'ประเสริฐ' จับมือแพลตฟอร์มออนไลน์ปราบข่าวปลอม-ไอโอ เน้นสกัดเฟกนิวส์เรื่องชายแดน กำหนด KPI 3 ชม.ต้องตรวจสอบจริง-เท็จได้
07 ส.ค.2568 - นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบและวิเคราะห์ข่าวในสื่อสังคมออนไลน์เพื่อป้องกันข่าวปลอม ว่า ที่ประชุมได้มีการนำเสนอถึงการพูดคุยกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ ที่มีการหารือกันเมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา ในการขอความร่วมมือป้องกันและปราบปรามข่าวปลอม รวมถึงบัญชีผู้ใช้ที่เป็นไอโอ โดยทางแพลตฟอร์มให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และมีข้อสรุปดังนี้ 1.ให้ความสำคัญกับข่าวที่มีความเกี่ยวข้องกับความไม่สงบในชายแดนเป็นหลัก 2.การใช้เทคโนโลยีเอไอในการตรวจจับข่าวปลอม และการปิดกั้นข่าวปลอมทุกช่องทาง 3.การเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการตามมาตรการการจัดการข่าวปลอม 4.หากพบว่ามีการดำเนินการด้านไอโอหรือด้านจิตวิทยา ขอให้ส่ง สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) เพื่อให้แจ้งแพลตฟอร์มออนไลน์ระงับการเผยแพร่ 5.การยกระดับการยืนยันตัวตนบนสื่อออนไลน์ โดยผู้ที่จะลงโฆษณาต้องเป็นบริษัทที่มีการยืนยันตัวตน ซึ่งได้เริ่มดำเนินการไปบางส่วนแล้ว
นายประเสริฐ กล่าวว่า ที่ประชุมยังได้หารือถึงขั้นตอนการปราบปรามข่าวปลอม เมื่อรับทราบและตรวจสอบข่าวปลอม จะเป็นขั้นตอนกระจายข้อเท็จจริงไปยังประชาชน โดยกรมประชาสัมพันธ์และกระทรวงดีอีจะทำงานกันอย่างใกล้ชิด และติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยมีการกำหนด KPI ว่าภายใน 3 ชั่วโมงต้องสามารถวิเคราะห์ได้ และแจ้งกลับไปว่า เป็นข่าวปลอมหรือเป็นข้อเท็จจริง และหลังจากวันนี้เป็นต้นไปหากประชาชนพบข่าวปลอมสามารถแจ้งเข้ามาได้ที่เว็บไซต์ของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย (Anti-Fake News Center Thailand) ได้ทันที รัฐบาลจะทำการตรวจสอบให้
นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมได้มอบหมายให้กระทรวงยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานอัยการสูงสุด ให้ไปหารือและดูรายละเอียดในการดำเนินคดีกับผู้ที่ดำเนินการเรื่องข่าวปลอม และขอบอกไปยังสื่อมวลชน อินฟลูเอนเซอร์ และผู้ไม่หวังดีว่า รัฐบาลเอาจริง อยากให้โพสต์ข้อความต่างๆ ด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะการนำเสนอข่าวที่บิดเบือน ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ตรวจสอบข้อเท็จจริงผู้ให้บริการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำไอโอ และดำเนินการตามมาตรการที่เหมาะสม รวมถึงรายงานผลการดำเนินให้ที่ประชุมทราบต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า การปราบข่าวปลอมดังกล่าว รวมถึงข่าวปลอมจากประเทศเพื่อนบ้านด้วยหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า รวมด้วย โดยขั้นตอนปฏิบัติจะมีอยู่ 3 ขั้นตอน เมื่อได้รับข้อมูลจะมีการตรวจสอบ หากพบว่าเป็นข่าวปลอมจะรีบกระจายผลให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง แม้จะเป็นข่าวที่ถูกต้องก็ต้องบอก และจะจัดทำเป็นฉบับภาษาอังกฤษด้วย โดยใช้ช่องทางผ่านกรมประชาสัมพันธ์และสื่อต่างประเทศ เมื่อถามว่า ได้มีการเก็บสถิติข่าวปลอมจากประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ในช่วงเวลานี้มีสูง เพราะข่าวปลอมขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตั้งแต่ช่วงปี 62 จนถึงปัจจุบัน พบว่าข่าวทั้งหมดที่ต้องสงสัยและต้องตรวจสอบมีอยู่ประมาณ 1.1 พันล้านข่าว แต่ด้วยเทคโนโลยีที่เรามี วันนี้เราสามารถตรวจจับได้มากขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดร.กิตติธัช สอนพวกเท้าราน้ำ 'การทำลายให้สิ้นสภาพ' ไม่ใช่การบุกไปยึดครองกัมพูชา
นักวิชการ อธิบายชัดการทำลายให้สิ้นสภาพ ไม่ใช่การบุกไปยึดครองกัมพูชา หรือทำลายกองทัพกัมพูชาแบบเบ็ดเสร็จ
สดุดีทหารกล้า! ทภ.1 สูญเสีย 'นายสิบทหารเสือราชินี' 1 นาย ที่สมรภูมิบ้านคลองแผง จ.สระแก้ว
กองทัพภาคที่ 1 ขอเชิดชูเกียรติในความเสียสละทำหน้าที่ชายชาติทหารปกป้องแผ่นดินไทยด้วยชีวิต
'ทภ.2' เผย 'ผามออีแดง-ห้วยตามาเรีย-ภูมะเขือ' ยังมีการปะทะกันตลอดทั้งวัน
ทภ.2 เผยผามออีแดง-ห้วยตามาเรีย-ภูมะเขือ ยังคงมีการปะทะกันตลอดทั้งวันด้วยอาวุธประจำกายและอาวุธหนัก ไทย ย้ำ โบราณสถานไม่ใช่สนามรบ ยืนยัน ไทยใช่สิทธิในการป้องกันตนเองตามกฎหมายระหว่างประเทศ ปฏิบัติการทั้งหมดเป็นการป้องกันตนเอง
นายกฯ เรียกถก 'ผบ.เหล่าทัพ' ตึกไทยฯ ก่อนนั่งหัวโต๊ะประชุม สมช.
นายกฯได้หารือนอกรอบกับ พล.อ.อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเลขาธิการสมช. ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ก่อนเป็นประธานการประชุม สมช.
'บิ๊กเล็ก' แย้มถก 'สมช.' ปมพบโดรนพื้นที่ส่วนหลังตอนในที่สุวรรณภูมิ
รมว.กลาโหม เผยประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ถกประเด็นตรวจพบโดรนบินในพื้นที่ส่วนหลังตอนในที่สุวรรณภูมิ
สรุปภารกิจปกป้องอธิปไตยชายแดนสระแก้ว ประจำวัน กกล.บูรพา ปะทะเดือดเพื่อยึดครอง 3 พื้นที่
กกล.บูรพา ปฏิบัติภารกิจปกป้องอธิปไตยในสถานการณ์ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา เป็นวันที่ 14 โดยมีการรบปะทะ เพื่อยึดครองพื้นที่ ใน 3 พื้นที่

