ติดตามข่าวสงคราม ไม่ใช่การ ‘เชียร์มวย’

คนไทยที่ติดตามข่าวสงครามยูเครนแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่...กลุ่มแรกเชียร์ปูติน กลุ่มหลังชื่นชมเซเลนสกี

คนที่เห็นว่ารัสเซียทำถูกแล้วที่ต้อง “สั่งสอน” ยูเครน เพราะผู้นำคนนี้พยายามจะเข้าร่วม NATO ซึ่งเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัสเซีย

คนเชียร์รัสเซียบอกว่ายูเครนต้องสำนึกว่าแต่ไหนแต่ไรมายูเครนก็มีความสนิทสนมกับรัสเซีย การที่พยายาม “เอาใจออกห่าง” จากปูตินนั้นถือว่าเป็นการยั่วยุและท้าทาย

อีกทั้งอเมริกาและยุโรปตะวันตกก็เคยตกปากรับคำหลังสหภาพโซเวียตล่มสลายว่าจะไม่ขยายสมาชิกมาประชิดติดกับรัสเซีย ซึ่งรัสเซียถือว่าเป็นการจงใจจะคุกคามรัสเซีย

คนที่เชื่ออย่างนี้ก็เห็นว่ารัสเซียมีความชอบธรรมที่จะบุกเข้าไป “จัดการ” กับยูเครนก่อนที่จะทำตัวเป็น “หอกข้างแคร่”

คนที่ไม่ชอบเซเลนสกีบอกว่านี่คือผลของการเอาคนที่ไม่มีประสบการณ์ทางการทหารและการเมืองมาปกครองประเทศ คนกลุ่มนี้บอกว่าผู้นำคนนี้แค่จะพาชาติพ้นภัยยังทำไม่ได้ แล้วจะปกป้องพลเมืองให้ปลอดภัยจากการโจมตีได้ยังไง?

แนวคิดนี้เชื่อว่าถ้าเซเลนสกีปฏิเสธการเข้าร่วมนาโตตั้งแต่ก่อนรัสเซียบุก หรือตั้งแต่รบกันวันแรก ยูเครนก็จะไม่ย่อยยับขนาดนี้

ผมได้ยินคนวิเคราะห์แนวนี้บอกว่า หลังจากรบกันได้ 1 สัปดาห์ สภาพบ้านเมืองก็เริ่มจะใกล้เคียงกับลิเบีย, อิรัก, ซีเรีย, เยเมน, ปาเลสไตน์ เข้าไปทุกที

และต้องถามสหรัฐว่า เคยชดใช้ต่อผลของสงครามในลิเบีย, อิรัก, ซีเรีย, เยเมน, ปาเลสไตน์ บ้างไหม?

ส่วนคนที่เชียร์เซเลนสกีนั้นก็อธิบายว่าคนยูเครนต้องการมีสิทธิ์ที่จะกำหนดชะตากรรมของตนเอง

ความคิดแนวนี้บอกว่า คนยูเครนโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ต้องการจะเป็น “ส่วนหนึ่งของยุโรป”

มิได้ต้องการเป็น “ส่วนหนึ่งของรัสเซีย”

เพราะพวกเขาต้องการจะสร้างประเทศให้ไปในทิศทางประชาธิปไตยแบบตะวันตก

พวกเขาเห็นโอกาสที่จะสร้างอาชีพงานการในโลกตะวันตกที่มีทางเลือกมากกว่า และพร้อมที่จะกระโดดเข้าเป็นส่วนหนึ่งของปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4

คนเชียร์ปูตินบอกว่า นาโตต้องการจะกดขี่และล้อมปราบรัสเซียให้หมดสภาพของการที่จะเป็นประเทศที่จะท้าทายสหรัฐฯ ได้

คนกลุ่มนี้เชื่อว่าปูตินเป็นนักวางแผนที่ชาญฉลาด และไม่กลัวการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจจากทางตะวันตก

เพราะอย่างไรเสียจีนก็ต้องช่วยรัสเซียเพื่อจัดตั้งเป็นแนวร่วมต้านอิทธิพลอันเลวร้ายของสหรัฐฯ ที่นำโดยสหรัฐฯ

ส่วนคนที่เชียร์เซเลนสกีบอกว่า ผู้นำยูเครนคนนี้เป็นนักสู้ แสดงความเป็นผู้นำในยามวิกฤต สามารถระดมสรรพกำลังของคนยูเครนลุกขึ้นมาสู้กับ “เผด็จการปูติน” อย่างสมศักดิ์ศรี

คนชอบปูตินบอกว่า มาตรการคว่ำบาตรเศรษฐกิจของตะวันตกต่อรัสเซียไม่มีผลกระทบต่อรัสเซียแต่อย่างใด

อย่างไรเสียปูตินก็มีทางออก...และได้เตรียมทางหนีทีไล่เอาไว้เรียบร้อยแล้ว

เพราะปูตินเป็นนักวางแผนตัวยง แม้แต่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังบอกว่าการรุกเข้ายูเครนของเขาเป็นฝีมือของ “อัจฉริยะ”

คนที่ไม่ชอบปูตินบอกว่าคราวนี้เสร็จแน่

เพราะการตัดสินใจทำสงครามครั้งนี้ของปูตินจะเป็น “จุดเริ่มต้นของการสิ้นสุด” ของปูติน

เพราะเศรษฐกิจจะย่ำแย่ ประชาชนคนรัสเซียจะเดือดร้อน ราคาข้าวของพุ่ง เงินรูเบิลร่วงหล่นอย่างหนัก และดอกเบี้ยพุ่งขึ้นจาก 9.5% เป็น 20% ชั่วข้ามคืน

อย่างนี้คนที่มองเห็นหายนะของปูตินบอกว่าประชาชนจะโค่นเขาลงจากตำแหน่ง

และผู้นำคนใหม่ของรัสเซียที่ประชาชนเลือกมาจะมีนโยบายที่ร่วมมือกับตะวันตกได้ดีกว่า...จะทำให้ความร่วมมือระหว่างรัสเซียกับตะวันตกราบรื่นขึ้น

คนที่ติดตามข่าวสงครามแบบ “เชียร์มวย” อาจจะต้องการความสะใจที่ได้เห็นฝ่ายที่ตนไม่ชอบเพลี่ยงพล้ำ      และฝ่ายที่ตนสนับสนุนสามารถสร้างความได้เปรียบในสงครามครั้งนี้

แต่ไม่ว่าจะเชียร์หรือด่าปูติน ของจริงที่เกิดขึ้นก็คือชาวยูเครนกว่า 40 ล้านคน ที่ไม่ได้เป็นผู้ก่อสงครามกำลังรับกรรมอย่างหนักหน่วง

จำนวนผู้ลี้ภัยสงครามกว่า 1.7 ล้านคน ระเบิดถล่มบ้านเรือนชาวบ้านที่ไม่เกี่ยวกับการสู้รบ อาหารการกินขาดแคลน ที่พักอาศัยถูกทำลายกลายเป็นซากปรักหักพัง ครอบครัวต้องพลัดพรากจากกัน

สภาพเช่นนี้ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ชอบปูติน, ไบเดน, เซเลนสกี...คุณก็ต้องประณามสงครามครั้งนี้ที่กระทำต่อชาวยูเครนเหมือนๆ กัน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สงครามพม่า: ไทยอาจมีสภาพเหมือน ‘โปแลนด์’ ของสงครามยูเครน?

ข้อสังเกตของอาจารย์สุรชาติ บำรุงสุข ว่าไทยอาจกลายเป็น “โปแลนด์” ในกรณีสงครามกลางเมืองพม่า เป็นประเด็นที่น่าสนใจสำหรับการวางยุทธศาสตร์ของไทยต่อสถานการณ์รอบบ้านเรา

ทำไม IMF กับ Apple ของจีนกันคนละมุม?

สองคนมองสองมุม ผู้อำนวยการ IMF เตือนว่าเศรษฐกิจจีนอยู่ในช่วงมาถึง “ทางสองแพร่ง” ต้องเลือกระหว่างนโยบายในอดีตหรือ “การปฏิรูปตลาด” เพื่อปลดล็อกการเติบโต

ปูติน-เซเลนสกีแลกหมัด กรณีเหตุก่อการร้ายมอสโก

ตกลงใครอยู่เบื้องหลังเหตุก่อการร้ายต่อโรงคอนเสิร์ตชานเมืองมอสโกที่มีคนตายกว่า 130 คนเมื่อค่ำวันศุกร์ที่ผ่านมา จนกลายเป็นเหตุการณ์ระดับโลก?

คำเตือนก่อเหตุร้ายมอสโก มาจากตะวันตกก่อน 2 สัปดาห์

สองสัปดาห์ก่อนเกิดเรื่องใหญ่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สหรัฐฯเตือนคนของตนในรัสเซียให้หลีกเลี่ยงที่ชุมนุมชนในกรุงมอสโกเพราะอาจจะมีการโจมตีของผู้ก่อการร้าย