16 ต.ค.2568 - รศ.ดร.เสรี พงศ์พิศ อดีตอธิการบดีสถาบันการเรียนรู้เพื่อปวงชน โพสต์เฟซบุ๊กในรูปบทความเรื่อง สติและปัญญาในปัญหาความขัดแย้ง ระบุว่า
ความนำ
ความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา กลายเป็นความรังเกียจบาดหมางระหว่างคนไทยกับคนกัมพูชา ระหว่างคนไทยด้วยกันเอง ทำให้ผมกลับไปอ่านบทความของพระไพศาล วิสาโล เรื่อง “ไปให้พ้นจาก “พวกเรา””
บทความแรกในในหนังสือ “พี่น้องเดียว พี่น้องกัน” (ภาษาย้อ แปลว่า พี่น้องเดียวกัน) ที่ผมเป็นบรรณาธิการตีพิมพ์เมื่อปี 2543 ในโอกาสครบร้อยวันของการจากไปของพ่อและแม่ของผม ที่อำลาลูกหลานไปในเวลาห่างกันเพียงสามสัปดาห์
ผมทำหนังสือเล่มนี้ ด้วยคามรำลึกถึงคุณพ่อของผมที่เกิดที่เวียดนาม เดินเท้า 200 ก.ม. กับแม่ของท่าน (ย่าของผม) มาเมืองไทยตอนอายุ 8 ขวบ พ่อได้สัญชาติไทย และต้นกำเนิดนามสกุล “พงค์พิศ” แต่พ่อก็ถูกดูถูกเหยียดหยามเพราะเป็น “ญวน” เป็น “แกว”
เมื่อปี 2506 ผมเดินทางไปเวียงจันทร์กับพ่อ ไปเยี่ยมพี่สาวที่แต่งงานแล้วไปทำงานที่นั่น ตอนนั้นยังไม่มีบัตรประชาชน ไม่มีพาสปอร์ต พ่อกับผมถูกกักที่ด่านบนทางหลวงระหว่างหนองคายกับอุดรฯ ตำรวจสงสัยเป็นญวน เป็น “แนวที่ห้า” ถามหาเอกสาร ซึ่งเราไม่มี พ่อผมพูดไทยทองแดงแบบคนอีสาน ตำรวจก็ยังไม่เชื่อว่าเป็น “คนไทย” นานเป็นชั่วโมงกว่าเขาจะปล่อยให้เราเดินทางกลับไปสกลนคร
พ่อไม่ได้ร่ำรวย เรียกว่าจนด้วยซ้ำ มีลูก 14 คน แต่พ่อก็มีเวลาทำงานในคณะวินเซนต์ เดอ พอล ช่วยเหลือคนจน พ่อบอกผมหลายครั้งว่า แม้เราไม่รวยก็ขอให้คิดถึงคนยากคนจน ไม่ให้แบ่งแยกคนที่แตกต่างจากเรา พ่ออยากให้ทุกคน ไม่ว่าเชื้อชาติใดสัญชาติใดให้เป็น “พี่น้องกัน”
หนังสือ “พี่น้องเดียวพี่น้องกัน” มีบทความของ “ผู้ใหญ่” อย่างพระไพศาล วิสาโล คุณหมอประเวศ วะสี ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ผู้ใหญ่วิบูลย์ เข็มเฉลิม ลุงประยงค์ รณรงค์ คุณทองใบ ทองปาวด์ อาจารย์นิธิ เอียวศรีวงศ์ คุณสุจิตต์ วงศ์เทศ และปราชญ์ชาวบ้าน นักวิชาการ ผู้เป็นกัลยาณมิตรอีกหลายท่าน ที่เขียนบทความใหม่เพื่อหนังสือเล่มนี้
ผมกลับไปอ่านด้วยความซาบซึ้ง จึงอยากนำบางตอนมาอ้างอิง เพื่อให้เกิด “สติ” ที่นำไปสู่ “ปัญญา” มากกว่าอารมณ์ ก้าวข้ามการปลุกเร้ากันทางสื่อ ทางโซเชียลมีเดีย ที่ทำให้เกิดอาการ “รักชาติ” เกินพอดีจนกลายเป็นการ “คลั่งชาติ” ที่บ่อนทำลาย “ภูมิคุ้มกัน” ของสังคม ไม่ได้ทำให้เข้มแข็งขึ้น แต่อ่อนแอลง คล้ายบ้านเมืองก่อน 6 ตุลาฯ ที่ “ขวาพิฆาตซ้าย”
ความคลั่งชาติทำให้เกิดความแตกแยก และบ้านเมืองเสียหายไม่น้อยไปกว่า “การเสียดินแดน”
ขออ้างอิง 2 ท่าน ที่เป็นปราชญ์ของแผ่นดิน คือ พระไพศาล วิสาโล กับผู้ใหญ่วิบูลย์ เข็มเฉลิม ที่ผมได้ทำงานด้วย ได้เรียนรู้ชีวิตจากทั้งสองท่านที่ “สอน” ให้เคารพในความแตกต่างหลากหลาย
#ผู้ใหญ่วิบูลย์ เข็มเฉลิม
ท้ายบทความ ผู้ใหญ่ฯ เขียนว่า “ดูหมือนว่า สังคมยิ่งพัฒนามีความเจริญสูงขึ้น ความหลากหลายยิ่งน้อยลง พื้นที่ป่าที่หลากหลายของพืชพรรณไม้และสรรพสัตว์ ถูกถางถากให้โล่งเตียนหมด พื้นที่ 50 ไร่ 100 ไร่ ปลูกพืชเพียงชนิดเดียวเท่านั้น และยังมีวิธีกำจัดพืชอื่นที่ไม่ต้องการโดยให้ชื่อว่าเป็นวัชพืช ต้องฆ่าทิ้งด้วยสารเคมีราคาแพงจำนวนมาก
เห็นเขาปลูกมันสำปะหลังเราก็ปลูกด้วย เห็นเขาปลูกอ้อยเราก็ปลูกด้วย เขาปลูกยางเราก็ปลูกตาม เห็นเขามีรถขับก็ต้องมีรถเหมือนเขา สุดท้ายก็เป็นหนี้เป็นสินกับหมด
กระบวนการเรียนรู้ที่ส่งเสริมและกระตุ้นมาจากภายนอกเป็นหลัก ทำให้คนไม่รู้จักพอ และไม่มีเมตตา เป็นข้อจำกัดทางความคิดที่นำปสู่ความตีบตันของชีวิต เพราะความไม่รู้จักพอ
หนทางออกที่ควรจะเป็น คือ การทบทวนอดีตที่ผ่านมา หาหนทางใหม่ บนร่องรอยของอดีตที่มีคุณค่า จากป่าที่เหลืออยู่ จากความรู้ที่มีอยู่ จากความหลากหลายของคน ชุมชน
และผู้คนหลายเผ่าพันธุ์ที่อยู่ร่วมกัน สามัคคีรวมพลัง ช่วยเหลือเกื้อกูลกันเหมือนไม้ร้อยพันหมื่นชนิดในป่าใหญ่ ที่อยู่คู่โลกมานานแสนนาน นานกว่าไม้พันธุ์เดียวที่ปลูกกันเป็นแถวเป็นแนว ซึ่งไม่ยั่งยืน
สังคมที่ตั้งอยู่บนความหลากหลายเป็นสังคมที่เข้มแข็งและยั่งยืน มาร่วมกันสร้างทางใหม่ ที่จะนำปสู่ความสงบสุขตลอดไป”
#พระไพศาลวิสาโล
พระไพศาลเรียนในสาขาวิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จบแล้วก็ทำงานเป็นอาสาสมัครใน “กลุ่มประสานงานศาสนาเพื่อสังคม” (กศส. มีกรรมการ คือ คุณพ่อบุญเลื่อน มั่นทรัพย์ อาจารย์สุลักษณ์ ศิวรักษ์ คุณศรีสว่าง พั่วพงศ์แพทย์ อาจารย์โกศล ศรีสังข์ อาจารย์โคทม อารียา และผม) “กศส.” เป็นองค์กรเดียวที่ลุกขึ้นมาเรียกร้องให้รัฐบาลปล่อยตัวนักศึกษา “3000 คน” ที่ถูกจับหลังเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ
พระไพศาลไปบวชเพื่อให้พ่อแม่สบายใจที่ไม่หางานทำ “เป็นเรื่องเป็นราว” คิดว่าจะบวชสัก 1 ปี นี่ก็กว่า 40 ปีแล้ว ยังไม่ได้สึก เป็นพระที่คนไทยไม่ว่ารุ่นไหนก็ศรัทธา เพราะเป็นพระที่ปฏิบัติธรรม อ่อนน้อมถ่อมตน ท่านเขียนบทความให้หนังสือ “พี่น้องเดียวพี่น้องกัน” เริ่มต้นว่า
“ข้าพเจ้าเป็นลูกจีน มีแซ่ติดตัวมาแต่กำเนิด จำได้ว่า ตอนเด็กๆ ไม่เคยชื่นชมกับแซ่ของตนเลย” ท่านเรียนที่อัสสัมชัญ บางรัก “ทุกครั้งที่มีการประกาศชื่อ ข้าพเจ้ารู้สึกอาย”
“เมื่อไรที่เราเลิกยึดติดกับยี่ห้อที่เรียกว่า “ชาติ” เราจะพบว่าแวดวงของ “พวกเรา” นั้นขยายกว้างไปจนสามารถครอบคลุมคนทั้งโลก ยิ่งไปกว่านั้นถ้าเราไม่ติดกับยี่ห้อที่เรียกว่า “มนุษยชาติ” เราจะรู้สึกเลยว่า “พวกเรา” นั้นขยายกว้างรวมไปถึงสัตว์ พืช และธรรมชาติทั่วทั้งโลก”
“หากเรายึดติดกับ “พวกเรา” ให้น้อยลงนั่นคือเลิกมองอะไรจากมุมมอง “ตัวกูของกู” เสียบ้าง ตราบใดที่ยังมี “พวกเขา” ก็ต้องมี “พวกเรา” อยู่วันยังค่ำ แม้จะพยามยามมองว่า พม่า กะเหรี่ยง เป็นเพื่อนร่วมโลก (คือเป็น “พวกเรา”) แต่เมื่อกะเหรียงบางคนเข้ายึดโรงพยาบาลไทย กะเหรียงเหล่านั้นจะกลายเป็น “พวกเขา” (หรือ “พวกมัน”) ไปทันที และนั่นหมายถึงความพร้อมที่จะจัดการกับพวกเขาอย่างไรก็ได้”
“การคิดหรือทำอะไรโดยคำนึงถึง “พวกเราเป็นตัวตั้ง พุทธศาสนาเรียกว่า อัตวาอุปาทาน....การคลายการติดยึด หรือลด “ตัวกูของกูให้นอยลง เป็นอิสระจากความผันผวนปรวนแปรต่างๆ ในชีวิตแล้ว ยังช่วยให้ใจเราเปิดกว้างและใส่ใจในทุกข์สุขของสรรพชีวิตอย่างไม่แบ่งแยก เอื้อให้เกิดความรักและความปรารถนาดีอย่าไม่คำนึงถึงเชื้อชาติเผ่าพันธุ์ หรือสถานะใดๆ ทั้งสิ้น...”
“การละอัตวาอุปาทานก็ดี การไม่แบ่งแยกเป็นเราเป็นเขาก็ดี แม้เป็นเรื่องยากก็สมควรทำ และที่ไม่ควรลืมก็คือ การเอาธรรมเป็นตัวตั้งยิ่งกว่าคำนึงถึงง “พวกเรา” หรือ “ตัวกู” เป็นหลัก”
ความลงท้าย
กรุณาอย่าเรียก “โลกสวย” กับคนที่เตือนสติหรือคิดต่าง อย่าเรียกว่า “คนไทยหัวใจเขมร” กับคนที่เห็นต่างเรื่องการกระทำบางอย่างที่ชายแดน ทุกคนต่างก็ “รักชาติ” เพียงแต่ไม่ได้ “คลั่งชาติ” ขนาดว่า “ทำอย่างไรก็ได้เพื่อรักษาชาติ”
คุณหมอประเวศเคยบอกว่า “ทำคนให้เป็นหมอ 6 ปีก็ทำได้ แต่ทำหมอให้เป็นคนต้องใช้เวลานานกว่ามาก” แม่ของเอ็มมับเป นักฟุตบอลดาวดังชาวฝรั่งเศสสอนลูก “ให้เป็นคนก่อน/เหนือการเป็นนักฟุตบอล” การเป็น “คน” ก่อน/เหนือการเป็น “คนไทย” ไม่ง่ายเลย !
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เดือด! 'ครูวีระ' ร่ายกลอนฟาด 'นายพลสีส้ม' ขี้ขลาดนักก็ปิดปากไปอยู่หลุมหลบภัย
จากกรณี พล.ท.พงศกร รอดชมภู หรือ เสธ.โหน่ง อดีตรองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และอดีตแกนนำพรรคอนาคตใหม่ ได้ออกมาตำหนิผู้เชียร์ให้ทำสงครามใหญ่กับกัมพูชา ว่าเป็นพวกคลั่งชาติ มีส่วนทำให้ประเทศไทยสูญเสียงบประมาณมหาศาล
พี่คนดีร่ายกลอน 'ยอดหญิงผู้ยิ่งใหญ่?'
เพจ P.khondee (พี่คนดี กวีสมัครเล่น) ได้โพสต์เฟซบุ๊กสั้นๆ
'กสม.' ประณามทหารกัมพูชา โจมตีพลเรือน-โรงพยาบาล ถือเป็นอาชญากรสงคราม
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ออกแถลงการณ์ เรื่อง ประณามการโจมตีพลเรือนและพื้นที่โรงพยาบาลบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และขอให้หยุดการสร้างความเกลียดชังทางเชื้อชาติ
ใครเข้าข้างเขมร 'เดอะตั๊ม' ย้อน 'ทักษิณ' คบ 'ฮุนเซน' มา30 ปี จนมีหลานลุงอังเคิลมาเป็นนายกฯ
นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า
คลิป 'อุ๊งอิ๊ง-ฮุนเซน' เดือด! ชาวเมืองคอนนับพันรวมตัวไล่นายกฯ ร้องเพลง 'หนักแผ่นดิน'กระหึ่ม
ที่บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์เจ้าพระยานครน้อย “ลานตะเคียน” ด้านหน้าศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช (หลังเก่า) ถนนราชดำเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้เกิดเหตุการรวมตัวของกลุ่มพลังมวลชนชาวนครศรีธรรมราชนับพัน
'บิ๊กเล็ก' เชื่อคลิปนายกฯคุย 'ฮุน เซน' หวังยิงกระสุนนัดเดียวได้นกทั้งรัง วางแผนการที่ซับซ้อน
'บิ๊กเล็ก' ชี้ คลิปเสียงนายกฯ คุย ฮุน เซน หวัง ยิงกระสุนนัดเดียวได้นกทั้งรัง เชื่อ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่มีการวางแผนการที่ซับซ้อน ขอทุกฝ่าย ยึดถือผลประโยชน์ประเทศชาติฝ่าวิกฤตครั้งนี้ เปรย หากไม่ได้อยู่จุดนี้ ขอฝากใจไว้กับทุกคน ฝากประเทศไทยไว้ให้คนกล้าคิดกล้าทำ


