าหรือไม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'เทพไท' ชำแหละสันดานนักการเมืองยุคนี้!
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช
'เทพไท' วิเคราะห์แคนดิเดตนายกฯ 4 พรรค!
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิปพร้อมเนื้อหา
เพื่อไทย ชูเครือญาติ 'ชินวัตร' นั่งแคนดิเดตนายกฯ อันดับ 1
"เพื่อไทย ชู "ยศชนัน" นั่งแคนดิเดตนายกฯ เบอร์ 1 ชี้ไม่เป็นปัญหาถูกมองหนีไม่พ้นตระกูลชินวัตร ลั่นเป็นโอกาส-จุดเด่น รับเป็นหน้าใหม่การเมือง เชื่อเวลา 2 เดือน ชนะใจปชช.ได้ พร้อมยัน ไม่ถูกครอบงำจาก “เยาวภา” ด้าน “สุริยะ” ยังมั่นใจ ถึงเป้า 200 ที่นั่ง ขณะที่ “จุลพันธ์” ประกาศพร้อมฝ่าด่านอำนาจรัฐ กระสุน กระแสชาตินิยม สู่ชัยชนะด้วยนโยบาย
'เทพไท' สะท้อนผลโพล ทุกพรรคมีหวังชิงแชร์คะแนนนิยม กลุ่มยังไม่เลือกใครมีสูง
ถ้าหากว่าดูผลการสำรวจของนิด้าโพลแล้ว ยังเป็นความหวังของพรรคการเมืองอื่นๆ ที่สามารถช่วงชิงหรือแชร์คะแนนนิยมของกลุ่มที่ยังหาผู้เหมาะสมในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไม่ได้
'เทพไท' แนะรัฐบาลเดิน 2 ทาง 'หวดก้นเขมร-เอาใจนานาชาติ'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิปพร้อมเนื้อหา
'เทพไท' ชี้รัฐบาลใช้มาตรา 165 ปิดเกมศึกซักฟอกฝ่ายค้าน!
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิปพร้อมเนื้อหา

