25 มิ.ย.2568 – นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิปพร้อมเนื้อหาในหัวข้อ “3ปัจจัย ชี้วัดอนาคตรัฐบาล” ระบุว่า หลังจากนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เชิญพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค เข้าหารือเกี่ยวกับการปรับคณะรัฐมนตรี ที่โรงแรมโรดวู้ด ถนนเพลินจิต ภาพปรากฏออกมาว่า พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคพร้อมสนับสนุนให้รัฐบาลนางสาวแพทองธารไปต่อ และมีการจัดสรรตำแหน่งโควต้ารัฐมนตรี ได้จนล่าสุด นางสาวแพทองธารก็ออกมาให้ข่าวว่า การปรับคณะรัฐมนตรีลงตัว และเสียงสนับสนุนรัฐบาลชุดนี้มีความเข้มแข็ง ซึ่งสรุปได้ว่า รัฐบาลชุดนี้ไปต่อได้
ในความเห็นส่วนตัว ผมยังไม่มั่นใจว่า รัฐบาลชุดนี้จะเดินหน้าไปได้อย่างราบรื่น แม้ว่าจะมีเสียงสนับสนุนจากพรรคร่วมรัฐบาลเดิม คือพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนา และมีการแบ่งโควตารัฐมนตรี แจกเก้าอี้รัฐมนตรีได้ครบถ้วน เป็นที่พึงพอใจของทุกพรรค แต่ถ้าจะให้มั่นใจว่า รัฐบาลชุดนี้ไปต่อได้จริง ต้องให้ผ่านปรากฏการณ์ 3 เรื่องนี้ไปก่อน จึงจะเชื่อว่ารัฐบาลชุดนี้ไปต่อได้คือ
1.ต้องมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ออกมาเรียบร้อยแล้ว ถ้ามีการแต่งตั้งรัฐมนตรี อย่างเป็นทางการ มีประกาศออกมาแล้ว ก็เชื่อว่าการฟอร์มคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ หรือการปรับ ครม.ชุดใหม่ลงตัวแล้ว ก็เป็นรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ
2.ต้องดูปรากฏการณ์ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาคำร้องของประธานวุฒิสภาเกี่ยวกับความผิดจากคลิปเสียงของนายกรัฐมนตรี และให้นายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ ถ้าศาลพิจารณารับคำร้อง ก็ต้องดูว่าจะให้หยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ถ้าไม่รับคำร้องก็เป็นสัญญาณทางการเมืองอีกอย่างหนึ่ง ผลการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ จะบ่งบอกถึงอนาคตทางการเมืองของรัฐบาลชุดนี้ ไม่รวมถึงคำร้องที่ยื่นต่อ ปปช. หรือ กกต. และการแจ้งความดำเนินคดีนายกรัฐมนตรี ต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
3.ต้องดูผลการชุมนุมในวันที่ 28 มิถุนายน 2568 ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ว่ามีมวลชนมากน้อยเพียงใด ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณ หรือบ่งบอกถึงพลังของประชาชน ในการต่อต้านขับไล่รัฐบาลชุดนี้ รวมไปถึงพิจารณาความเคลื่อนไหวทางการเมืองในภูมิภาคผหรือในต่างจังหวัดด้วย ถ้าหากกระแสการชุมนุมขยายผล ขยายตัวกันอย่างกว้างขวาง จะส่งผลไปถึงเสถียรภาพของรัฐบาล
อย่าชะล่าใจว่า รัฐบาลชุดนี้ไปต่อภายใต้การสนับสนุนของพรรคร่วมรัฐบาล แต่ต้องพิจารณาปัจจัย 3 เรื่องนี้ก่อน ว่ารัฐบาลชุดนี้จะผ่านปรากฏการณ์ 3 เรื่องนี้ไปได้หรือไม่ ถ้าติดขัดเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ก็แสดงว่ารัฐบาลชุดนี้ไปต่อไม่ได้ ต้องมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ แยกเรื่องถกจีบีซี กับทหารขาขาดราย 9 ชี้หน้าที่กองทัพตอบโต้
นายกฯ ชี้ทหารเหยียบทุ่นระเบิดขาขาดรายที่ 9 คนละเรื่องกับประชุมจีบีซี ส่วนการตอบโต้เป็นหน้าที่กองทัพ
'นักประวัติศาตร์' ร่อนจม.เปิดผนึกถึงนายกฯแนะ 6 ขั้นตอน ขอคืน 'ปราสาทพระวิหาร'
นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระอิสระด้านประวัติศาสตร์และนักเทววิทยา โพสต์เฟซบุ๊ก เผยแพร่ จดหมายเปิดผนึก เรื่อง ขอคืนปราสาทพระวิหารและใช้ข้อสงวนสิทธิ์ เรียน ฯพณฯท่านนายกรัฐมนตรี มีใจความว่า
เปิดเบื้องลึก! ทำไม 'ภูมิใจไทย' มีแคนดิเดตนายกฯแค่ 2 คน
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ "ทำไม ภูมิใจไทย มีแคนดิเดตเพียง 2 คน" โดยระบุว่า
นายกฯ นั่งหัวโต๊ะดึง 4 กระทรวงแก้เผาอ้อยและพืชไร่
นายกฯ นั่งหัวโต๊ะลงนาม 4 กระทรวง ควบคุมการเผาอ้อยและพืชไร่ ป้องกันปัญหาฝุ่น PM 2.5 ด้านกระทรวงอุตสาหกรรม โชว์ผลงานเผาอ้อยเป็น 0% คืนอากาศบริสุทธิ์ให้ประชาชนช่วงปีใหม่
สื่อทำเนียบฯ งดตั้งฉายา 'รัฐบาลอนุทิน'
สื่อทำเนียบฯ งดตั้งฉายา 'รัฐบาลอนุทิน' เหตุเป็นรัฐบาลรักษาการ หลังนายกฯยุบสภาฯ
'เทพไท' จี้พรรคการเมืองต้องประกาศเลือกข้าง!
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิปพร้อมเนื้อหา

