1เสียงที่เคยเลือก 'ชัชชาติ' ฟาดกลับ วิกฤตPM2.5 ศึกษามาดีแล้วแต่ทำแบบเดิมๆที่ผู้ว่าฯอัศวินทำ

12 ก.พ.2568 - นายพงศ์พรหม ยามะรัต อดีตรองโฆษกพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า

ผมมีคนรู้จักในฝ่ายบริหารของผู้ว่าชัชชาติหลายคน เช้านี้ขอเขียนแบบ “เจตนาดี” และอย่ามาผิดใจกับผม เพราะผมก็เป็น 1 เสียงที่เลือกท่านเข้ามาเช่นกัน
ที่คนมีความไม่พอใจผู้ว่าชัชชาติสูง เพราะปัญหา PM2.5 ที่ก่อมะเร็งนั้น ไม่ใช่ปัญหาใหม่
แต่วิกฤตินี้หนักขึ้น จากการเผาที่หนักขึ้นโดยเฉพาะเขมร ในยุคท่านพอดี
แต่ประชาชนไม่เห็นอะไรที่จับต้องได้ นอกจาก
ฉีดน้ำแยกอโศก กับแถลงว่าฝุ่นพิษเกิดจากอะไร
ทำแบบเดิมๆกับสิ่งที่ผู้ว่าอัศวินทำเมื่อราวๆ 6-7 ปีก่อน
กลับกับที่ผู้ว่าชัชชาติบอกว่าศึกษามาอย่างดี
แต่แผนงานตั้งแต่เตือน ระวัง ป้องกัน ลดปัญหา เยียวยา กลับไม่มีซักเรื่อง
ผมขอเสนอตัวอย่างในฐานะที่เคยศึกษาเรื่องนี้เช่นเดียวกับท่าน ว่า กทม.สามารถทำอะไรได้บ้าง
เพื่อที่ท่านจะไม่ต้องมาบ่นว่า “อำนาจ กทม.มีจำกัด” เลยทำอะไรยาก
ถือว่าผมเป็นสำนักเซี่ยงไฮ้ละกัน เพราะไปเรียนรู้เรื่องนี้จากที่นั่นในปี 2010 และ 2012 จึงนำมาเสนอสมัยช่วยงานการเมืองตั้งแต่พรรคพลังประชารัฐ พรรคกล้า และพรรคสร้างอนาคตไทย
1. กทม.จับมือกับมหาวิทยาลัย ทำวิจัยส่วนผสมของ PM1-2.5-10 ที่เข้ามาในเขตกรุงเทพ เพื่อจะรู้ถึงอันตราย เพราะฝุ่นแต่ละที่ มีพิษต่างกัน
PM2.5 จากทะเลทรายที่จีน ทำลายปอด และหลอดเลือด แต่ไม่มีสารก่อมะเร็ง
แต่ PM2.5 ในไทยนั้น หลายคนมีสมมุติฐานว่า มีสารเคมีปนมาเยอะมากเพราะเป็นการเผาเกษตร ซึ่งจะก่อมะเร็งได้เร็ว
2. หากมองว่าปัญหาจะหนักขึ้นทุกปี ควรสนับสนุนมหาวิทยาลัยในการทำวิจัย “เครื่องกรองอากาศสาธารณะ” แบบที่จีน และอินเดียเค้าทำ
อย่างที่เคยมีแนวคิดทำ “หอฟอกฝุ่น” ในราวๆปี 2562-63 ถ้าทำตอนนั้น ก็จะช่วยคนได้มากในตอนนี้
3. เร่งปลูกต้นไม้ที่หนา ใบละเอียด ดักฝุ่นได้ เป็นกำแพงตลอดแนวถนนวงแหวน อันนี้เป็น 1 แนวทางที่จีนทำสำเร็จ
จีนแยกแหล่ง PM2.5 เป็นจากมลภาวะโรงงาน ทราย เผา กับ มลภาวะจากถนน แล้วจัดการทีละเรื่อง
ทำอะไรได้ ทำก่อน
กรุงเทพน่าจะเป็นเมืองหลวงเดียวในอาเซียนที่ไม่มีการปลูกต้นไม้กันฝุ่น และดักมลพิษ ตามแนวถนนวงแหวน รวมถึงถนนที่มีรถใช้ในปริมาณสูง
ผมเสนอให้ชวนประชาชนมาทำกิจกรรม เพื่อลดการใช้งบ
3.1 ถนนวงแหวนรอบใน
3.2 ถนนวงแหวนอุตสาหกรรม
3.3 เขตลาดพร้าวที่มีพื้นที่สีเขียวต่ำมาก
ฯลฯ ตามถนนในเขตที่มลภาวะท่วม
4. เข้มงวดกับรถควันดำ “ทุกวัน” อย่ามาทำในช่วงโดนประชาชนด่า
5. ทำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ขนาดเล็กที่กระจายความช่วยเหลือลงชุมชนได้ โดยเฉพาะหน้ากาก ล้างจมูก เช็คความดัน ไอเป็นเลือด
6. ข้อนี้ ท่านทำไม่ได้ แต่เสนอได้ ด้วย “จิตใจ” ของคนกรุงเทพ คือส่งหนังสือผ่านกระทรวงต่างประเทศ ขอท้วงการเผาหนักฝั่งเขมรที่กำลังทำคนกรุงเทพตาย
ดูสิครับ
ไม่มีใครหวังให้ผู้ว่าชัชชาติแก้ปัญหาให้สำเร็จวันนี้ เดี๋ยวนี้
แต่เค้าหวังให้ท่านทำอะไรซักอย่างบ้าง
นี่ผมก็โดนคนรอบข้างแซะอยู่
“นี่ไง 1 ใน 1.3 ล้านเสียง ไหนว่าจะดีขึ้น”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อัศวิน' ดีใจได้เป็น สส.ลั่นขอทำงาน 4 เดือนเพื่อประเทศชาติ

'อดีตผู้ว่าฯ อัศวิน' ดีใจ ได้เป็น สส. ขอทำงานเพื่อประเทศชาติ มอง 4 เดือน รบ.'อนุทิน' ไม่น่ามีปัญหา บอกเป้าหมาย 'นายกฯ หนู' คือทำให้ประชาชนอยู่ดีมีสุข-สังคมสงบเรียบร้อย

กทม. เดินหน้ายกระดับมาตรการเชิงรุก แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ พร้อมความร่วมมือระดับโลก

การแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้ง ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ องค์กรระหว่างประเทศ และเยาวชนคนรุ่นใหม่ ซึ่งวันนี้ได้มาร่วมงานเปิดโครงการ Breathe Cities ในกรุงเทพมหานครด้วย โดยต้องขอขอบคุณทุกๆ หน่วยงานที่มาช่วยกัน และความสำคัญของเวทีการประชุมเชิงปฏิบัติการ Breathe Cities ในครั้งนี้คือการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากเมืองต่างๆ ทั่วโลก เพื่อจะได้นำประสบการณ์ และการดำเนินการที่เหมาะสมกับบริบทของแต่ละประเทศไปปรับใช้ นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างเครือข่ายของเมืองต่างๆ ทั่วโลกที่จะดำเนินการลดมลพิษทางอากาศร่วมกัน