หนาว! 4 หน่วยงานประสานพลังสางปมเงิน 12 ล้าน

'ป.ป.ช.-ป.ป.ท.-ปปง.-ป.ป.ป' ร่วมคลี่ปมเส้นทางเงิน 12 ล้านบาท

11 มิ.ย.2568 - ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) , สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) , สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ป.ป.ป.) รวม 4 หน่วยงาน ในฐานะชุดคลี่คลายคดีเงิน 12 ล้านบาท

พล.ต.ท.สุรพล ผบช.ภ.1 เปิดเผยก่อนเข้าประชุมว่า การประชุมในวันนี้เป็นการวางแนวทางการสืบสวนสอบสวน เพื่อแบ่งหน้าที่การทำงานของแต่ละหน่วยงานให้ชัดเจนไม่ซ้ำซ้อนการทำงานกัน เบื้องต้นจากหลักฐานเชื่อว่าเงินจำนวน 12 ล้านบาท ถูกนำออกมาจากห้องพักของนายทวีวัฒน์ แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเงินเป็นของนายทวีวัฒน์จริงหรือไม่ จึงต้องมีการพิสูจน์ทราบ

“ส่วนเงิน 12 ล้านบาท จะเป็นเงินที่นายทวีวัฒน์เตรียมไว้ที่จะส่งต่อไปให้กับบุคคลที่สามหรือเป็นเงินที่ บุคคลอื่นถอนจากธนาคารเพื่อนำมาให้นายทวีวัฒน์หรือไม่นั้นอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลจากธนาคารกสิกรไทย”ผบช.ภ.1 กล่าว

ภายหลังการประชุมกว่า 1 ชั่วโมง ผบช.ภ.1 เปิดเผยว่า วันนี้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มาครบทุกองค์กร เพื่อหารือกันว่าจะตรวจสอบที่มาที่ไปของเรื่องนี้อย่างไร ซึ่งวันนี้ได้แบ่งหน้าที่กันทำแล้วเรียบร้อย ส่วนทางตำรวจภูธรภาค 1 ได้ทำหนังสือถึงธนาคารกสิกรไทยแล้ว โดยขอข้อมูลจากธนาคารว่าเงินชุดนี้มีที่มาอย่างไร อย่างไรก็ตามจะต้องรอหนังสือธุรกรรมการเงินจากทางธนาคารก่อน แต่ระหว่างรอตำรวจก็เดินหน้าสืบสวนโดยสั่งการให้ชุดทำงานรายงานผลคืบหน้าทุกสัปดาห์

นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ระบุว่า ส่วนของรายละเอียดแบ่งหน้าที่กันทำแล้วเป็นที่เรียบร้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของการตรวจสอบเส้นทางการเงิน ซึ่งยังมีอะไรที่ต้องทำอีกเยอะ เพื่อพิสูจน์ว่าเงินนี้ได้มาอย่างไร งานนี้คงไม่นานเกินรอ ส่วนเรื่องเงินก้อนนี้จะบอกได้หรือไม่ว่ามาจากการทุจริต นายภูมิวิศาล บอกว่า อยู่ในระหว่างการตรวจสอบ วันนี้การตรวจสอบเริ่มนับหนึ่งแล้ว จากนี้ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ทำหน้าที่สักระยะหนึ่ง ส่วนจะโยงเข้าเรื่องการเมืองหรือไม่ ยังตอบไม่ได้ แต่ยืนยันว่า หากเงินถึงใครก็ดำเนินการถึงคนนั้น ตนให้คำมั่นได้ว่าไม่มีคำว่าหนักใจสำหรับเจ้าหน้าที่

เมื่อถามว่าการถอนเงินในปี 63 เป็นบัญชีเดียวหรือไม่ นายภูมิวิศาล ตอบว่า ขณะนี้อยู่ในสำนวน แต่เรามีข้อมูลในระดับหนึ่งแล้ว ว่าออกมาจากบัญชีจำนวนหนึ่ง ถามต่อว่าเจ้าของบัญชีมีเจ้าหน้าที่รับหรือคนดังด้วยหรือไม่ นายภูมิวิศาล ตอบว่า ไม่ทราบ

ถามต่อว่าเงินก้อนนี้ เป็นเงินที่เตรียมไหลออกหรือไม่ นายภูมิวิศาล ตอบว่า ยังตอบไม่ได้ เพราะเงินตั้งอยู่ในจุดที่พบ ส่วนเงินจะเข้าหรือออกทาง ปงง. จะเป็นผู้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน รวมถึงตรวจสอบธุรกรรมทั้งหมดของนายทวีวัฒน์ ว่ามีจุดน่าสงสัยหรือเชื่อมโยงไปถึงบุคคลอื่นหรือไม่

ด้านนายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. กล่าวถึงมติการตรวจสอบการยื่นทรัพย์สินของภรรยานายทวีวัฒน์ที่เป็นผอ. ในหน่วยงาน ป.ป.ช. ว่า ตอนนี้ภรรยาของนายทวีวัฒน์ ติดภารกิจอยู่ที่ต่างประเทศ หากเสร็จภารกิจแล้วจะต้องชี้แจงว่ารับทราบหรือไม่สำหรับเงินก้อนนี้ อย่างไรต้องให้ความเป็นธรรม

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ 'เบน สมิธ' ต้องรุกกลับปราบสแกมเมอร์ให้สิ้นซาก

'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่าพะวงกับรูปถ่ายร่วมเฟรม 'เบน สมิธ' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ อ้างไม่สนิท จี้ปฏิบัติให้จริง รุกกลับปราบ'แก๊งสแกมเมอร์' ให้ราบคาบจากไทย ลั่นรู้นะ คนปล่อยรูปหวังทำลายการเมือง

'พงศกร' ตีปี๊บบอก ปปง.ยึดทรัพย์ทุนเทากว่า 1 หมื่นล้านจากข้อมูล ปชป.ส่งให้!

'ปปง.' ยึด-อายัดทรัพย์สแกมเมอร์ข้ามชาติ กว่า 1 หมื่นล้าน หลัง 'ปชป.' ยื่นหลักฐาน ด้าน 'พงศกร' ขอบคุณ ย้ำ พร้อมสานต่อภารกิจสร้างความโปร่งใส

อย่าลงทะเบียนผ่านเฟซบุ๊ก-ติ๊กต็อก-ไลน์ แนะ 3 ช่องทางขอเงินคืนจาก ปปง.

รัฐบาลย้ำ ปปง. ไม่มีระบบคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย ทางเฟซบุ๊ก-ติ๊กต็อก-ไลน์ เตือน ปชช. อย่าหลงเชื่อลงทะเบียนขอรับเงินคืน แนะ 3 ช่องทางที่ถูกต้อง

นายกฯ จ่อเป็นประธานลงนามเอ็มโอยูความร่วมมือ 14 หน่วยงานปราบ 'สแกมเมอร์'

โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ เตรียมเป็นประธานลงนามเอ็มโอยูความร่วมมือ 14 หน่วยงานปราบสแกมเมอร์ 6 พ.ย.นี้ ยัน เดินหน้าบูรณาการ ให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม