
ศาลจังหวัดนราธิวาสนัดฟังคำพิพากษาชั้นอุทธรณ์ ‘คดีเขาตะเว’ 14 ม.ค.นี้ 6 ปีกับความยุติธรรมที่คนชายแดนใต้รอคอย
13 ม.ค. 2568 – ในวันที่ 14 มกราคม 2568 เวลา 9.00 น. ศาลจังหวัดนราธิวาสนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ภาค 9 ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 71/2566 หรือ “คดีอาญาเขาตะเว” ที่พนักงานอัยการจังหวัดนราธิวาสเป็นโจทก์ยื่นฟ้องเจ้าหน้าที่ทหารพรานสองนาย ซึ่งก่อเหตุยิงชาวบ้านเสียชีวิตสามราย ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 ศาลจังหวัดนราธิวาสได้อ่านพิพากษาสั่งลงโทษจำคุกเจ้าหน้าที่ทหารสองนาย ฐานความผิดประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โทษจำคุก 6 ปี แต่เนื่องจากจำเลยให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาของศาลอยู่บ้าง ถือว่ามีเหตุบรรเทาโทษ ศาลจึงสั่งลดโทษให้ 1 ใน 3 เหลือจำคุกคนละ 4 ปี ไม่รอลงอาญา ต่อมาจำเลยทั้งสองยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้น ส่วนผู้เสียหายซึ่งเป็นโจทก์ร่วมก็ได้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นเพื่อขอให้ลงโทษผู้กระทำความผิดให้หนักขึ้นต่อไป
ผลคำพิพากษาดังกล่าว ทำให้คดีนี้กลายเป็นคดีแรก ท่ามกลางความขัดแย้งทางอาวุธในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ที่เจ้าหน้าที่ทหารถูกดำเนินคดีอาญา และศาลพิพากษาลงโทษต้องรับผิดจากการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต โดยเป็นการพิจารณาคดีในเขตอำนาจของศาลพลเรือนไม่ใช่ศาลทหาร
เหตุการณ์เขาตะเว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2562 จากการที่ชาวบ้านสามคน ได้แก่ นายบูดีมัน มะลี, นายมะนาเซ สะมะแอ และนายนายฮาฟิซี มะดาโอะ ได้ขึ้นไปบนเทือกเขาตะเว ตำบลบองอ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส เพื่อตัดไม้แปรรูป ก่อนจะพบกับชุดเจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ 45 ขณะกำลังออกลาดตระเวนบนเขาตะเว และได้ก่อเหตุยิงชาวบ้านทั้งสามจนเสียชีวิต
ภายหลังเกิดเหตุ ในปี 2564 ศาลจังหวัดนราธิวาสได้ไต่สวนการตาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 150 จนเสร็จสิ้น และนำมาสู่การฟ้องร้องคดีอาญาดังกล่าวเมื่อปี 2566
มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ร่วมกับมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม ขอเชิญชวนให้สื่อมวลชนและประชาชนที่สนใจร่วมติดตามผลคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 9 คดีเขาตะเว และร่วมเป็นกำลังใจให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตที่คาดหวังว่ากระบวนการยุติธรรมในชั้นศาลจะอำนวยความยุติธรรมได้เหมาะสมกับการกระทำความผิดของจำเลยซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ทหาร ในเหตุการณ์ฆ่าบุคคลทั้งสามอันเป็นที่รักและเป็นเสาหลักของครอบครัว และหวังว่าจะยุติวัฒนธรรมลอยนวลพ้นผิดโดยนำเจ้าหน้าที่รัฐผู้กระทำผิดมารับโทษให้ถึงที่สุด.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'มทภ.4' ระดม 400 นาย เร่งฟื้นฟู 'รพ.หาดใหญ่' ให้เสร็จวันนี้
'มทภ.4' กำชับทุกหน่วย-ทส. ระดมกำลังกว่า 400 นาย เร่งฟื้นฟูโรงพยาบาลหาดใหญ่ ปรับสภาพผิวจราจรโดยรอบให้เสร็จวันนี้ พร้อมลุยต่อถนนเส้นหลัก เปิดการจราจรให้ประชาชน ก่อนบิ๊กคลีนนิ่งเมืองทั้งหมด
'ผบ.ทสส.' สั่ง ศป.กฉ.ส่วนหน้า 8 ข้อ เร่งฟื้นฟู 'หาดใหญ่'
'ผบ.ทสส.' สั่ง ศป.กฉ.ส่วนหน้า 8 ข้อ จัดระเบียบ ‘ศูนย์พักพิง-การแพทย์’ เร่งเปิดระบบ ‘ไฟฟ้า-ประปา’ แจกถุงยังชีพ-อาหาร มาตรการ รปภ. เก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิต ตั้งจุดรวบรวมขยะ 4 พื้นที่ ย้ายยานพาหนะกีดขวาง
น้ำยังสูง! นาวิกโยธิน ส่งรถสะเทินน้ำสะเทินบก AWAV ลงพื้นที่สิงหนคร ลำเลียงอาหาร-น้ำดื่ม ช่วยปชช.
นาวิกโยธิน จัดชุดยานเกราะล้อยาง AWAV เข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่โรงเรียนบ้านบางไหน อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา ซึ่งยังคงมีน้ำท่วมสูง
แม่ทัพภาค 1 เยี่ยม 'หนองหญ้าแก้ว' มอบผ้าห่ม-ของยังชีพ ย้ำดูแลชายแดนอย่างดี
แม่ทัพภาคที่ 1 พบปะประชาชนและชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน สอบถามความเป็นอยู่ ย้ำดูแลชายแดนอย่างเข้ม พร้อมมอบผ้าห่มกันหน
ทหารชุดเคลื่อนที่เร็ว ลงพื้นที่ช่วยชาวบ้านท้ายสำเภา หลังน้ำท่วมกระทบหลายหมู่บ้าน
หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 43 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ส่งกำลังชุดบรรเทาสาธารณภัยลงพื้นที่ตำบลท้ายสำเภา อำเภอพระพรหม จังหวัด
กองทัพบก ขอความร่วมมือ 'ปชช.-กำลังพล' งดเผยแพร่ภาพ ข้อมูลการปฏิบัติการทางทหาร
เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลสำคัญถูกนำไปวิเคราะห์ต่อยอด จนส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของทหารในพื้นที่และความมั่นคงของประเทศ


