'สุรเชษฐ์' จี้หาสมุดพกสุริยะ 'เจ๊มน' โต้ไม่มีใครอยากให้เกิดอุบัติเหตุ

'สุรเชษฐ์' ตั้งกระทู้ถาม 'ถนนพระรามสองสยอง' จี้ 'สุริยะ' แสดงสปิริต อย่าทำตามลูกน้องที่ประกาศ ชี้คนอยากเห็นสมุดพก รมต.มากกว่า 'มนพร' บอกไม่มีใครอยากให้เกิดอุบัติเหตุ ย้ำ 'รัฐบาล-คมนาคม' ใส่ใจแก้ปัญหา

20 มี.ค. 2568 -ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร​ ครั้งที่ 25 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง ซึ่งมีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง เป็นประธาน นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจา กรณีคานถล่มถนนพระราม 2 ต่อนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งมอบหมายให้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายสุริยะ มอบหมายให้ นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นผู้ตอบ

โดยนายสุรเชษฐ์ สอบถามถึงสาเหตุและแนวทางการแก้ไข ต่อกรณีดังกล่าว เนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนมาก มูลค่าของโครงการมหาศาล และการที่นายกรัฐมนตรี มีการเรียกประชุมด่วน เมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้ข้อสรุปอะไรที่เป็นรูปธรรคบ้าง อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีหนีสภา โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีมาตอบแทนยอมรับว่านายสุริยะเหมาะสม แต่นายสุริยะก็ยังมอบหมายให้นางมนพรมาตอบ ซึ่งอาจไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงเท่าไร

นายสุรเชษฐ์ กล่าวแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์นี้ ซึ่งมีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก เป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่ไม่ควรเกิดขึ้นในประเทศไทย หรือที่ใดในโลก เป็นความผิดพลาดเชิงวิศวกรรม นี่คือความล้มเหลว ที่ไม่อาจยอมรับได้ นี่คือความอัปยศอดสูต่อการบริหารราชการแผ่นดินที่ไม่ใส่ใจ ในเรื่องความปลอดภัย ย้ำว่า เรื่องนี้ต้องมีผู้รับผิดชอบ

นายสุรเชษฐ์ยังตั้งข้อสังเกตว่า เหตุการณ์นี้จะไม่มีทางเกิดขึ้นได้ ถ้ามีการออกแบบทางวิศวกรรม และควบคุมการก่อสร้าง เพราะเราก็เคยทำงานในสเกลใหญ่กว่านี้มาแล้ว จึงเชื่อว่า ต้องมีอะไรผิดพลาด ถึงทำให้คานพังทลายลงมา มีความแตกต่างจากคานข้างๆ อย่างไร

นายสุรเชษฐ์ มองว่า ความผิดพลาดนี้ มีผู้เล่นหลัก 3 ราย คือ ผู้รับเหมา บริษัทที่ปรึกษา และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ซึ่งต้องมีผู้รับผิดชอบหนึ่งรายเป็นอย่างน้อย หากจะเป็นศูนย์คงไม่ใช่ และหากจะปล่อยไปเช่นนั้น ตนมองว่ารัฐมนตรีควรจะต้องแสดงความรับผิดชอบต่อความล้มเหลวที่เกิดขึ้น และรัฐมนตรีต้องสรุปให้ได้ว่า สาเหตุที่แท้จริงคืออะไร ใครผิด และจะทำอย่างไร ไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคต หรือถ้าจะซื้อเวลาด้วยการลูบหน้าปะจมูก

นายสุรเชษฐ์ เน้นย้ำเรื่องโครงสร้างอำนาจ ในการตรวจสอบอุบัติเหตุรุนแรง เช่นกรณีนี้ ที่ยังมีช่องว่างทางกฎหมายอยู่ และไม่มีการสอบสวนอุบัติเหตุในเชิงลึก เพื่อตรวจสอบทางวิศวกรรมอย่างจริงจัง ถ้าจะทำกันเองตรวจกันเอง ก็คงดูไม่น่าเชื่อถือ แต่ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย เนื่องจากต้องมีคนรับผิดรับชอบจากการสอบสวน หาผู้กระทำผิด และรายงาน เพราะในขณะนี้เรายังไม่มี สิ่งที่มีอยู่ เป็นเพียงอาสาสมัคร

ดังนั้น ผลตรวจสอบที่ผ่านๆ มา จึงมีการตรวจ แบบจริงจัง แต่ไม่ค่อยได้ทำอะไร หลายๆ ครั้ง ก็ตรวจสอบแบบผ่านๆ ไป และช่องว่างทางกฎหมายนี้ อันตรายมาก เนื่องจากอาจทำให้เกิดการฟอกขาวทำให้เป็นเหตุสุดวิสัย พร้อมยกตัวอย่าง เพื่อยืนยันว่า เหตุการณ์นี้ ไม่ใช่เหตุสุดวิสัย และล่าสุดเมื่อมีการบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ ก็ไม่ทราบว่าหาสาเหตุได้หรือยัง หรือการทำความสะอาด เพื่อปัดกวาดหลักฐานไปหมดแล้ว

นายสุรเชษฐ์ ย้ำว่า ความล้มเหลวของงานในครั้งนี้ รัฐมนตรีได้สั่งให้เก็บหลักฐานอย่างครบถ้วนแล้วหรือไม่ จะส่งรายงานเพื่อตอบคำถามสังคมได้ภายในเมื่อไหร่ และการเรียกประชุมด่วนของนายกรัฐมนตรีได้อะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันบ้าง การตอบของรัฐมนตรี มีแต่ความเสียใจเยียวยา ที่พอจะเป็นรูปธรรมอยู่บ้าง คือเรื่องสมุดพก ที่ไม่ได้แก้ปัญหาอะไรในเรื่องนี้ จึงคิดว่าในครั้งหน้านายสุริยะควรต้องมาตอบ และแสดงความรับผิดชอบ เพราะประชาชนไม่ได้อยากเห็นสมุดพกผู้รับเหมา แต่เขาอยากเห็นสมุดพกรัฐมนตรี

นายสุรเชษฐ์ ยังถามถึงความรับผิดชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะที่กำกับดูแลเรื่องนี้โดยตรง ซึ่งเหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรก จึงอยากถามว่า หากไม่สามารถหาคนผิดมาลงโทษได้ ท่านก็ต้องแสดงสปิริต จะมีความรับผิดชอบอย่างไร และเมื่อไหร่ หรือจะเป็นอย่างที่ลูกน้องท่านประกาศไว้ว่า ไม่ลาออก เพราะไม่ทำให้คนตายฟื้นขึ้นมาได้ รวมถึงจะติดตามตรวจสอบที่ปรึกษาอย่างไร จะมีการควบคุมอย่างไร เมื่อรับเงินไปแล้วเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้น หรือจะมีไว้ทอนตังค์อย่างเดียวหรือ ที่สำคัญคือประชาชนอยากเห็นสมุดพกรัฐมนตรีมากกว่า

สำหรับการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง ตนเองและพรรคก้าวไกลเคยยื่นพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ถนน ที่จะมาปิดช่องว่างนี้ไปแล้ว ซึ่งเมื่อเปลี่ยนนายกรัฐมนตรี ก็ควรมาช่วยกัน รับหลักการร่าง พ.ร.บ. เพื่อหาทางออกร่วมกันในสภา ดังนั้น ตนอยากขอคำตอบแบบชัดๆ ว่า หากพวกตนจะยื่นร่างเข้าไปใหม่ ท่านจะปัดตกอย่างไร้เหตุผลอีก หรือไม่

ขณะที่ นางมนพร ชี้แจง โดยฉายภาพโครงการ บนถนนพระรามสอง ซึ่งจะมี 2 หน่วยงาน ที่รับผิดชอบ คือการทางพิเศษแห่งประเทศไทย และกรมทางหลวง ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ เป็นความรับผิดชอบของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย สาเหตุที่เกิดปัญหา เนื่องจากโครงสร้างของคานขวางทางตัวที่ 12 ซึ่งอยู่ระหว่างการเทคอนกรีต เกิดอุบัติเหตุระหว่างการทำงาน ยืนยันว่า ไม่พบการทรุดตัวของโครงสร้างฐานดังกล่าวแต่อย่างใด

นางมนพร ย้ำว่า กรมการทางพิเศษแห่งประเทศไทย มีการแต่งตั้งคณะกรรมการ สอบสวน เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง โดยใช้บุคคลที่สามเข้ามาร่วมในการตรวจสอบ ซึ่งได้รับความรู้มือจากผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ และหลังจากเกิดเหตุ ก็มีกำหนดการตรวจสอบให้แล้วเสร็จภายใน 20 วัน ซึ่งจะครบในวันที่ 8 เม.ย. ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคม และกรมการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ต้องแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์นี้ และยืนยันว่า เราไม่อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้น ส่วนเรื่องหลักและเทคนิควิศวกรรม ภายหลังการตรวจสอบเสร็จสิ้น จะมีการนำข้อมูลมาชี้แจงต่อไป

สำหรับการเก็บกวาดหลักฐาน ยืนยันว่า นายสุริยะได้กำชับให้มีการเก็บหลักฐานต่างๆ ที่จะมี ผลต่อการพิจารณา ทั้งเรื่องของคดี และความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างรอบคอบ รวมถึงยังมีมาตรการเยียวยา ที่เป็นไปตามมาตรการทางกฎหมาย ย้ำว่า ดูแลอย่างดีที่สุด ทั้งในความเป็นมนุษย์ และความเป็นลูกจ้างของบริษัท โดยคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของครอบครัว และผู้ได้รับความเสียหาย

ส่วนการที่นายกรัฐมนตรีรีบประชุมเร่งด่วนนั้น ได้มีมาตรการเรื่องความปลอดภัยในการดำเนินงานของทุกโครงการ ทั้งยังอนุญาตให้ผู้รับเหมามีการก่อสร้างในช่วงกลางคืน โดยการปิดถนน 2 เลน เพื่อไม่ให้กระทบต่อการสัญจรของประชาชน ส่วนมาตรการเรื่องความผิด ก็มีมาตรการ เรื่องสมุดพก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการ ที่กรมบัญชีกลางจะเสนอเข้ามาที่คณะรัฐมนตรี หากเสร็จสิ้น ก็จะสามารถใช้ในกำกับดูแลได้ ย้ำว่า มีการนำบุคคลที่สามเข้ามาตรวจสอบด้วย เพื่อให้ไม่เกิดความแคลบแคลงสงสัยจากประชาชน ทั้งนี้ เราคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัย เพื่อการป้องกัน และควบคุมไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ พร้อมมีกลไกในการตรวจสอบตั้งแต่เริ่มต้นการก่อสร้างจนจบโครงการ

ส่วนคำถามที่ว่า ถ้าเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว จะมีการรับผิดชอบอย่างไร เราขอไม่โทษว่าโครงการดังกล่าวเกิดขึ้นในรัฐบาลไหน แต่ความรับผิดชอบของผู้บริหารหน่วยงานต่างๆ ได้ถูกแบกบนบ่าของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เราจึงพยายามหาแนวทาง มาตรฐานการกำกับดูแล

นางมนพร กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ รัฐบาลไม่ได้ละเลย และขอย้อนถามไปว่า มีรัฐมนตรีท่านไหน เมื่อมาดำรงตำแหน่งแล้ว ต้องการให้อุบัติเหตุเกิดขึ้นในโครงการที่ตัวเองรับผิดชอบ คงไม่มีรัฐบาลไหนต้องการให้ เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น หรือเกิดความสูญเสียต่อประชาชน ย้ำว่า เหตุการณ์นี้ เราไม่ได้บอกเพียงแค่เสียใจอย่างเดียว แต่กระบวนการทั้งหมด เรายืนยันว่า จะดูแลให้อย่างดี กระทรวงคมนาคมภายใต้การนำของนายสุริยะ มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ติดตามงานอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ขอขอบคุณ และจะนำข้อสังเกตไปดำเนินการต่อ

สำหรับร่าง พ.ร.บ.ถนนนั้น ทั้งการเสนอกฎหมาย และบรรจุร่าง พ.ร.บ.เป็นเรื่องของสภา ท่านก็มีสิทธิ์ที่จะเสนอ ส่วนจะมีการปัดตกหรือไม่ เหตุการณ์ยังไม่เกิดขึ้น หลายร่าง พ.ร.บ.เราก็เห็นชอบ หลายร่างก็เห็นต่าง สุดท้ายก็อยู่ที่ความเห็นของสมาชิกในสภา ยืนยันว่า หากข้อเสนอมีประโยชน์ต่อประชาชน เราก็ทำงานด้วยกันได้