27 มี.ค.2568 – นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิปพร้อมเนื้อหาบนเฟซบุ๊กในหัวข้อ “เอฟเฟกต์ จากศึกซักฟอก” ระบุว่า หลังจากการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแล้ว มีผู้สื่อข่าวได้ถามนางสาวแพทองธาร เรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งนางสาวแพทองธาร ยืนยันว่าไม่ปรับ และมีการวิ่งตำแหน่งกันหลายทาง ลองดูก็แล้วกันว่า วิ่งทางไหนได้ผล
โดยปกติทางการเมืองหลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว จะมีความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไม่มากก็น้อย และครั้งนี้ก็เช่นเดียวกันเชื่อว่า จะต้องมีการปรับคณะรัฐมนตรีอย่างแน่นอน แม้ว่านางสาวแพทองธารจะออกมายืนยันว่า ไม่มีการปรับ ครม. แต่ผู้มีอำนาจสูงสุดของรัฐบาลชุดนี้ คือนายทักษิณ ชินวัตร และอำนาจการตัดสินใจทางการเมือง ก็อยู่ที่นายทักษิณ ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริง เป็นผู้กำหนด และบุคคลที่ต้องการเป็นรัฐมนตรี ก็ต้องวิ่งเต้นกับนายทักษิณ จนนางสาวแพทองธารถึงกับท้าทายว่า ลองดูวิ่งทางไหนจะได้ผล
ผมเห็นว่าการปรับ ครม.ที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ น่าจะมาจากเหตุผล คือ
1.เป็นสไตล์การเมืองของพรรคเพื่อไทย ที่มีการปรับรัฐมนตรีกันบ่อยที่สุด เหมือนเก้าอี้ดนตรี หรือสมบัติผลัดกันชม
2.จะมีการปรับเฉพาะในส่วนของพรรคเพื่อไทยเท่านั้น ยังไม่มีเหตุที่ต้องไปล้วงลูก และแทรกแซงการปรับรัฐมนตรีของพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ
3.ไม่มีการยึดกระทรวงหลักคืน หรือแลกเปลี่ยนกระทรวงกับพรรคร่วมรัฐบาล หรือปรับรัฐมนตรีสลับกระทรวงใหม่
4.ไม่มีการปรับพรรคร่วมรัฐบาล โดยเอาพรรคร่วมรัฐบาลเดิมออก หรือเอาพรรคใหม่เข้า จะมีเฉพาะกลุ่มงูเห่าเข้ามาสังกัดพรรคร่วมรัฐบาลเดิม เพื่อหวังขอโควตารัฐมนตรีเพิ่ม
ส่วนการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองถึงขั้นยุบสภานั้น เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย ด้วยเหตุผล คือ 1.พรรคร่วมรัฐบาลยังไม่พร้อมที่จะเข้าสู่สนามการเลือกตั้งใหม่ เพราะต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก และทุนในการเลือกตั้งที่ผ่านมาก็ยังถอนทุนได้ไม่ครบ 2.ดีลลับระหว่างระบอบทักษิณกับฝ่ายอนุรักษ์นิยม 4 ข้อ ทำได้ 2 ข้อ คือนายทักษิณกลับมาโดยไม่ต้องติดคุกแม้แต่วันเดียว กับได้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล คนในครอบครัวชินวัตรเป็นนายกรัฐมนตรี ยังเหลือดีลลับอีก 2 ข้อ คือพานางสาวยิ่งลักษณ์กลับบ้าน และต้องเอาชนะพรรคประชาชนให้ได้
จนถึงบัดนี้นางสาวยิ่งลักษณ์ก็ยังกลับมาไม่ได้ และถ้าหากมียุบสภาตอนนี้ ประเมินแล้วว่ายังไม่สามารถเอาชนะพรรคประชาชนได้ จึงทำให้พรรคร่วมรัฐบาลต้องกอดคอกันไปอย่างทุลักทุเล จนกว่าดีลลับทางการเมืองจะประสบความสำเร็จ และพรรคร่วมรัฐบาลสะสมทุนเพื่อการเลือกตั้งครั้งใหม่ได้เพียงพอแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'เทพไท' บอกบรรยากาศหาเสียงเหมือนย้อนปี 2535 ยุคพรรคเทพ-พรรคมาร
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิปพร้อมเนื้อหา
'ทักษิณ' แฮปปี้รับปีใหม่ในเรือนจำ ลูกเยี่ยมเล่าย้อนอดีตสมัยไทยรักไทยได้เบอร์9 กวาด 377 เสียง
‘อิ๊งค์’ เผย ‘ทักษิณ’ สดชื่นแฮปปี้รับปีใหม่ 2569 พร้อมเล่าความหลังปี 2548 พรรคไทยรักไทยสมัยทักษิณ จับได้เบอร์ 9 กวาดเสียง สส.377 เสียง มองเพื่อไทยได้เบอร์ 9 เป็นเลขหลักเดียว คนมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งจำง่าย เลือกง่าย ให้กำลังใจเพื่อไทยคว้าชัยเลือกตั้งใหญ่
'เทพไท' วิเคราะห์เทคนิคการจัดลำดับ 'ปาร์ตี้ลิสต์' 5 พรรคใหญ่ สู้ศึกเลือกตั้ง
การจัดลำดับปาร์ตี้ลิสต์ในพรรคต่างๆ ซึ่งแต่ละพรรคมีสไตล์การจัดลำดับแตกต่างกันไป แต่ที่เห็นคล้ายคลึงกันคือ ในบัญชีลำดับท้ายของปาร์ตี้ลิสต์จะเห็นคนที่มีบทบาทและคนที่มีชื่อเสียงหลายคน
'เทพไท' จี้พรรคการเมืองต้องประกาศเลือกข้าง!
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิปพร้อมเนื้อหา
'เทพไท' ยกนิ้วให้ 'อภิสิทธิ์' กล้าประกาศไม่เอากล้าธรรม!
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิปพร้อมเนื้อหาบนเฟซบุ๊ก
'เทพไท' ชำแหละสันดานนักการเมืองยุคนี้!
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช

