17 ตุลาคม 2568 - มูลนิธิผสานวัฒนธรรมยื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กรณีการข่มขู่-คุกคาม อังคณา นีละไพจิตร นักปกป้องสิทธิมนุษยชนและสมาชิกวุฒิสภา หลังจากที่อังคณาได้แสดงความคิดเห็นและข้อกังวลต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยหวังให้ กสม. เสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ยุติการสร้างความเกลียดชัง
กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากการที่นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวช หรือ “กัน จอมพลัง” อินฟลูเอนเซอร์ นำรถเครื่องเสียงเข้าไปเปิดเสียงเฮลิคอปเตอร์ เสียงเครื่องบิน F-16 และเสียงโหยหวนของ “ผี” บริเวณบ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว จังหวัดสระแก้ว เพื่อกดดันชาวกัมพูชาที่ไม่ยอมออกจากพื้นที่ สร้างความตื่นตระหนกให้กับชาวบ้านและแรงงานข้ามชาติในพื้นที่ชายแดน
จากการกระทำดังนี้ อังคณาได้แสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า การปล่อยให้บุคคลทั่วไปเข้าไปกดดันฝ่ายกัมพูชาในพื้นที่และสถานการณ์ที่มีความตึงเครียด อาจส่งผลกระทบถึงรัฐบาล และการกระทำดังกล่าวยังอาจขัดต่อพันธกรณีที่ไทยมีต่ออนุสัญญาต่อต้านการทรมาน (CAT) ซึ่งประเทศไทยเป็นภาคี อีกทั้งการกระทำใด ๆ ที่ทำให้เกิดความหวาดกลัวหรือส่งผลกระทบต่อจิตใจของพลเรือน แม้จะเป็นคู่ขัดแย้งในสงคราม โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เช่น สตรี เด็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย และคนพิการ อาจเข้าข่ายการทรมานทางจิตวิทยา (Psychological Torture) ตามอนุสัญญา CAT
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีการเผยแพร่ความเห็นของอังคณาสู่สาธารณะ กลับมีการโจมตีด้วยข้อความแสดงความเกลียดชังต่ออังคณา ทั้งทางสื่อโทรทัศน์และสื่อออนไลน์ รวมทั้งโจมตีไปถึงกรณีการบังคับสูญหายทนายสมชาย นีละไพจิตร สามีของคุณอังคณา ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์บริเวณชายแดนกัมพูชาที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ นอกจากนี้ยังลุกลามไปสู่การข่มขู่คุกคามสมาชิกในครอบครัวของอังคณาอีกด้วย
มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ในฐานะองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนที่ปฏิบัติงานร่วมกับกลุ่มผู้เสียหายจากการบังคับสูญหาย จึงยื่นเรื่องร้องเรียนถึงคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน (กสม.) คำร้องหมายเลข กก.894/2568 โดยเรียกร้องให้ กสม. ตรวจสอบและทำรายงานเสนอแนะทุกภาคส่วน เพื่อยุติการสร้างความเกลียดชัง โดยเฉพาะขอเรียกร้องให้สื่อมวลชนรับผิดชอบต่อการนำเสนอข้อมูลที่สร้างความเกลียดชัง ขณะเดียวกัน หน่วยงานวิชาชีพสื่อควรมีบทลงโทษที่เหมาะสมต่อสื่อมวลชนที่กระทำการผิดจริยธรรมและจรรยาบรรณสื่อ ละเมิดสิทธิมนุษยชน สร้างความเกลียดชัง และลดทอนความเป็นมนุษย์ต่ออังคณาและครอบครัว
มูลนิธิผสานวัฒนธรรมยืนยันว่า การแสดงความคิดเห็นและตั้งคำถามต่อการทำงานของรัฐและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาไทย-กัมพูชา เป็นสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน ที่ประชาชนทุกคนในรัฐพึงกระทำได้ดังนั้นการข่มขู่คุกคาม และการลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ที่เกิดขึ้นกับคุณอังคณา จึงเป็นสิ่งที่มิควรเกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ในประเทศที่เสรีภาพดังขึ้นทุกวัน แต่เสียงของมารยาทเบาลงเรื่อย ๆ
แผ่นดินไทยในยุคนี้เต็มไปด้วยเสียงของการแสดงออก ใคร ๆ ก็พูดได้ คิดได้ โพสต์ได้ และเชื่อว่าการส่งเสียงของตนคือส่วนหนึ่งของประชาธิปไตย
กรรมการสิทธิฯ ออกแถลงการณ์ กังวล 'สว.อังคณา' ถูกข่มขู่คุกคามเพราะความเห็นต่าง
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เผยแพร่แถลงการณ์ เรื่อง ขอให้ทุกฝ่ายเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่าง และไม่ยอมรับการสร้างความเกลียดชัง โดยมีรายละเอียดดังนี้
กลุ่มสว.พันธุ์ใหม่ แถลงป้อง 'อังคณา' ขอทุกฝ่ายรักชาติอย่างมีสติ มีวุฒิภาวะ
กลุ่มสว.พันธุ์ใหม่ แถลงเรียกร้อง รัฐบาล-หน่วยงาน คุ้มครองปัญหาข่มขู่คุกคาม ป้อง "อังคณา" เป็นเพียงผู้ส่งสาร ไม่ควรมีความผิดใด ๆ ขอ ปชช. อย่าปฏิเสธเรื่องสิทธิมนุษยชน หวั่น เสียเปรียบในเวทีโลก วอน ทุกฝ่ายรักชาติอย่างมีสติ
‘อังคณา’ร้องตร.ขอคุ้มครอง
"สว.อังคณา" ควง "สุณัย" ยื่นขอ ผบ.ตร.นำตำรวจคุ้มครองความปลอดภัย หลังถูกขู่ฆ่าเอาชีวิตจากเอฟซี "กัน จอมพลัง" ยันเป็นคนไทย รักชาติไม่น้อยไปกว่าใคร
‘สว.อังคณา-สุณัย’ ยื่นขอ ผบ.ตร.ส่งตำรวจคุ้มครองความปลอดภัย
นางอังคณา กล่าวว่า วันนี้มายื่นหนังสือถึงผบ.ตร.ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่ตนถูกคุกคามทางสื่อออนไลน์ โดยมีลักษณะข่มขู่เอาชีวิตต่อตัวเองและครอบครัว รวมไปถึงนายสุณัย ตั้งแต่หลังจากไปออกรายการดังหลายรายการ หลังจากนั้นแฟนคลับของ “กัน จอมพลัง” ก็โจมตีตน ทำให้รู้สึกว่าไม่มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
‘เจี๊ยบอมรัตน์’ ออกโรงอบรม ‘กันจอมพลัง’ เรื่องรักชาติ
นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล หรือเจี๊ยบ อดีตสส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กว่าตัวคุณกันเองก็ต้องระมัดระวังคำพูดด้


