นายกฯ แพทองธาร โพสต์ห่วงสถานการณ์อิสราเอล–อิหร่าน สั่งตั้งศูนย์ช่วยเหลือคนไทยในพื้นที่ขัดแย้ง แต่กลับถูกประชาชนบนโซเชียลถล่มยับ จวก “ปล่อยเขมรหันปืนใส่ไทย แต่ดันห่วงตะวันออกกลาง” สะท้อนภาพความนิยมทรุดหนัก ชาวเน็ตเหน็บแรง “บ้านตัวเองจะไหม้ ยังมัวห่วงคนอื่น!”
14 มิถุนายน 2568 - เมื่อเวลา 20.05 น.นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน พร้อมสั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศตั้ง “ศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉิน” หรือ Rapid Response Center (RRC) เพื่อช่วยเหลือคนไทยในพื้นที่ พร้อมทั้งประสานกระทรวงกลาโหม เตรียมพร้อมสำหรับการอพยพคนไทยหากสถานการณ์เลวร้ายลง
โดยระบุในโพสต์ว่า
“รัฐบาลไทยห่วงกังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านที่รุนแรงขึ้น และขอให้ทุกฝ่ายยับยั้งชั่งใจเพื่อไม่ให้สถานการณ์บานปลายและเลวร้ายลง ดิฉันได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศจัดตั้งศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉิน (Rapid Response Center: RRC) เพื่อช่วยเหลือคนไทยในพื้นที่แล้ว และได้สั่งการให้ประสานงานกับกระทรวงกลาโหมในการเตรียมความพร้อมที่จะอพยพคนไทยหากสถานการณ์แย่ลงค่ะ”
โพสต์ดังกล่าวของนายกฯ กลับสร้างแรงกระเพื่อมในทางลบ เมื่อประชาชนจำนวนมากเข้าไปแสดงความคิดเห็นในลักษณะตำหนิและวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง โดยเฉพาะการแสดงความไม่พอใจว่ารัฐบาลภายใต้การนำของนางสาวแพทองธารนั้น ละเลยปัญหาความมั่นคงภายในประเทศ แต่กลับไปแสดงความห่วงใยต่อความขัดแย้งในต่างประเทศ
ชาวเน็ตหลายรายตั้งคำถามถึงความเหมาะสมและจังหวะเวลา อาทิ
“เขมรหันปากกระบอกมาแล้ว ลูกเขมรยังบอกให้ยับยั้งชั่งใจ กูจะบ้าาาา”
“บ้านตัวเองเอาให้รอดก่อน”
“ไม่ต้องไปเป็นห่วงคนอื่นหรอก เอาสมองมาแก้ปัญหาบ้านตัวเองให้รอดก่อน”
“กูขอร้อง อย่าไปใยดีกับไอ้เขมร ช่วยเอาชาติเป็นหลักด้วย ไม่ว่าทำไร มึงง้อแต่เขมร แม่งเอ้ย อาศัยแผ่นดินไทยเกิดจริงๆ ตระกูลนี้”
มีบางความเห็นที่ถึงขั้นตั้งข้อสงสัยว่า นายกรัฐมนตรีหญิงรายนี้มีความเข้าใจสถานการณ์ความมั่นคงของไทยจริงหรือไม่ โดยเฉพาะกรณี กัมพูชาหันปืนใหญ่เข้าหาไทย แต่รัฐบาลกลับไม่มีการออกมาเตือนประชาชน หรือวางมาตรการป้องกันความเสี่ยงอย่างชัดเจน
“ห่วงประเทศตัวเองก่อน เพื่อนบ้านแบบใด คุยแล้วเคลียร์แล้วแบบใด หันปืนใหญ่ใส่ประเทศไทยอย่างนี้ กลาโหมมีมาตรการเตือนภัยประชาชนไหม ไม่เห็นโพสต์แจ้งเตือนอะไร”
“สงสัยนายกไม่ใช่คนไทยเนาะ ฮุนอิ๊งค์”
“ตอนนี้คนไทยห่วงประเทศจะเสียดินแดนให้กัมพูชามากกว่า ช่วยทำหน้าที่นายกคนไทยจริงๆ ไปจังๆ ได้แล้ว”
แม้เนื้อหาการโพสต์ของนายกรัฐมนตรีจะมีเจตนาแสดงความรับผิดชอบต่อคนไทยในต่างประเทศ แต่กระแสตอบรับกลับสวนทางอย่างรุนแรง โดยประชาชนจำนวนไม่น้อยมองว่า รัฐบาลควรให้ ความสำคัญกับวิกฤตการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่กำลังตึงเครียดในเวลานี้เสียก่อน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ
ทรงพลัง! สื่อกัมพูชาทำโพลล์ ‘คนเขมร’ สนับสนุนคว่ำบาตรสินค้าไทยอย่างล้มหลาม
เปืดผลสำรวจของ Khmer Times สื่อภาษาอังกฤษ ภายใต้การกับของรัฐบาลกัมพูชา แสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนอย่างล้นหลามต่อการคว่ำบาตรสินค้าไทย หลังจากเหตุการณ์รุ
ทรัมป์เตือนอิสราเอล อย่าแทรกแซงซีเรีย
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตือนอิสราเอลไม่ให้แทรกแซงซีเรีย “เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่อิสราเอลจะต้องรักษาการเจรจาที่มั่นคงและจริงใจกับซีเรีย และต้องไม่มีการกระทำใด ๆ ที่อาจขัดขวางการพัฒนาซีเรียให้กลายเป็นประเทศที่เจริญรุ่งเรือง” ทรัมป์โพสต์บนแพลตฟอร์ม Truth Social ของเขาเมื่อวันจันทร์ เขายังเสริมด้วยว่า “ยังมีโอกาสครั้งประวัติศาสตร์ในการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ”
เปิดรายงาน AOT ชี้ชัดเขมรซุกทุ่นระเบิดใหม่ ทำทหารไทยขาขาดรายที่ 7
กองทัพไทยเปิดรายงาน ผลตรวจสอบของ AOT ยันทุ่นระเบิด PMN-2 ห้วยตามาเรีย- ภูมะเขือ ทำทหารขาขาดรายที่ 7 ถูกฝังใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดเก่าตามที่กองทัพกัมพูชาอ้าง
ไทย-กัมพูชา รังวัดหมุดเขตแดนคืบ 44% เดินหน้าสำรวจต่อที่สระแก้ววันนี้
กองกำลังบูรพาและชุดสำรวจเขตแดนร่วม เดินหน้าวัดหมุด GCP เพิ่ม พร้อมบินโดรนถ่ายภาพพื้นที่ชายแดน


