"คุณใหม่-สิริกิติยา" ร่วม "ตามรอยบุพเพสันนิวาส" ศึกษาประวัติศาสตร์อยุธยากับกรมศิลปากร ด้านอนันต์ ชูโชติ เผยเตรียมจัดเส้นทางศึกษาประวัติศาสตร์เมืองละโว้ จังหวัดลพบุรี สถานที่เกี่ยวเนื่องในละครดัง

     เมื่อวันที่ 17 มี.ค. กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากร ได้จัดกิจกรรมโครงการวัฒนธรรมสัญจร "ตามรอยบุพเพสันนิวาส ศึกษาประวัติศาสตร์และวรรณกรรมอยุธยา" พร้อมกับนำสื่อมวลชน และประชาชนรวม 120 คน ร่วมตามรอย เรียนรู้ประวัติศาสตร์ ภาษา วรรณกรรม และจารีตประเพณี สมัยอยุธยา ณ โบราณสถานสำคัญในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยกิจกรรมครั้งนี้ มีคุณใหม่ สิริกิติยา เจนเซน พระธิดาในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ร่วมตามรอยด้วย และได้เยี่ยมชมหมู่บ้านโปรตุเกส วัดพุทไธศวรรย์ และวัดไชยวัฒนาราม พร้อมกับแสดงความสนใจ  ในเรื่องราวของสถานที่ต่างๆ 
    นายอนัน ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เผยว่า ตั้งแต่ต้นเดือนที่ได้รับรายงานจาก สำนักงานอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ว่ามีประชาชนเข้าชมโบราณสถานเป็นจำนวนมาก โดยมีตัวเลขเปรียบเทียบที่ชัดเจนว่า ก่อนละครออกอากาศ วันธรรมดาจันทร์ถึงศุกร์มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยว 800-900 คน หลังละครออกอากาศ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มเป็นเฉลี่ยวันละ 4,000 คน ส่วนเสาร์-อาทิตย์ จากเดิมมีคนมาเที่ยวประมาณ 3,300 คน แต่ตอนนี้มียอดผู้เข้าชมพุ่งขึ้นเป็น 18,300 คน ซึ่งทางหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องก็จะต้องคอยอำนวยความสะดวก และที่สำคัญต้องดูแลพื้นที่ไม่ให้มีขยะ สร้างความเข้าใจในการเข้าชมสถานที่ให้กับประชาชน ไม่ปีนป่ายโบราณสถาน อีกทั้งยังเป็นการสร้างรายได้ให้กับชุมชนโดยรอบ ซึ่งในการจัดสัญจรครั้งต่อไปคาดว่าจะได้ดำเนินการในเส้นทางเมืองละโว้ หรือจังหวัดลพบุรี ซึ่งก็เป็นสถานที่ที่ปรากฏในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์เช่นกัน 
    "หลังจากที่ละครบุพเพสันนิวาสได้สร้างกระแสให้ทุกคนอยากมาตามรอยละคร และเรียนรู้ประวัติศาสตร์มากขึ้น เพราะโบราณสถานในไทยยิ่งใหญ่ไม่แพ้ต่างประเทศ และมาหาคำตอบต่อยอดจากละคร ทั้งในเรื่องของการตั้งเมือง ทำไมชาวต่างชาติถึงอยากเข้ามาประเทศไทย ซึ่งนับว่าเป็นมรดกของประเทศไทยที่อยากให้ทุกคนได้มาเรียนรู้และสนใจ" อธิบดีกรมศิลปากรกล่าว
    นางสาวภัทราวดี ดีสมโชค นักโบราณคดีชำนาญการ สำนักศิลปากรที่ 3 กล่าวว่า โบราณสถานอย่างที่ได้เห็นในละครเรื่องบุพเพสันนิวาส ในปัจจุบันยังคงหลงเหลืออยู่ในรูปแบบของซากอาคารต่างๆ วัด หรือบางวัดก็ยังคงเป็นสถานที่ประกอบกิจของพระสงฆ์ ที่ทำบุญของชาวบ้าน อย่างวัดพนัญเชิง และวัดที่อยู่ในบริเวณเกาะเมืองแห่งนี้ และยังมีลำคลอง ป้อมปราการสำคัญบางแห่ง อย่างป้อมเพชร ป้อมประตูข้าวเปลือก หมู่บ้านโปรตุเกส วัดนักบุญเซนต์โยเซฟ วัดไชยวัฒนราม เป็นต้น
    "ถ้าตามในละครป้อมเพชรคือจุดที่คู่พระนางล่องเรือมาจากบ้านที่อยู่ใกล้กับวัดไชยวัฒนาราม และนางเอกได้โบกมือให้ทหาร และวัดอโยธยา ที่จะอยู่อีกฟากฝั่งห่างไกลออกไปจากบ้านพระเอก ซึ่งเป็นวัดที่พระเอกได้บวชเป็นพระนั่นเอง เพราะนอกจากจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ชาวต่างชาติให้ความสนใจ ยังทำให้คนไทยเองหันมาเที่ยวเป็นจำนวนมาก เพื่อมาดูสถานที่ที่อยู่ในละคร เรียนรู้เรื่องราวของบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ในส่วนของนักท่องเที่ยวหรือผู้ที่สนใจเข้ามาชมโบราณสถาน ก็จะมีป้ายที่ระบุข้อความในการเข้าชม เพื่อป้องกันการปีนป่ายโบราณสถาน ไม่เอาของที่อยู่ในบริเวณวัดกลับบ้าน ดูแลในเรื่องของการทิ้งขยะ เพื่อให้ยังคงสภาพสมบูรณ์แบบที่เป็นอยู่ให้มากที่สุด และคิดว่าโบราณสถานจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่ไม่ได้อยู่แค่ในกระแส แต่อยากให้เป็นที่นิยมต่อๆ ไปในอนาคต"
    ด้านประชาชนที่ร่วมกิจกรรมตามรอยละครบุพเพสันนิวาส นางสาวรณิดา เนื่องจำนงค์ กล่าวว่า ชื่นชอบละครบุพเพสันนิวาส และได้เห็นว่าจะมีการจัดทริปตามรอยละคร จึงได้โอกาสเข้าร่วมโครงการ ซึ่งประวัติศาสตร์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเคยรับรู้มาตั้งแต่สมัยเรียน ไม่รู้ลึกถึงความสำคัญของแต่ละสถานที่ ทำให้การมาครั้งนี้ได้รับความรู้มากขึ้น และสามารถนำไปเล่าต่อให้เพื่อนหรือคนอื่นๆ ฟังได้ว่าตนได้มายังสถานที่จริงและมีสภาพเป็นอย่างไร เหมือนกับในละครฉากไหน และยังได้ชวนเพื่อนชาวเกาหลีและไต้หวันมาร่วมการเดินทางในครั้งนี้ด้วย
    อีกหนึ่งผู้เข้าร่วมโครงการ Jungsun Hyun ชาวเกาหลีใต้ กล่าวว่า ได้ดูละครและรู้สึกชื่นชอบทั้งนางเอกและพระเอก ละครยังทำออกมาได้ดี ได้เห็นเมืองประวัติศาสตร์ของไทยสมัยก่อนที่สวยมากๆ ได้เรียนรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์ต่างๆ ได้เข้าใจถึงการเปิดรับวัฒนธรรมต่างชาติของไทย เพราะหากเป็นประเทศตนเอง จะไม่ค่อยเปิดรับเท่ากับในปัจจุบัน และตื่นเต้น ดีใจมาก เพราะนี่คือการใส่ชุดไทยครั้งแรก และยังใส่ในพื้นที่สาธารณะเหมือนใส่กันปกติ เพราะเคยมา จ.พระนครศรีอยุธยา หลายรอบ แต่ไม่ค่อยมีใครสวมใส่ อีกทั้งคนไทยมาเที่ยวน้อย แต่ช่วงนี้คนไทยเยอะและทุกคนก็ใส่ชุดไทย ทำให้รู้สึกชอบมากๆ.