สภาสูงตามบี้การใช้จ่ายงบประมาณเป็นเจ้าภาพซีเกมส์

'กมธ.ติดตามงบประมาณ สว.' สอบเจ้าภาพ 'ซีเกมส์'ใช้งบคุ้มค่าหรือไม่ ด้าน 'กกท.'แจง เหตุใช้งบกลาง เพราะเงินที่มีไม่ครบถ้วน 'ภิญญาพัชญ์' เผยเรียกแจงเพิ่มสัปดาห์หน้าทำไมเปลี่ยนออแกไนซ์กลางคัน

17 ธ.ค.2568 - น.ส.ภิญญาพัชญ์ ศันสนียชีวิน สว.ในฐานะรองโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ติดตามการบริหารงบประมาณ วุฒิสภา กล่าวถึงผลการประชุม กมธ.ว่า ได้พิจารณาเรื่องงบประมาณในการเป็นเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ของประเทศไทย โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.), และ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย

น.ส.ภิญญาพัชญ์ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบ ได้เห็นการจัดสรรงบประมาณรวมในช่วงปี 2568 ถึง 2569 ในวงเงินประมาณ 2,527 ล้านบาท กมธ.ฯมีข้อสังเกตที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการใช้งบกลางในวงเงินประมาณ 434 ล้านบาท ที่รัฐบาลต้องเข้ามาสนับสนุน ซึ่งผู้แทน จากกกท.ชี้แจงว่า การต้องใช้งบกลางจำนวนมากนี้ เป็นผลจากการที่หน่วยงานมีการประมาณการการใช้จ่ายงบประมาณที่ไม่ครบถ้วน ไม่ครอบคลุม และล่าช้า โดยเฉพาะในส่วนที่เป็นค่าใช้จ่ายหลัก เช่น พิธีเปิดและปิดการแข่งขัน , ค่าที่พัก , ค่าเดินทาง และค่าอาหารของนักกีฬาและผู้เกี่ยวข้อง ไปจนถึงประเด็นการถ่ายทอดสด ซึ่งเกิดขึ้นในห้วงเวลาที่กระชั้นชิด

น.ส.ภิญญาพัชญ์ กล่าวว่า กมธ.ฯตระหนักดีว่า การจัดการแข่งขันระดับนานาชาติมีความซับซ้อน แต่ขอตั้งข้อสังเกตอย่างจริงจังว่า กกท.ไม่ได้ขาดประสบการณ์ในการเป็นเจ้าภาพจัดซีเกมส์ เพราะเคยจัดมาแล้ว ดังนั้นจึงขอให้ กกท. แสดงความรอบคอบและเป็นมืออาชีพในการของบประมาณที่ครบถ้วน ครอบคลุม และรวดเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้รัฐบาลต้องจัดสรรงบกลางมาแก้ไขปัญหาที่เกิดจากความล่าช้าหรือการประมาณการที่ผิดพลาดอีกในอนาคต อย่างไรก็ตาม ยังมีเนื้อหาบางอย่างที่ กมธ.ฯอยากได้รับข้อมูลอย่างครบถ้วน เพื่อให้เกิดความชัดเจนและโปร่งใสในการใช้จ่ายเงินภาษีของประชาชน กมธ.ฯ จึงมีมติเห็นชอบตามข้อเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานข้อมูลรายละเอียดทั้งหมดของการของบประมาณปี 2568 และ 2569 ทางกมธ.ฯต้องการเห็นทั้งโครงการ แผนงานรายละเอียดโครงการ แผนงานทีโออาร์ข้อกำหนดขอบเขตงาน เป้าหมาย และตัวชี้วัด รวมถึงวิธีการและหน่วยงานที่รับผิดชอบในการประเมินผลโครงการ โดยกำหนดให้มีการนำเสนอข้อมูลเหล่านี้ ในวันที่ 23 ธ.ค. เวลา 09.00 น.

น.ส.ภิญญาพัชญ์ กล่าวว่า ยังมีรายละเอียดในประเด็นสำคัญอื่นๆ อีก เช่น 1. จากที่มีข่าวเรื่องการเปลี่ยนแปลงออร์แกไนเซอร์ กมธ.ฯจึงเชิญทั้งออร์แกไนเซอร์ที่เป็นข่าว และออร์แกไนเซอร์ที่ได้รับการว่าจ้างจริง รวมถึงกรมบัญชีกลางและสำนักงบประมาณ เข้ามาชี้แจงร่วมกันในวันเดียวกัน และ 2.การถ่ายทอดสด กมธ.ฯต้องการทราบรายละเอียดตั้งแต่การกำหนดนโยบายไปจนถึงการเห็นชอบ และที่สำคัญคือการจัดสรรเงินที่ได้จากการถ่ายทอดสดว่าหน่วยงานใดได้รับจัดสรรเงินนี้ และนำไปใช้จ่ายอะไรบ้าง เหตุใดจึงไม่ใช้โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ

“กมธ.ฯ ขอเน้นย้ำว่าการใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดินจำนวนกว่า 2,500 ล้านบาท ต้องมีความคุ้มค่า และไม่ใช่เพียงแค่การจัดการแข่งขันให้ลุล่วงไปเท่านั้น แต่ต้องสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้กับประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรม หวังว่าความร่วมมือจากทุกหน่วยงานในการให้ข้อมูลอย่างโปร่งใส จะนำไปสู่การจัดการแข่งขันที่ประสบความสำเร็จและนำมาซึ่งความภาคภูมิใจและผลประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติและประชาชนชาวไทยทุกคน” น.ส.ภิญญาพัชญ์ กล่าว

ส่วนกรณีดรามาเกี่ยวกับ ทีม RoV (AOV) หญิงทีมชาติไทย ในการแข่งขัน ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 (SEA Games 2025) ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ซึ่งนำไปสู่การถอนทีมออกจากการแข่งขันทั้งหมด น.ส. ภิญญาพัชญ์ กล่าวว่า ตนต้องแสดงความกังวลและเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การละเมิดหลักการแข่งขันระดับนานาชาติ ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของการเป็นเจ้าภาพของประเทศไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เราจึงขอให้สมาคมกีฬาอีสปอร์ตแห่งประเทศไทยดำเนินการในเรื่องนี้อย่างโปร่งใสและเด็ดขาดที่สุด เพื่อแสดงความรับผิดชอบและรักษามาตรฐานของวงการกีฬา

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'บวรศักดิ์' นำทีมถก 'กกต.' ขอใช้งบ 'คนละครึ่งเฟส 2' ปัดหาเสียงล่วงหน้า

'บวรศักดิ์' นำทีมหารือ 'กกต.' ขอใช้งบประมาณโครงการคนละครึ่งเฟส 2 - ครม.สัญจร ยันเป็นไปตามนโยบายที่แถลงไม่ใช่หาเสียงล่วงหน้า เตรียมพิจารณาคำถามประชามติอังคารนี้

รู้แล้วฝีมือใคร! จุดเริ่มต้นดรามา 'ซีเกมส์ 2025'

รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า วิพากษ์วิจารณ์กันจนเป็นดรามา คือเรื่องพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 33 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ