คกก.นโยบายแอลกอฮอล์ ไฟเขียวขายเหล้า-เบียร์ ช่วงบ่าย 2 ถึง 5 โมงเย็นได้ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ สนับสนุนท่องเที่ยวช่วงเทศกาล รอประกาศสำนักนายกฯ ไม่ต้องนำเข้า ครม. พร้อมมอบ สธ.-ท่องเที่ยวคุยให้จบ ปมนั่งดื่มหลังเที่ยงคืน
13 พฤศจิกายน 2568 - เวลา 14.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ครั้งที่ 2/2568 ว่า หลายคนเป็นห่วงเรื่องเทศกาลท่องเที่ยวในช่วงปีใหม่ และสงกรานต์ หากเราบังคับใช้กฎหมายจะเป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวไม่มาเที่ยวประเทศไทย หรือไม่มีการจับจ่ายใช้สอยในประเทศ จึงให้นโยบายว่าในช่วงเวลาที่ห้ามจำหน่ายสุรา 14.00-17.00 น. ที่ในอดีตที่ห้ามเพราะไม่อยากให้ข้าราชการไปดื่มสุรา จึงได้กำหนดออกมาว่าห้ามดื่ม ตนจึงบอกไปว่าตอนนี้มันหมดยุคแล้ว ยุคนี้ข้าราชการไม่มีไปดื่มสุราในช่วงบ่าย ฉะนั้น ควรจะยกเลิก
ส่วนเรื่องขยายเวลาทางภาคท่องเที่ยวอยากให้ยาวไปถึงเวลา 04.00 น. ส่วนทางกระทรวงสาธารณสุขและแพทย์ระบุว่าไม่ได้ เพราะถ้าไปดูสถิติของการเกิดอุบัติเหตุช่วงเวลา 02.00-03.00 น. จะเกิดจำนวนมาก ตนได้ให้คณะกรรมการฯไปคุยกัน ส่วนเรื่องของสถานประกอบการนั้น ความจริงมีกฎหมายของกระทรวงมหาดไทยอยู่ ซึ่งเป็นสถานประกอบการที่กระทรวงมหาดไทยควบคุมได้ โดยกำหนดไว้ว่าเวลาไหนดื่มได้ เวลาไหนดื่มไม่ได้
นายโสภณ กล่าวว่า ตนได้ให้ข้อสังเกตไปว่าในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งมีข้อห้ามของกระทรวงสาธารณสุขที่ส่งเสริมให้งดการดื่มในช่วงเทศกาลปีใหม่ ตนเห็นว่ามันส่งเสริมได้ แต่อย่าลืมเขาเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาล ฉะนั้น มาตรการใดที่นำไปสู่การปฏิบัติไม่ได้ รัฐอาจจะส่งเสริมได้ แต่ว่าต้องมีแรงจูงใจ ไม่ใช่อยู่ดีๆ มาบอกว่าไม่ให้ดื่ม มันเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้ามีแรงจูงใจถือว่าเหมาะสม อย่างเช่น ชุมชนไหนไม่มีการดื่มสุราจะต้องมีอะไรให้เขา สรุปคือ ขยายแน่ แต่เวลาให้รอผลการประชุมคณะกรรมการฯก่อน จะ 02.00 น. หรือ 04.00 น. จะมีจุดลงตัวอย่างไร ส่วนเวลา 14.00 – 17.00 น. ให้ยกเลิก
ทั้งนี้ หากคณะกรรมการฯมีมติอย่างใด ไม่ต้องนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สามารถออกประกาศสำนักนายกฯได้เลย ซึ่งในประกาศดังกล่าวจะต้องรอฟังความเห็นของประชาชนภายใน 15 วันนับจากวันที่คณะกรรมการฯมีมติ และมีผลบังคับใช้เลย
ผู้สื่อข่าวถามว่า แนวทางใดที่เป็นแนวทางกลางๆ นายโสภณ กล่าวว่า ได้บอกไปแล้วว่าให้หาจุดกึ่งกลางโดยยึดหลักวิทยาศาสตร์ อย่างเช่น เวลา 01.00 น. เพราะกระทรวงสาธารณสุขระบุว่า 02.00 น. มีผู้เสียชีวิตจากเมาแล้วขับจำนวนมาก ดังนั้น ขอให้สบายใจได้ว่าขยายแน่ และส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งบรรยากาศที่เราจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้คือ ช่วงเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์ และตนไม่เห็นด้วยที่จะต้องไปกำหนดเป้าจะต้องไม่ให้มีผู้เสียชีวิตเท่าไหร่ เพราะถ้ากำหนดเท่าไหร่มันจะไปถึงจุดนั้น ที่สำคัญคือ การบังคับใช้กฎหมาย
เมื่อถามว่า ที่กำหนดโซนให้ดื่มได้ถึง 04.00 น. ยังกำหนดในพื้นที่ท่องเที่ยวหรือไม่ นายโสภณ กล่าวว่า ยังเหมือนเดิม นอกจากนี้ ตนให้นโยบายเพิ่มเติมคือ โซนนิ่งของการจำหน่ายสุรากับระยะห่างจากสถานศึกษา ตนให้ไปกำหนดชัดเจนว่าต้องเริ่มนับจากจุดไหนถึงจุดไหน จะเริ่มนับจากรั้ว หรือตัวอาคารเรียน ให้มันชัดเจน และนำไปสู่การปฏิบัติจริงๆ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘โสภณ’ ยัน ปลดล็อคขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทันก่อนปีใหม่
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีคณะกรรมการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เคยมีมติให้ปลดล็อ
‘รองโสภณ’ ระดมธารน้ำใจชาวบุรีรัมย์ มอบถุงยังชีพ ช่วยเหลือพี่น้องชาวใต้ ย้ำรัฐบาลทำเต็มที่เพื่อดูแลประชาชน
นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี นำส่งถุงยังชีพมูลค่า 1,400,000 บาท (หนึ่งล้านสี่แสนบาท) ระดมเป็นธารน้ำใจจากพี่น้องชาวจังหวัดบุรีรัมย์ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้
ภท.ดึง ‘ลลิตา ฤกษ์สำราญ’ คัมแบ็กการเมือง เปิดยุทธศาสตร์รุก กทม.
“โสภณ-ศุภมาส” เปิดบ้านต้อนรับ “ลลิตา” ร่วมทีมภูมิใจไทย ชูจุดขายพรรคนักปฏิบัติ “พูดแล้วทำ-Quick Big Win” มั่นใจกระแส กทม.เปลี่ยน หลัง “อนุทิน” นั่งนายกฯ เดินหน้าเปิดตัวผู้สมัครคุณภาพสู้ศึกเลือกตั้ง
ปลดล็อกขายสุรา 6ทุ่มดริงก์ต่อ1ชม. คาดเริ่มต้น1ธ.ค.
ร้านเหล้า-นักดื่ม เฮ! “โสภณ” เผย คกก.นโยบายแอลกอฮอล์ ชงยกเลิกห้ามขายสุราช่วงบ่าย 2 ถึง 5 โมงเย็น
บอร์ดคุมน้ำเมา เคาะนั่งดื่มได้ถึงตี 1 ปลดล็อกขายเหล้า-เบียร์ 14.00-17.00 น. 6 เดือนประเมินผล
“พัฒนา” เผย คกก.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เคาะปลดล็อกขายสุรา-เบียร์ 14.00-17.00 น. 6 เดือนประเมินผล พร้อมไฟเขียวหลังเที่ยงคืนนั่งดริ้งต่อ 1 ชม.ไม่มีกำหนดกรอบ คาดเริ่มต้น ธ.ค. ยันรัฐบาลคำนึงกระตุ้นศก.ควบคู่สุขภาพ
'โสภณ' นั่งหัวโต๊ะถก คกก.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯ
'โสภณ' หัวโต๊ะถก คกก.นโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯ บอกใกล้ช่วงปีใหม่ ต้องสางปัญหาจำหน่าย-ดื่มสุรา รับ รบ.มีเวลาจำกัด แต่ไม่เป็นอุปสรรค ขอวางรากฐานให้รัฐบาลอื่นหรือเผื่อได้กลับมา


