สิ้น 'แมเดอลีน อัลไบรต์' รมว.ต่างประเทศหญิงคนแรกของสหรัฐ

แมเดอลีน อัลไบรต์ สตรีคนแรกที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐและเป็นผู้กำหนดทิศทางนโยบายต่างประเทศของสหรัฐช่วงปลายทศวรรษที่ 20 ถึงแก่อนิจกรรมแล้วเมื่อวันพุธ ขณะมีอายุ 84 ปี

แฟ้มภาพ แมเดอลีน อัลไบรต์ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ขณะฟังยัสเซอร์ อาราฟัต ผู้นำปาเลสไตน์ คุยโทรศัพท์กับประธานาธิบดีบิล คลินตัน จากกาซาซิตี เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2552 (Photo by STRINGER / POOL / AFP)

รายงานรอยเตอร์และเอเอฟพีเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม 2565 กล่าวว่า ครอบครัวของอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐประกาศข่าวว่า นางอัลไบรต์เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเมื่อวันพุธ ขณะมีอายุ 84 ปี หลังข่าวอนิจกรรมของนาง บรรดาผู้นำและอดีตผู้นำสหรัฐและประเทศอื่นๆ รวมถึงนักการทูต ต่างแสดงความอาลัยและยกย่องผู้บุกเบิกบทบาทสตรีบนเวทีโลกท่านนี้

แมเดลีน อัลไบรต์ เกิดที่เชโกสโลวะเกียเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2480 โดยมีชื่อแรกเกิดว่าแมรี ยานา คอร์เบโลวา ครอบครัวของเธอซึ่งเป็นยิว หนีนาซีเยอรมันมาลี้ภัยที่สหรัฐเมื่อปี 2491 ต่อมาอัลไบรต์ได้สัญชาติอเมริกันในปี 2500

ภายหลังสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกด้านรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย อัลไบรต์ทำงานให้กับสมาชิกระดับสูงของพรรคเดโมแครต และได้เป็นสมาชิกสภาความมั่นคงแห่งชาติในสมัยประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์ จนกระทั่งได้รับการแต่งตั้งจากประธานาธิบดีบิล คลินตัน ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำองค์การสหประชาชาติระหว่างปี 2536-2540

คลินตันตัดสินใจแต่งตั้งอัลไบรต์เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหญิงคนแรกของสหรัฐในปี 2540 และทำให้เธอเป็นหนึ่งในสตรีที่ทรงอิทธิพลที่สุดในยุคสมัยนั้น คลินตันกล่าวยกย่องอัลไบรต์ว่าเป็นพลังเพื่อเสรีภาพ, ประชาธิปไตย และสิทธิมนุษยชน การสูญเสียเธอเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของโลก

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวว่า อัลไบรต์เป็นผู้พลิกกระแสประวัติศาสตร์ เธอเป็นพลัง เธอท้าทายระเบียบแบบแผนและฟันฝ่าอุปสรรคครั้งแล้วครั้งเล่า เขายังสั่งการให้ลดธงครึ่งเสาที่ทำเนียบขาวและอาคารที่ทำการของรัฐบาล รวมถึงสถานทูตสหรัฐ จนถึงวันที่ 27 มีนาคม

ที่องค์การสประชาชาติ ที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงได้ยืนสงบนิ่งไว้อาลัยการเสียชีวิตของอัลไบรต์ก่อนการลงคะแนนข้อมติว่าด้วยยูเครนเมื่อวันพุธ

อัลไบรต์รับตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐในยุคหลังสงครามเย็นที่สหรัฐได้ผงาดขึ้นเป็นมหาอำนาจหนึ่งเดียวในโลก เธอเป็นผู้นำในการหารือกับบรรดาผู้นำประเทศต่างๆ เกี่ยวกับการควบคุมอาวุธ, การค้า, การก่อการร้าย และอนาคตของนาโต โลกไม่เคยมีสตรีที่ดำรงตำแหน่งที่ทรงอิทธิพลเช่นนี้มานับแต่นายกรัฐมนตรีมาร์กาเร็ต แทตเชอร์ ของอังกฤษ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'พล.อ.อ.เกษตร โรจนนิล' อดีต ผบ.ทอ.-ผบ.ทสส. ถึงแก่อนิจกรรม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บิ๊กเต้ พล.อ.อ.เกษตร โรจนนิล อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ และอดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด ถึงแก่อนิจกรรมด้วยโรคชรา ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ คืนวันที่ 3 เม.ย.เวลา 22.51น. สิริอายุ 91 ปี

สิ้นแล้ว 'ม.ร.ว.สดศรี ปันยารชุน' ภริยาอดีตนายกฯ อานันท์ สิริอายุ 87 ปี

หม่อมราชวงศ์สดศรี ปันยารชุน ถึงแก่อนิจกรรมอย่างสงบในวัย 87 ปี 4 เดือน หลังจากติดเชื้อแบคทีเรียในกระแสโลหิต เมื่อวันจันทร์ที่ 20 พฤศจิกายน เวลา 08.20 น. ที่โรงพยาบาลสมิติเวชสุขุมวิท ได้จากไปอย่างสงบ