ทภ.2 สรุปชายแดนไทย-กัมพูชา ปะทะเป็นระยะ โดรนฝ่ายตรงข้ามหนาแน่น

กองทัพภาคที่ 2 รายงานภาพรวมสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พบการปะทะต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ฝ่ายตรงข้ามใช้งานโดรนและอาวุธหนักหนาแน่น ขณะฝ่ายไทยยิงตอบโต้ทำลายที่ตั้งยิงและยานพาหนะได้หลายครั้ง สถานการณ์ยังอยู่ในการควบคุม

20 ธันวาคม 2568 -  เมื่อเวลา 09.00 น.กองทัพภาคที่ 2 รายงานสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา วานนี้ (19 ธ.ค.) ในหลายพื้นที่สำคัญ พบว่าบางจุดยังคงมีความตึงเครียดและเกิดการปะทะเป็นระยะ ขณะที่บางพื้นที่ไม่พบความเคลื่อนไหวที่มีนัยสำคัญ

พื้นที่ชายแดนจังหวัดอุบลราชธานี บริเวณช่องบก ไม่พบความเคลื่อนไหวที่สำคัญ ส่วนพื้นที่ช่องอานม้า ฝ่ายไทยได้สถาปนาความมั่นคงในพื้นที่เป้าหมาย และตรึงกำลังตลอดแนวการวางกำลัง

พื้นที่ชายแดนจังหวัดศรีสะเกษ บริเวณซำแต–โดนตรวล–ภูผี–สัตตะโสม–พนมประสิทธิโส–ช่องตาเฒ่า ตรวจพบการขนน้ำมันและน้ำเข้าไปเติมในพื้นที่ภูผี ขณะเดียวกันฝ่ายกัมพูชาใช้อาวุธปืนใหญ่ยิงใส่ฐานฝ่ายไทยหลายจุด ส่งผลให้บังเกอร์ได้รับความเสียหายและมีกำลังพลบาดเจ็บ รวมถึงมีการใช้รถถังและยานเกราะยิงในช่วงค่ำ ฝ่ายไทยได้ยิงตอบโต้ด้วยปืนใหญ่ ทำให้ฝ่ายกัมพูชาต้องย้ายที่ตั้งยิงเพื่อปรับแนวการยิง

บริเวณผามออีแดง–ห้วยตามาเรีย ตรวจพบการลำเลียงกำลังพล อาวุธ และสัมภาระหลายครั้งตลอดทั้งวัน พบการใช้อากาศยานไร้คนขับ (UAV) และโดรนจำนวนมาก รวมถึงการปรากฏของรถถัง ฝ่ายกัมพูชาใช้อาวุธปืนใหญ่ยิงใส่ฐานฝ่ายไทยหลายจุด ฝ่ายไทยได้ยิงตอบโต้ด้วยปืนใหญ่และอาวุธสนับสนุนอื่น ๆ ทำลายเป้าหมายรถและที่ตั้งยิงของฝ่ายตรงข้ามเป็นระยะ

พื้นที่ภูมะเขือ–ช่องโดนเอาว์–พลาญยาว–พลาญหินแปดก้อน พบการใช้งาน UAV และโดรน FPV หลายลำ มีการยิงอาวุธหนักตกในพื้นที่หลายครั้ง ฝ่ายไทยได้ตอบโต้จนสร้างความเสียหายต่อเป้าหมายทางทหารของฝ่ายกัมพูชา

พื้นที่ชายแดนจังหวัดสุรินทร์ บริเวณช่องจอม–ช่องเปรอ–ช่องระยี และช่องกร่าง ไม่พบความเคลื่อนไหวที่สำคัญ พื้นที่คนา ฝ่ายไทยได้สถาปนาที่หมายและตรึงกำลังตลอดแนว ส่วนพื้นที่ตาควาย ฝ่ายตรงข้ามยิงอาวุธใส่ฝ่ายไทยและพยายามเสริมกำลัง ฝ่ายไทยยิงตอบโต้ด้วยอาวุธปืนใหญ่และครกอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่พื้นที่ตาเมือนธม มีกำลังพลฝ่ายไทยได้รับบาดเจ็บ 1 นาย จากกระสุนปืนใหญ่ตกในพื้นที่ และได้นำส่งสายแพทย์แล้ว

พื้นที่ชายแดนจังหวัดบุรีรัมย์ บริเวณช่องสายตะกู ไม่พบความเคลื่อนไหวที่สำคัญ

รายงานระบุว่า ภาพรวมของวันที่ 19 ธันวาคม ถือเป็นหนึ่งในวันที่ฝ่ายกัมพูชาใช้งานโดรนและโดรน FPV หนาแน่นที่สุด ตรวจพบหลายสิบลำในช่วงบ่ายถึงค่ำ พร้อมความพยายามเสริมกำลังและลำเลียงสัมภาระด้วยยานพาหนะหลายประเภท การยิงอาวุธหนักเกิดขึ้นต่อเนื่องทั้งสองฝ่าย

ฝ่ายไทยสามารถยิงทำลายที่ตั้งยิงและยานพาหนะของฝ่ายตรงข้ามได้หลายครั้ง แม้มีกำลังพลฝ่ายไทยได้รับบาดเจ็บ แต่สถานการณ์ยังอยู่ในภาวะควบคุมได้ และมีการส่งต่อรักษาทางการแพทย์ โดยประเมินแนวโน้มว่าฝ่ายตรงข้ามกำลังปรับปรุงที่มั่นและเตรียมการตั้งรับในพื้นที่สำคัญบางจุด.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โคราชเดือด! ถล่มยิงเป้าผู้นำเขมร

สโมสรกีฬายิงธนูโคราชเปลี่ยนเป้าซ้อมเป็นรูปผู้นำกัมพูชา ทั้งฮุน เซน–ฮุน มาเนต รวมถึงโฆษกกองทัพและอินฟลูเอนเซอร์เขมร ลูกค้าแห่ทดลองยิง ระบุเป็นกิจกรรมผ่อน

ทัพเรือเผยเหตุเขมรบุกหนัก เคยใช้สไนป์เปอร์ลอบยิง ผบ.หน่วย ก่อนเปิดฉากรบ

โฆษกกองทัพเรือเปิดเผย ช่วงก่อนการโจมตีบ้านเรือน 3 หลัง ฝ่ายกัมพูชามีความพยายามยั่วยุหลายครั้ง รวมถึงเหตุใช้พลซุ่มยิงลอบยิงผู้บังคับหน่วยระดับผู้นำ ก่อนสถานการณ์พัฒนาไปสู่การสู้รบ

กองทัพบกประณามกัมพูชา ใช้กำลังโจมตีพลเรือนชายแดน

โฆษกกองทัพบกระบุ การโจมตีชุมชนและบ้านเรือนประชาชนใกล้แนวชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นการใช้กำลังไม่เลือกเป้าหมาย ละเมิดกฎหมายมนุษยธรรม ส่งผลกระทบรุนแรงต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนไทยจำนวนมาก

ทภ.2 มีหลักฐานเขมรละเมิดอนุสัญญาเจนีวา-กฎหมายมนุษยธรรม 3 ประการ

กองทัพภาคที่ 2 เปิดข้อมูลการสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชาตลอด 13 วัน ระบุพบพฤติกรรมทางทหารของฝ่ายกัมพูชาที่เข้าข่ายละเมิดอนุสัญญาเจนีวาและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ชี้ชัดการใช้โบราณสถานเป็นฐาน การดึงพลเรือนร่วมปฏิบัติการ และการนำพลเรือนเข้าสู่พื้นที่การรบ

'ปานเทพ' เรียกร้องเอาผิดไส้ศึกส่งน้ำมันให้เขมร ชี้เข้าข่ายโทษประหาร!

ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ระบุผู้ที่ส่งน้ำมันซึ่งเป็นยุทธปัจจัยให้กัมพูชา ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เข้าข่ายช่วยข้าศึกทำร้ายทหารและพลเมืองไทย ขอให้ประชาชนช่วยแจ้งความดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 122 ซึ่งมีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต

‘จตุพร’ เตือนสงครามไทย-กัมพูชา ต้องไม่จบแบบโง่ๆ แค่ให้พ้นสิ้นปี

จตุพร พรหมพันธุ์ ระบุว่าสันติภาพจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อกัมพูชาคืนดินแดนไทยและหยุดยิงจริง ชี้หากสงครามจะยุติในช่วงสิ้นปี ต้องไม่จบแบบลวงโลกหรือซ้ำรอยการหยุดยิงรอบแรก พร้อมย้ำไทยไม่อาจแลกแผ่นดินกับสันติภาพจอมปลอม