นายกสมาคมทนายฯ วิจารณ์ศาลรธน. ถึงขั้น 'ช็อค' อ้างเป็นตลกร้ายทางการเมือง

16 ก.ย.2568- นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ได้ให้ความเห็นผ่านเฟซบุ๊คสมาคมทนายความเเห่งประเทศไทยผ่านบันทึกจากนายกสมาคมทนายความฯ ว่า การตอบคำถามที่ไม่มีใครถามของศาลรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับประเด็นการจัดทำประชามติเพื่อจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญแถมคำตอบมาให้ว่า รัฐสภาไม่อาจให้ประชาชนเป็นผู้ร่างรัฐธรรมนูญได้โดยตรง นั้น สร้างความรู้สึกถึงขนาดที่เรียกว่า “ช็อค” กับประชาชนที่รักประชาธิปไตยโดยทั่วถ้วนหน้า และเป็นการยืนยันคำกล่าวที่ว่า “ชนชั้นใดออกกฎหมายก็เป็นไปเพื่อประโยชน์ของชนชั้นนั้น”


รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันถูกร่างขึ้นโดยกลุ่มคนที่เผด็จการ คสช. แต่งตั้งขึ้น วัตถุประสงค์ของรัฐธรรมนูญเพื่อใช้เป็นเครื่องมือสืบทอดอำนาจเผด็จการของฝ่ายอนุรักษ์นิยม คนไทยจึงได้เห็นกลุ่มคนเหล่านี้ซึ่งรวมถึงนักการเมืองทั้งที่มาจากการเลือกตั้งและฮั้วการแต่งตั้ง ที่พยายามทุกวิถีทางที่จะปกป้องรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ให้แก้ไขหรือร่างขึ้นใหม่โดยประชาชน เพราะจะทำให้ฝ่ายอนุรักษ์นิยมซึ่งนิยมเผด็จการไม่มีที่ยืนในสังคมประชาธิปไตย


ความจริงที่ทั้งโลกยอมรับ ซึ่งแม้แต่เผด็จการก็ยังเอาข้อความนี้มาเขียนหลอกคนไทยไว้ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 ความว่า “อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย” แต่ปวงชนชาวไทยที่เป็นเจ้าของอำนาจกลับไม่มีอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญ เพื่อกำหนดกติกาทางการเมืองของประเทศนี้ ความเห็นของศาลรัฐธรรมนูญจึงเป็นตลกร้ายทางการเมือง ที่เผด็จการทิ้งไว้ให้ที่แทบจะไม่มีโอกาสแก้ไข
เพราะแม้จะมีการทำประชามติและประชาชนเห็นด้วยที่จะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ก็ไม่มีผลบังคับตามกฎหมายเพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องได้เสียง ส.ว. ลงมติเห็นชอบไม่น้อยกว่าหนึ่งในสาม (67 คน) ของ ส.ว. ทั้งหมด ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 256 (3) และ (6)


เพื่อเป็นทางออกให้กับประเทศและไม่ทำให้เงินงบประมาณที่จะใช้ทำประชามติสูญเปล่า ผมจึงเสนอให้ ส.ว. ที่เป็นกลางเสนอญัตติต่อประธาน ส.ว. เพื่อสอบถาม ส.ว. ที่อยู่ในตำแหน่งขณะนี้ว่า หากประชาชนลงมติผ่านกระบวนการประชามติ ต้องการให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยตัวแทนของประชาชน ส.ว. ที่อยู่ในตำแหน่งจะลงมติให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามมาตรา 256 (3) และ (6) หรือไม่


ซึ่งหากการลงมติดังกล่าวผลปรากฏออกมาว่า ได้เสียง ส.ว. จำนวนไม่ถึงหนึ่งในสามหรือ 67 คน ยังไงก็ไม่สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญได้อย่างแน่นอน เพราะแม้ว่าหากประชาชนจะลงมติเห็นชอบให้มีการจัดทำ รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ แต่ถ้าหาก ส.ว. ไม่เอาด้วย การแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ทำไม่ได้อยู่ดี จะได้ไม่ต้องเสียเวลาจัดทำประชาชามติ และเสียงบประมาณแผ่นดินอย่างมหาศาลโดยเปล่าประโยชน์.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'วันนอร์' นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้รัฐธรรมนูญ วาระ 2

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ได้มีคำสั่งให้นัดประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ ระหว่างวันที่ 10 ธ.ค. และ ครั้งที่2 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ วันที่ 11 ธ.ค. เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่..) พ.ศ... ในวาระสอง ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.)

ขนลุก! กูรูใหญ่ สาปแช่งพรรคเพื่อไทย หลังข่าวซูเอี๋ยพรรคส้ม

ความคิดที่เพื่อไทยและประชาชนจะจับมือกันตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งแล้วเลื่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ คือท่าดีทีล้มละลายทางการเมือง

มติเอกฉันท์! ศาลรธน. ไม่รับคำร้อง 'เรืองไกร' กล่าวหารัฐสภาแก้ รธน.ล้มล้างการปกครอง

‘ศาลรธน.’ มีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้อง ‘เรืองไกร’ ปมกล่าวหาประธานรัฐสภา–สมาชิกรัฐสภาใช้สิทธิล้มล้างการปกครอง ชี้การประชุมร่วมแก้รัฐธรรมนูญยังไม่ปรากฏพฤติการณ์เข้าข่ายมาตรา 49 แม้อัยการสูงสุดไม่ดำเนินการแต่ผู้ร้องมีสิทธิเข้าศาลโดยตรงก็ตาม

'ชลน่าน' คาดถกแก้ รธน. วาระสอง ใช้เวลา 2 วันพอ แม้มีประเด็นให้เถียงกันหนัก

“ชลน่าน” ประเมิน ถกแก้รธน.วาระสอง 2 วันเพียงพอ แม้มีรายละเอียดมาก- ถกกันหนัก แต่ยุติด้วยเสียงข้างมาก เผยสงวนความเห็นไปสู้ในรัฐสภา ทวงคืน “สสร.- โละสูตร20 หยิบ1