อุทาหรณ์วิกฤตประเทศในเอเชีย ก้าวไม่พ้นกับดัก Deep State ระบบอุปถัมภ์วงศ์วาน การผูกขาด

17ก.ย. 2568- ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หัวข้อ ก้าวไม่พ้นกับดัก Deep State : อุทาหรณ์จากประเทศในเอเชีย มีเนื้อหาดังนี้

ในช่วงปีที่ผ่านมา ภูมิภาคเอเชียเผชิญกับเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองรุนแรงหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการประท้วงและจลาจลในประเทศศรีลังกา บังกลาเทศ รวมถึงล่าสุดในอินโดนีเซียและเนปาลที่สถานการณ์ยังคงตึงเครียดอย่างหนัก เหตุการณ์ในอินโดนีเซียเริ่มขึ้นตั้งแต่สิงหาคม 2568 จากความไม่พอใจในนโยบายที่เอื้อประโยชน์แก่สมาชิกรัฐสภาพร้อมความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ รวมถึงการใช้ความรุนแรงในการปราบปรามผู้ชุมนุมจนมีผู้เสียชีวิตหลายราย

ซึ่งเบื้องหลังเหตุการณ์นี้มักชี้ไปที่กลุ่มอำนาจลับ (Deep State) ที่ครอบงำการบริหารและเศรษฐกิจของประเทศโดยเอื้อประโยชน์ให้ชนชั้นนำ

สถานการณ์ในเนปาลสะท้อนความวิกฤติทางสังคมและการเมืองอย่างรุนแรง โดยเฉพาะการประท้วงนองเลือดของกลุ่มคนรุ่นใหม่ (Generation Z) ที่ไม่พอใจการปิดกั้นสื่อสังคมออนไลน์ การทุจริตคอร์รัปชัน และความเหลื่อมล้ำสะสม ความไร้เสถียรภาพทางการเมืองที่เกิดจากการเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีถึง 13 คนในเวลาเพียง 20 ปีและความคับข้องใจต่อโครงสร้างอำนาจลับที่ลึกซึ้ง ยังคงเป็นปัญหาหลักที่ท้าทายประเทศอย่างหนัก

ประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ ได้แก่ ระบบอุปถัมภ์วงศ์วาน (Nepotism) ที่นำไปสู่การใช้อำนาจเอื้อประโยชน์แก่คนในครอบครัวโดยไม่คำนึงถึงความเหมาะสม ทุนนิยมแบบพวกพ้อง (Crony Capitalism) ที่ธุรกิจและนักการเมืองมีพัวพันจนเกิดการผูกขาดโอกาสทางเศรษฐกิจ ประชาธิปไตยเทียม (Pseudo-Democracy) ที่จำกัดเสรีภาพทางการเมืองและไร้การแข่งขันอย่างแท้จริง และสังคมปรสิต (Parasite Society) ที่กลุ่มทุนและบุคคลบางกลุ่มเกาะกินทรัพยากรโดยไม่สร้างคุณค่าให้กับสังคม ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงรากลึกของ Deep State ที่แทรกซึมในสถาบันหลักของรัฐและขัดขวางการพัฒนาประเทศอย่างแท้จริง

บทเรียนจากประสบการณ์เหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า การแก้ไขปัญหาดังกล่าวจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการปฏิรูปสถาบันหลัก โดยยึดหลักนิติรัฐ ความโปร่งใสและความรับผิดชอบ ประชาธิปไตยแท้จริง และการพัฒนาที่ยั่งยืนและมีจริยธรรม ซึ่งจะเป็นหนทางสำคัญในการตัดวงจรอำนาจลับ สร้างสังคมที่เป็นธรรม เสมอภาค และมั่นคงในระยะยาว เพื่อหลุดพ้นจากกับดัก Deep State อย่างเป็นรูปธรรม

การเรียนรู้จากทั้งปัญหาและตัวอย่างประเทศที่ประสบความสำเร็จ เช่น สิงคโปร์ สวีเดน ไต้หวัน และนอร์เวย์ จะช่วยให้ประเทศไทยวางแนวทางปฏิบัติได้ชัดเจนและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในการเปลี่ยนผ่านไปสู่รัฐที่มีหลักการและธรรมาภิบาล

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดร.สุวิทย์ ชี้ไทยกำลังติดเชื้อ 'ไวรัสโกงกินทั้งระบบ' ถ้าไม่รักษาอาจไม่มีรัฐของ ปชช.เหลือต่อไป

อดีตรมว.อว. บอกประเทศไทยจะรอดหรือไม่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับนักการเมือง แต่ขึ้นอยู่กับว่า ประชาชนจะเลือก รัฐที่เป็นของประชาชน หรือ รัฐที่ถูกยึดโดยผลประโยชน์สีเทา

'ดร.สุวิทย์' เตือน Scammer คือ ภัยความมั่นคงเชิงศีลธรรม กระตุกผู้นำกล้าจัดการอย่างถึงราก

ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า “Deep State แบบใหม่”: ขบวนการ Scammer กับการทดสอบความกล้าทางศีลธรรมของผู้นำไทย

'อภิสิทธิ์' เบิกฤกษ์ ปชป. นำ กก.บห.ชุดใหม่ สักการะพระแม่ธรณี

'อภิสิทธิ์' ถือฤกษ์ 09.09 น. สักการะพระแม่ธรณี ก่อนนำทีมถก กก.บห.ชุดใหม่ เตรียมเชิญ 3 บิ๊กธุรกิจบรรยาย 28 ต.ค.นี้ หวังฝากการบ้านสะท้อนปัญหาประเทศ

หลักธรรมาภิบาลภาคปฏิบัติเพื่อการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชั่น

ธรรมาภิบาล หรือ Good Governance คำนี้มาจากรายงานของคณะทำงานเพื่อเสนอแนะ            แนวทางการแก้ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ"ต้มยำกุ้ง" โดยมูลนิธิสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทยปี 2541

'ดร.สุวิทย์' ชู เศรษฐกิจพอเพียงเชิงนวัตกรรม ขับเคลื่อนประเทศด้วยรากแห่งจารีต ปีกแห่งนวัตกรรม

ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เรื่อง “เศรษฐกิจพอเพียงเชิงนวัตกรรม” (Sufficiency Innovation Economy): ขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยรากแห่งจารีต × ปีกแห่งนวัตกรรม มีเนื้อหาดังนี้