ตีปี๊บบัตรคนจน วันแรกยังหงอย ฟุ้งตรงเป้าหมาย


เพิ่มเพื่อน    

นายกฯ เชิญชวนผู้มีรายได้น้อยลงทะเบียนสมัครเข้าร่วมโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิต เริ่มดีเดย์แล้ว 1 ก.พ.นี้ ฟุ้งทำให้ทุกคนยืนหยัดได้ด้วยตนเอง  คลังแจงมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตรงความต้องการคนจน ย้ำชัดเป้าหมายสำคัญดันหลุดพ้นการมีบัตรสวัสดิการ  
    ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี   เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ขอเชิญชวนผู้มีรายได้น้อยที่ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 11.4 ล้านคนทั่วประเทศ ไปลงทะเบียนสมัครเข้าร่วมโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.-28 ก.พ.61 เพื่อเข้าสู่กระบวนการพัฒนาตนเอง เช่น พัฒนาทักษะอาชีพ หางานทำในท้องถิ่น รับสินเชื่อเพื่อทำธุรกิจของตนเอง สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย รับการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น และยังได้รับวงเงินช่วยเหลือรายเดือนในบัตรสวัสดิการฯ เพิ่มขึ้นอีก 100 หรือ 200 บาท ตามฐานรายได้อีกด้วย
    “นายกฯ เน้นย้ำว่ารัฐบาลต้องการยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของผู้มีรายได้น้อยอย่างยั่งยืน คือได้รับทั้งเม็ดเงินเพื่อการดำรงชีพ และการต่อยอดสร้างงาน สร้างอาชีพ มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนเท่าเทียมกับคนทั่วไป พร้อมทั้งให้กำลังใจผู้มีรายได้น้อยด้วยว่า ทุกคนจะต้องยืดหยัดได้ด้วยตนเอง และสามารถดูแลตนเอง ลูกหลาน รวมถึงคนในครอบครัวได้อย่างเต็มภาคภูมิ ส่วนรัฐบาลจะทำหน้าที่สนับสนุนในทุกวิถีทางอย่างดีที่สุด”
    พล.ท.สรรเสริญกล่าวว่า โดยผู้มีรายได้น้อยที่สนใจจะต้องเตรียมบัตรประชาชนและบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไปสมัครเข้าร่วมโครงการที่ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่ตนเองลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560 ไว้ รวมทั้งสถานที่ที่ทางอำเภอหรือสำนักงานเขตประกาศแจ้งให้ทราบเพิ่มเติม ภายในระยะเวลาที่กำหนด ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดเตรียมทีมหมอประชารัฐสุขใจ หรือเอโอ มากกว่า 7,000 คนทั่วประเทศ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับปริญญาตรีที่เปิดรับใหม่ 3,500 คน ร่วมกับพนักงานธนาคารออมสิน ธ.ก.ส. เจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่ คอยให้คำแนะนำแผนการพัฒนาคุณภาพชีวิตแก่ทุกคน
    ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเปิดให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเข้าลงทะเบียนในมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ในวันแรก (1 ก.พ.61) มีประชาชนทยอยลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการไม่มากนัก เนื่องจากหลายพื้นที่ยังมีการประชาสัมพันธ์น้อย ในส่วนของธนาคารออมสิน สำนักงานใหญ่ ได้จัดเตรียมพื้นที่และเจ้าหน้าที่ประจำเคาน์เตอร์ไว้อำนวยความสะดวก โดยมีผู้มีรายได้น้อยเข้ามาลงทะเบียนเข้าบ้าง เพราะเชื่อว่าจะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น แต่บางส่วนก็มาสอบถามแต่ไม่ได้ลงทะเบียน เนื่องจากกลัวเวลาในการอบรมไม่ตรงกับที่ว่าง และโครงการไม่เหมาะกับความถนัดของตนเอง 
    นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า แนวทางการดำเนินมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนั้น ตอบสนองกับความต้องการของผู้มีรายได้น้อยแล้ว โดยในช่วงที่มีการกำหนดมาตรการดังกล่าวขึ้นมา ก็ได้มีการสอบถามถึงความต้องการของผู้มีรายได้น้อย ซึ่งมีการแสดงความต้องการให้มีการฝึกอาชีพใหม่ อบรมเพิ่มทักษะแรงงาน ต้องการมีการศึกษาเพิ่มเติม แหล่งเงินทุน ต้องการที่ดินทำกิน หรือที่อยู่อาศัย และต้องการออมเงินเพิ่ม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้จัดเตรียมในส่วนดังกล่าวไว้รองรับทั้งหมด มีเป้าหมายให้ผู้มีรายได้น้อยหลุดพ้นจากการมีบัตรสวัสดิการ ซึ่งโครงการต่างๆ ที่เตรียมไว้ให้นั้น มั่นใจว่าตรงกับความต้องการของทุกคน อยู่ที่จะเปิดใจรับหรือไม่เท่านั้น โดยคนที่เข้ามาลงทะเบียนก็จะได้สิทธิรับเงินเพื่อซื้อของอุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้น 100-200 บาท ตามฐานรายได้ที่กำหนด แต่คนที่ไม่ได้ลงทะเบียนก็จะเสียสิทธิในส่วนนี้ไป
    “มาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตฯ จะมีการทยอยทำไปเรื่อยๆ โดยไม่เสร็จทีเดียว 11.4 ล้านคน จะมี AO ที่เป็นเจ้าหน้าที่ของธนาคารรัฐ และที่ว่าจ้างเพิ่มเข้ามาทยอยลงทำหน้าที่ให้คำแนะนำเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้ ซึ่งมีทั้งการฝึกทักษะอาชีพ การหางานให้ทำ โดยปัจจุบันมีตำแหน่งงานในประเทศว่างอยู่ 1 แสนอัตรา และต่างประเทศอีก 7,000 อัตรา การส่งเสริมให้ได้เรียนหนังสือ การให้สินเชื่อเพื่อสร้างผู้ประกอบการ ตลอดจนจะมีการหาที่ทำกิน ที่พักอาศัย หรือประกันอุบัติเหตุรายย่อย ซึ่งมั่นใจว่าจะครอบคลุมทุกมิติในการช่วยพัฒนาให้พ้นเส้นความยากจนได้ ขณะเดียวกัน ในการประชุมไทยนิยมของรัฐบาลวันที่ 8-9 ก.พ.นี้ คลังจะร่วมกับหลายๆ หน่วยงาน เช่น พาณิชย์จังหวัด กระทรวงมหาดไทย ในการนำมาตรการนี้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในโครงการไทยนิยมด้วย” นายสมชัยกล่าว 
    นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ขณะนี้ประชาชนยังไม่รับทราบข้อมูลข่าวสารการลงทะเบียนมากนัก อาจทำให้มีจำนวนที่มาลงทะเบียนยังน้อย จึงต้องประชาสัมพันธ์ในเรื่องของสถานที่สำหรับรับลงทะเบียนให้ประชาชนรับทราบอย่างทั่วถึง โดยผู้ที่ต้องการจะมาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ จะต้องเป็นผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยนำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและบัตรประชาชนเข้าแจ้งความประสงค์กับเจ้าหน้าที่ได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง 28 ก.พ.นี้. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"