ครป.ประเมินผลการซักฟอกนายกฯ 5 ข้อ หวังพรรครัฐบาลร่วมกันแก้ไขปัญหาให้ลุล่วงโดยเร็ว

26มี.ค.2568- นายเมธา มาสขาว รักษาการเลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) เปิดเผยถึงการประเมินผลการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ดังนี้

1.การทำหน้าที่ของประธานสภา-น่าเกลียด การประท้วงของสมาชิกทีมพิทักษ์นายก-น่าอาย และการตอบข้อกล่าวหาของนายกทำให้คนไทย-หน้าซีด, น่าเกลียดเพราะการทำหน้าที่ของประธานไม่เป็นกลางทางการเมือง น่าละอายเพราะการประท้วงดูไม่มีเหตุผลและสติปัญญา และน่าซีดเพราะนายกตอบคำถามไม่ได้และดูขาดวุฒิภาวะในการเป็นผู้นำประเทศ

2.การอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวครั้งนี้ แต่เป็นการอภิปรายพ่วงรัฐมนตรีหลายคนในพรรคร่วมที่ส่อทุจริตและนายกปล่อยปละละเลยในฐานะหัวหน้ารัฐบาล รวมทั้งมีหลายประเด็นที่นายกถูกกล่าวหาโดยตรงแต่ไม่สามารถตอบคำถามชี้แจงหลักฐานให้ความกระจ่างเพียงพอได้ นอกจากการเสียดสีและปล่อยให้มีสมาชิกประท้วงตอบโต้ที่ขาดวุฒิภาวะ ทำให้ภาพลักษณ์รัฐสภาตกต่ำและทำให้การเมืองไทยดูน่าขายหน้าต่อประชาคมโลก

3.พรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นแกนนำรัฐบาลและเคยเป็นฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ อย่างมืออาชีพมาก่อน แต่คราวนี้กลับหน้ามือเป็นหลังมือเมื่อเป็นรัฐบาล ซึ่งควรปล่อยให้พรรคฝ่ายค้านอภิปรายอย่างเต็มที่เพื่อให้ประชาชนได้ตัดสิน การปกป้องนายกแพทองธารมากเกินไปทำให้เป็นเหมือน "รัฐบาลคุณหนู" ขาดความน่าเชื่อถือที่จะบริหารบ้านเมืองและนำประเทศออกจากวิกฤต

4.เรื่องสำคัญที่ทำให้นายกอาจขาดความไว้วางใจจากประชาชนมากที่สุด คือกรณีนายกทำตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือตั๋ว PN เพื่อเลี่ยงภาษีการรับให้ตามกฎหมาย ส่อเจตนาทำนิติกรรมอำพรางซ้ำรอยอดีตนายกทักษิณ ซึ่งสรรพากรและ ป.ป.ช.ต้องตรวจสอบโดยเร็ว สมัยก่อนบิดาของนายกก็เคยใช้ตั๋วสัญญาใช้เงินโอนหุ้นให้ครอบครัวก่อนขายชินคอร์ป 7 หมื่นกว่าล้านเพื่อเลี่ยงภาษีและถูกกล่าวหาว่าทุจริตเชิงนโยบาย สมัยนี้แม้จะตัวเลขน้อยกว่ามากแต่เป็นข้อกล่าวหาร้ายแรงและสิ้นความไว้วางใจได้ ความจริงถ้าหากนายกชำระก่อนเข้ารับตำแหน่งจะสง่างามกว่านี้ แต่ผ่านมา 9 ปีไม่ชำระคือเจตนาเอาเปรียบประชาชนเลี่ยงภาษีโดยตรง นายกควรต้องมีความรับผิดชอบมากกว่าคนทั่วไป

อีกเรื่องคือกรณีอุยกูร์ นายกดำเนินนโยบายต่างประเทศผิดพลาดต่อความขัดแย้งในภูมิรัฐศาสตร์โลกใหม่ ปล่อยให้รัฐมนตรีไม่กี่คนดำเนินการโดยขาดการประเมินผลกระทบอย่างรอบด้านของฝ่ายความมั่นคง เป็นเหตุให้ยุโรปประณามและสหรัฐแบล็คลิสต์ปฏิเสธวีซ่าผู้นำรัฐบาล ประเทศไทยสูญเสียบาลานซ์และความไว้วางใจจากนานาชาติทั้งๆ ที่สามารถตัดสินใจให้ถูกต้องและได้รับการยอมรับจากทุกฝ่ายได้ รวมถึงการแก้ปัญหาแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ที่ต้องทำลายโครงสร้างส่วยและร่วมมือกับกัมพูชาแก้ปัญหาอย่างจริงจัง

5.เรื่องสำคัญบางเรื่องยังไม่มีการอภิปราย อาจจะให้เวลารัฐบาลแก้ไขทำต่อ เช่น ปัญหาค่าน้ำมันและค่าไฟฟ้าแพง เศรษฐกิจผูกขาดและทุนแทรกแซงองค์กรภาครัฐ โดยเฉพาะปัญหาการขาดคุณสมบัติ ประธาน กสทช. แต่ยังทำหน้าที่อยู่ ยังไม่มีการอภิปรายความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรีที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้ ผมเห็นว่าการอภิปรายพาดพิงบุคคลภายนอกควรทำได้ทั้งหมดหากเป็นหลักฐานความผิดที่เชื่อมโยงถึงนายกและรัฐมนตรีโดยตรง และควรพูดได้ทุกเรื่องในสภานิติบัญญัติเพื่อแก้ปัญหาประเทศ ไม่เช่นนั้นก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้จริง และจะกลายเป็นปาหี่ทางการเมือง โดยเฉพาะการเมืองวันนี้มีตัวละครที่อยู่เบื้องหลังการเมือง คอยชักใยเป็นผู้มีอิทธิพลครอบงำพรรคและไม่ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สิน ไม่ว่าจะเป็นคุณทักษิณหรือคุณเนวินที่เคยถูกกล่าวหา ต่อมาจึงมีกฎหมายป้องกันห้ามผู้ไม่ใช่สมาชิกครอบงำพรรคการเมืองขึ้น

การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ทำให้รัฐบาลคุณหนูมีมลทินหลายเรื่อง ผมหวังว่าพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหลายจะร่วมกันแก้ไขปัญหาให้ลุล่วงได้โดยเร็ว