อาจารย์นิติ มธ. ชี้ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ศาลไม่เชื่อมั่นฝ่ายบริหาร สั่งบังคับโทษจำคุก 'ทักษิณ'

10ก.ย.2568- รองศาสตราจารย์ ดร.มุนินทร์ พงศาปาน อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เรื่อง ข้อสังเกตทางนิติศาสตร์ที่มีต่อคำสั่งศาลฎีกากรณีการบังคับโทษจำคุกทักษิณ มีเนื้อหาดังนี้

1. คำสั่งที่วินิจฉัยว่าการบังคับโทษจำคุกคุณทักษิณไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้ต้องกลับไปรับโทษจำคุกอีก เป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในทางนิติศาสตร์ ไม่ใช่เพราะเป็นการส่งอดีตนายกรัฐมนตรีเข้าคุกจริงๆ เป็นครั้งแรกของไทย แต่เพราะเป็นครั้งแรกที่ศาลฎีกาเข้ามาตรวจสอบการบังคับตามคำพิพากษาซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของฝ่ายบริหาร (โดยเฉพาะกรมราชทัณฑ์) ทั้งๆ ที่มีผู้คัดค้านว่าศาลไม่ควรมีอำนาจไต่สวนโดยที่ไม่มีกฎหมายบัญญัติให้อำนาจไว้อย่างชัดแจ้ง การที่ศาลฎีกาตีความกฎหมายว่าตนมีอำนาจสะท้อนให้เห็นถึงความไม่เชื่อมั่นต่อการทำหน้าที่ของฝ่ายบริหารในการบังคับตามคำพิพากษาและศาลคงมองไม่มีหนทางอื่นที่แก้ปัญหาร้ายแรงของกระบวนการยุติธรรมในส่วนนี้ได้อย่างทันท่วงที คำสั่งของศาลฎีกาในคดีนี้จึงเป็นทั้งพยานหลักฐานของความล้มเหลวในกระบวนการบังคับโทษและยังเป็นสัญญาณที่ส่งถึงฝ่ายบริหารให้ต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดและต้องคิดหาวิธีการปฏิรูปหรืออุดช่องโหว่ของกระบวนการบังคับโทษโดยเร็ว โดยไม่ควรปล่อยให้เป็นภาระของศาลยุติธรรมในการตีความกฎหมายเพื่อเข้ามามีอำนาจตรวจสอบ

2. คำสั่งครั้งประวัติศาสตร์ของศาลฎีกาในครั้งนี้ แม้ว่าจะมีผลเฉพาะคดีคุณทักษิณ แต่ก็จะกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ ที่อาจจะทำให้เกิดการร้องขอตรวจสอบการบังคับโทษในคดีอื่นๆ ด้วย หากศาลยุติธรรมปฏิเสธไม่รับไต่สวนให้โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ก็อาจจะถูกกล่าวหาว่าบังคับใช้กฎหมายไม่เป็นธรรมเสียเอง อย่างไรก็ตามศาลคงไม่มีเวลาและบุคลากรมากพอที่จะเข้าไปตรวจสอบการบังคับตามคำพิพากษาในทุกคดี จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ศาลยุติธรรมต้องปรึกษาหารือกันภายในเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ให้ชัดเจนว่ามีกรณีแบบใดบ้างที่ศาลควรเข้าไปตรวจสอบการบังคับตามคำพิพากษา

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'รัดเกล้า' สวน บก.ลายจุด ผู้ดำรงตำแหน่งการเมือง ขึ้น ศาลฎีกาฯแผนกคดีอาญา หากถูกกล่าวหาทุจริต

ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หากถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดในการปฏิบัติหน้าที่ จะไม่ขึ้นศาลอาญาทั่วไป แต่จะต้องขึ้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

ปธ.ศาลฎีกา ชู 3 เสาหลักยุติธรรม สู่แนวปฏิบัติ 15 ข้อ เลขาฯศาลยุติธรรม พร้อมนำปฏิบัติทันที

'อดิศักดิ์ ตันติวงศ์' ประธานศาลฎีกาใหม่แถลงนโยบายชู 3 เสาหลักยุติธรรม 'คุณธรรมนำทาง สร้างศรัทธา พัฒนาคุณภาพ' สู่แนวปฏิบัติ 15 ข้อ 'ธีรทัย' เลขาฯศาลยุติธรรม พร้อมนำปฏิบัติทันที

'อดีตผู้พิพากษา' ฟันฉับ กม.ไม่เอื้อ ไม่มีเหตุ 'ทักษิณ' ยื่นขออภัยโทษซ้ำ อาจถูกดำเนินคดีอีก

นายวัส ติงสมิตร นักวิชาการอิสระ อดีตผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา และอดีตประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ "ทักษิณจะขออภัยโทษครั้งที่ 2 ได้หรือไม่" มีเนื้อหาดังนี้

ปธ.ศาลฎีกา ตั้ง 'สุริยัณห์' หวนคืนโฆษกศาลยุติธรรม โปรไฟล์เด่นนักสื่อสารองค์กรมืออาชีพ

ในวาระที่นายอดิศักดิ์ ตันติวงศ์ ประธานศาลฎีกาคนที่ 51 เข้าดำรงตำแหน่ง โอกาสนี้ประธานศาลฎีกา อาศัยอำนาจตามระเบียบคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม (ก.บ.ศ.) ว่าด้วยการให้ข่าวและบริการข่าวสารของศาลยุติธรรม พ.ศ.2545 ข้อ 3

'อดิศักดิ์ ตันติวงศ์' รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง 'ประธานศาลฎีกา' คนที่ 51

นายธีรทัย เจริญวงศ์ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม อัญเชิญพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งนายอดิศักดิ์ ตันติวงศ์  เป็นประธานศาลฎีกา