'ปลอดประสพ' ยุใช้ยาแรงเขมรบุกรุก 'หนองจาน-หนองหญ้าปล้อง' เตือนรัฐบาลใหม่อย่าเปิดด่าน

'ปลอดประสพ' ย้ำ'หนองจาน-หนองหญ้าปล้อง'เป็นของไทย กรมป่าไม้ประกาศเป็นป่าสงวนฯ ปี07 หนุนใช้ยาแรง ให้ย้ายออกภายใน30ก.ย.-ตำรวจใช้มาตรการเด็ดขาดกับผู้บุกรุก ทำรั้วถาวร เตือนรัฐบาลใหม่อย่าเปิดด่าน

19ก.ย. 2568- นายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตปลัดกระทรวงกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สมาชิกพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เรื่อง
เขมรรุกเขตไทย จับลูกเดียว มีเนื้อหาดังนี้

ผมขอยืนยันว่า พื้นที่ต. หนองจาน และหนองหญ้าปล้อง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เป็นราชอาณาจักรไทย 100% เพราะเป็นพื้นที่กรมป่าไม้ที่ผมเคยเป็นอธิบดี ที่ได้ประกาศให้เป็นป่าสงวนแห่งชาติเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม พศ. 2507 หรือเมื่อ 61 ปีมาแล้ว การประกาศมีแผนที่แนบท้ายและยังได้ปักหลักเขตไว้ทั้ง 4 ด้านด้วย สำหรับแนวเขตทางด้านทิศตะวันออกยังอยู่ลึกเข้ามาในประเทศไทย หรืออีกนัยหนึ่งคือ ลึกเข้ามาจากหลักเขตที่ 46-47 ตามสนธิสัญญาไทยกับฝรั่งเศสเมื่อ 107 ปีที่แล้วด้วยซ้ำไป ซึ่งก็คือ ก่อนประเทศเขมรเกิดถึง 80 ปี

ขอทบทวนว่า ในปี 2521 ชาวเขมรได้หนีตายจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของฮุนเซ็นและเขมรแดงเข้ามาหลบภัยในพื้นที่ตำบลทั้งสอง แต่ก็ถูกเขมรแดงตามมาฆ่าอย่างไม่ลดละ จึงได้หนีไปอยู่ที่เขาอีด่าง ซึ่งได้รับการคุ้มครองจากองค์การสหประชาชาติ แต่ทว่าก็ยังมีบางกลุ่มยังคงอยู่เหลืออยู่ที่เดิม ซึ่งก็คือพ่อแม่ของชาวเขมรที่อาศัยอยู่จนทุกวันนี้

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ชาวเขมรในพื้นที่นี้ประมาณ 20 ครอบครัว และมวลชนที่รัฐบาลเขมรจัดตั้งอีกนับร้อย ได้เผชิญหน้ากับทหารไทย จนทำให้ฝ่ายไทยต้องใช้ตำรวจจากกองกำลังควบคุมฝูงชนเข้าสกัดกั้น และมีความจำเป็นต้องใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยางตามขั้นตอนสากลที่ตำรวจใช้กับการเดินขบวนในประเทศไทยมาตลอด

ผมสนับสนุนประกาศของผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ที่ให้ชาวเขมรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ได้ย้ายออกไปภายในวันที่ 30 ของเดือนนี้ และเห็นด้วยกับการที่ตำรวจได้ใช้มาตรการเด็ดขาดกับผู้บุกรุกชาวเขมร และต่อไปหากชาวเขมรไม่ยอมย้ายกลับ ก็เห็นควรจับกุมดำเนินคดีตามพรบ. ป่าไม้และพรบ. ป่าสงวนแห่งชาติเช่นเดียวกับกรณีที่กรมป่าไม้ดำเนินการกับผู้บุกรุกชาวไทย ส่วนสิ่งก่อสร้างที่ชาวเขมรมาสร้างไว้นั้น ก็สามารถรื้อถอนเสียให้สิ้นตามพรบ. ดังกล่าวในมาตรา 25

ผมเชื่อว่า คนไทยทั้งประเทศเห็นด้วยและสนับสนุนนโยบายของกองทัพภาคที่ 1 และจังหวัดสระแก้ว ในการใช้ยาแรงกับพวกเขมรเหล่านี้ื เพราะเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า มีการจัดตั้งแน่นอน ขอเตือนว่า หากฝ่ายไทยใจดี หน่อมแน้ม เขมรก็จะได้ใจ และขยายการเผชิญหน้าไปทั่วตลอดแนว 800 กม. โดยเฉพาะทางตอนกลางและทางใต้ซึ่งเป็นที่ราบ ส่วนทางเหนือไม่ต้องห่วงเพราะเป็นภูเขาชาวบ้านไม่ไป และทหารเขมรเองก็ได้วางทุ่นระเบิดเอาไว้มากมายจึงยุชาวเขมรไม่ขึ้น

ผมเชื่อว่า ฝ่ายทหารคงมียุทธศาสตร์และหายุทธวิธีเพื่อแก้ปัญหา“ กองทัพชาวบ้านเขมร“ ที่กำลังถูกใช้เป็นแนวหน้าอยู่ในขณะนี้ได้ ผมขอแนะนำให้เราทำรั้วถาวรตามพื้นที่ราบของภาคกลางและกรณีใดสามารถขุดคลองเป็นแนวเขตได้ก็ทำไปเลย ส่วนรัฐบาลใหม่ก็อย่าได้ไปยุ่งเด็ดขาด กรุณาอย่าอ้างการค้าตามคำแนะนำของกลุ่มพ่อค้าและเหล่าเศรษฐีซึ่งไม่เคยยอมเสียสละอะไรเลย ในสมองมีแต่เรื่องเงินอย่างเดียว ถ้าไม่เชื่อผมก็ให้ระวัง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กกล.บูรพา บุกค้นบ้านชาวกัมพูชาที่เคยอาศัยอยู่ บ.หนองจาน พบหลักฐานเอี่ยวสแกมเมอร์

กกล.บูรพา บุกค้นบ้านชาวกัมพูชาที่เคยอาศัยอยู่ บ.หนองจาน พบหลักฐานชี้ชัดเกี่ยวข้องขบวนการสแกมเมอร์ของกัมพูชา

สดุดีทหารกล้ารายที่ 20 'จ.ส.อ.พรศักดิ์ เอี่ยมสะอาด' พลีชีพที่บ้านหนองจาน ชายแดนสระแก้ว

พ.ต.หญิง กัญญ์ณณัฐ พรนิพัทธ์กุล ผู้ช่วยโฆษก ทบ. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก กกล.บูรพา สูญเสีย ‘ทหารไทย’ เพิ่ม 1 นาย ในพื้นที่ บ.หนองจาน จ.สระแก้ว ภายหลังสถานการณ์กลับมารุนแรง เมื่อวานนี้ (16ธ.ค.) ตั้งแต่ช่วง 14.30 เป็นต้นมา ส่วนยอดบาดเจ็บของกำลังพลทางกองทัพบกจะชี้แจงต่อไป

กองทัพแจงหลายพื้นที่ยังปะทะเดือดทั้ง 'สุรินทร์-สระแก้ว-ตราด'

กองทัพชี้กัมพูชารบตลอดแนวเนิน 350 ยุทธภูมิสําคัญ ปราสาทตาควายสู้รบไม่จบ ยังเข้มข้น ยังหวังช่วงชิงตีพื้นที่ ส่วนสระแก้วโดนหนัก บ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว และ จ.ตราด

กองทัพภาค 1 เผยบ้านหนองหญ้าแก้ว-หนองจาน-คลองแผง โดนเขมรยิงถล่มด้วย BM-21

ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 สรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ จ.สระแก้ว ประจำวัน 10 ธันวาคม 2568 เวลา 18.00 น. ว่า กกล.บูรพา ปฏิบัติภารกิจปกป้องอธิปไตยในสถานการณ์ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ในปัจจุบัน เป็นวันที่ 3 โดยมีการปฏิบัติใน 5 พื้นที่ ดังนี้

ลุยแล้ว! กองทัพภาคที่ 1 สั่งกองกำลังบูรพา ยึดคืนพื้นที่อธิปไตย จ.สระแก้ว

ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 ได้รับรายงานจาก กกล.บูรพา เกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา โดยพบว่า ฝ่ายกัมพูชาได้เตรียมพร้อมรบสูงสุดตามแนวชายแดน ในพื้นที่ จ.สระแก้ว มีการตรวจพบเคลื่อนย้ายกำลังพลและยุทโธปกรณ์