ป.ป.ช. รวบอดีตบิ๊ก ขรก. เอี่ยวขบวนการออกโฉนดรุกป่าชายเลนคาบ้านกลางกรุง
22 พ.ค.2568 - สำนักงาน ป.ป.ช. ภายใต้การอำนวยการของนายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ มอบหมายให้นายธนิต สุวรรณากาศ นักสืบสวนคดีทุจริตชำนาญการพิเศษ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการกลุ่มสืบสวนและปฏิบัติการข่าว 1 พร้อมด้วยพนักงานเจ้าหน้าที่กลุ่มสืบสวนฯ 1 ร่วมกับ เจ้าพนักงานตำรวจสถานีตำรวจนครบาลประชาชื่น เข้าตรวจค้นที่พักต้องสงสัย และจับกุมตัวนายองอาจ (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 ที่ 16/2567 ลงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 15
สืบเนื่องจากเมื่อครั้งที่ นายองอาจ (สงวนนามสกุล) ขณะดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน จังหวัดกระบี่-พังงา-ตรัง-สตูล ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน จังหวัดกระบี่ - พังงา - ตรัง - สตูล มีอำนาจพิจารณาวินิจฉัย เสนอความเห็นในการควบคุมและคุ้มครองที่ดินของรัฐ การจัดที่ดินเพื่อประชาชนและการออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน ได้ร่วมกับพวกซึ่งมีนายกองค์การบริหารส่วนตำบลตลิ่งชัน อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ ผู้ใหญ่บ้าน นายช่างรังวัด เจ้าพนักงานที่ดิน และภาคเอกชน ใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต กระทำการรับรองหลักฐานอันเป็นเท็จ โดยได้พิจารณารายงานการสำรวจเขตที่ดินพร้อมเอกสารประกอบการพิจารณาออกโฉนด อันเป็นที่สาธารณะ ที่ป่าชายเลน ป่าชายหาด คลอง และหาดทราย และไม่มีการทำประโยชน์ในพื้นที่ดังกล่าวจริง ซึ่งไม่สามารถออกโฉนดได้โดยชอบด้วยกฎหมาย แต่กลับใช้อำนาจในฐานะเจ้าพนักงานที่ดิน เป็นผลให้ภาคเอกชน ได้ไปซึ่งสิทธิในที่ดิน เป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น เกิดความเสียหายแก่องค์การบริหารส่วนตำบลตลิ่งชัน อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ กรมที่ดิน และที่ดินสาธารณะประโยชน์ ทั้งนี้ ยังตรวจพบว่านายองอาจ (สงวนนามสกุล) เป็นผู้ที่ถูกสำนักงาน ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดในข้อกล่าวหา ร่วมกันเดินออกสำรวจโฉนดที่ดินในพื้นที่ตำบลหนองหญ้าปล้อง อำเภอหนองหญ้าปล้อง จังหวัดเพชรบุรี เมื่อปี 2547 โดยมิชอบ และมีเรื่องถูกกล่าวหาร้องเรียนอีกจำนวน 5 เรื่อง
พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการติดตามและขอหมายค้น เพื่อเข้าจับกุมนายองอาจ (สงวนนามสกุล) ที่บ้านพัก ในพื้นที่แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร จากนั้นเจ้าพนักงานชุดจับกุมได้ควบคุมตัวไปสถานีตำรวจนครบาลประชาชื่น เพื่อทำบันทึกการจับกุม พิมพ์ลายนิ้วมือผู้ถูกจับ ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน โดยดำเนินการตามที่พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 และจะนำตัวไปส่งให้ผู้ว่าคดี สำนักคดี สำนักงาน ป.ป.ช. (ผู้รับมอบอำนาจโจทก์) เพื่อฟ้องคดีต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 ต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
งามไส้!จับคาสำนักงานเจ้าหน้าที่สรรพากรตบทรัพย์บริษัทเลี่ยงเก็บภาษี
ตำรวจ ปปป.ร่วมกับบุกจับคาสำนักงานเจ้าหน้าที่สรรพากรรีดเงินบริษัท เลี่ยงเก็บภาษีเข้ารัฐ
จำคุก 1 ปี 'ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร' ผิด ม.157 คดีตรวจรับงานเท็จ ยกฟ้องข้อหาทุจริต-ฮั้วประมูลสร้างอาคารหน่วยพิทักษ์ฯ
เปิดคำพิพากษาคุก 1 ปีไม่รอลงอาญา “ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” ผิด ม.157 คดีตรวจรับงานเท็จ โครงการก่อสร้างที่ทำการหน่วยพิทักษ์ป่าห้วยคมกฤต ส่วนข้อทุจริตฯ-ฮั้วประมูลยกฟ้อง
'อดีตผู้พิพากษา' ชี้ช่องฟ้อง กรรมการ ป.ป.ช. ฐานประพฤติมิชอบ จากปม 'นาฬิกาหรู'
นายวัส ติงสมิตร นักวิชาการอิสระ อดีตผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา และอดีตประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) โพสต์เฟซบุ๊ก เรื่อง จะฟ้องกรรมการ ป. ป. ช. ฐานประพฤติมิชอบได้อย่างไร มีเนื้อหาดังนี้
'บิ๊กเต่า' ไม่มีแผ่ว! นำทีมจับนายกเทศบาลส่องดาว
'บิ๊กเต่า' นำทีม 'ป.ป.ท.-ป.ป.ช.' จับนายกเทศบาลส่องดาวเรียกรับเงินต่อสัญญาจ้างงาน
ป.ป.ช.ฟัน 'ไวพจน์' อดีตสส.กำแพงเพชร ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง ถือครองที่ดินโดยมิชอบ
นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง สส.กำแพงเพชร เมื่อปี 2562 ยึดถือและครอบครองที่ดิน ภ.บ.ท. 5
ศาลอุทธรณ์ สั่งเพิ่มโทษจำคุก 5 จำเลย คดี นรต. กระโดดร่มไม่กาง เสียชีวิต
ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 ได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 1 (ภาค 7) โจทก์ ยื่นฟ้อง จำเลยรวม 9 คน ในคดีหมายเลขดำที่ อท.17/2563 (คดีหมายเลขแดงที่ อท.11/2565 ) โดยระหว่างการพิจารณาคดี บิดามารดาของนักเรียนนายร้อยตำรวจ ช. และบิดามารดาของนักเรียนนายร้อยตำรวจ ณ. ได้รับอนุญาตให้เข้าเป็นโจทก์ร่วมที่ 1 ถึงที่ 4


