น้ำท่วมหนักในบังกลาเทศและอินเดีย เสียชีวิตกว่า 60 ไร้บ้านหลักล้าน

น้ำท่วมครั้งใหญ่ที่สุดในรอบเกือบ 20 ปี ทางตะวันออกเฉียงเหนือของบังกลาเทศ คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 60 ราย ผู้คนนับล้านรอความช่วยเหลือ ท่ามกลางสภาพอากาศเลวร้ายทั่วทั้งภูมิภาค

พื้นที่น้ำท่วมขนาดใหญ่หลังจากฝนตกหนักในเขตคัมปานิกาญจน์ ของบังกลาเทศ เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม (Photo by AFP)

เอเอฟพีรายงานเหตุน้ำท่วมใหญ่ในรอบ 20 ปี ของบังกลาเทศ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม 2565 กล่าวว่า อุทกภัยครั้งใหญ่คุกคามผู้คนหลายล้านคนในบังกลาเทศที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำและลามไปถึงประเทศเพื่อนบ้านอย่างอินเดีย ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือ

ฝนตกหนักในอินเดียช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ปริมาณน้ำเพิ่มสูงจนเขื่อนสำคัญแห่งหนึ่งในเขตสิเลฏของบังกลาเทศเกิดแตกร้าวเสียหายและน้ำท่วมทะลัก ส่งผลกระทบต่อผู้คนราว 2 ล้านคน น้ำท่วมหมู่บ้านหลายสิบแห่ง มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 ราย

อารีฟอุสมัน บุยยัน หัวหน้าศูนย์พยากรณ์และเตือนภัยน้ำท่วม กล่าวกับเอเอฟพีว่า น้ำท่วมหนักกินพื้นที่กว่า 70% ของเขตสิเลฏ และ 60% ในเขตสุนัมกาญจน์ ที่อยู่ใกล้เคียง ถือเป็นน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในภูมิภาค และหวังว่าสถานการณ์จะดีขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้าหลังจากฝนตกหนักหยุดลง

ทางการบังกลาเทศได้เตรียมดำเนินการบรรเทาทุกข์สำหรับได้รับผลกระทบกว่า 2 ล้านคน ที่ไร้ถิ่นที่อยู่และขาดแคลนเสบียงอาหาร

โมซิบูร์ เราะห์มาน หัวหน้าเขตสิเลฏ กล่าวว่า เขื่อนที่เสียหายยังไม่สามารถซ่อมแซมได้เพราะกระแสน้ำยังคงมีปริมาณมาก ต้องรออีกสักระยะจนกว่าน้ำจะลดลง

ด้านอินเดีย ในรัฐอัสสัม ทางตะวันออกเฉียงเหนือ มีผู้เสียชีวิตกว่า 50 รายจากเหตุน้ำท่วม, ดินถล่ม และพายุฝนฟ้าคะนอง และจากข้อมูลของหน่วยงานจัดการภัยพิบัติแห่งรัฐอัสสัม พบว่าเกือบ 3,250 หมู่บ้านจมอยู่ใต้น้ำ ขณะที่ผู้อพยพหนีน้ำท่วมไปอยู่ในศูนย์บรรเทาทุกข์มีมากกว่า 92,000 คน

กองกำลังกู้ภัยของรัฐซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากกองทัพ กำลังทำงานอย่างหนักเพื่อช่วยเหลือผู้คนจากหมู่บ้านต่างๆ และแจกจ่ายอาหาร, น้ำดื่มสะอาด และสิ่งจำเป็นอื่น ๆ ให้แก่ผู้ประสบภัย.

เอเอฟพีรายงานเหตุน้ำท่วมใหญ่ในรอบ 20 ปี ของบังกลาเทศ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม 2565 กล่าวว่า อุทกภัยครั้งใหญ่คุกคามผู้คนหลายล้านคนในบังกลาเทศที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำและลามไปถึงประเทศเพื่อนบ้านอย่างอินเดีย ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือ

ฝนตกหนักในอินเดียช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ปริมาณน้ำเพิ่มสูงจนเขื่อนสำคัญแห่งหนึ่งในเขตสิเลฏของบังกลาเทศเกิดแตกร้าวเสียหายและน้ำท่วมทะลัก ส่งผลกระทบต่อผู้คนราว 2 ล้านคน น้ำท่วมหมู่บ้านหลายสิบแห่ง มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 ราย

อารีฟอุสมัน บุยยัน หัวหน้าศูนย์พยากรณ์และเตือนภัยน้ำท่วม กล่าวกับเอเอฟพีว่า น้ำท่วมหนักกินพื้นที่กว่า 70% ของเขตสิเลฏ และ 60% ในเขตสุนัมกาญจน์ ที่อยู่ใกล้เคียง ถือเป็นน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในภูมิภาค และหวังว่าสถานการณ์จะดีขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้าหลังจากฝนตกหนักหยุดลง

ทางการบังกลาเทศได้เตรียมดำเนินการบรรเทาทุกข์สำหรับได้รับผลกระทบกว่า 2 ล้านคน ที่ไร้ถิ่นที่อยู่และขาดแคลนเสบียงอาหาร

โมซิบูร์ เราะห์มาน หัวหน้าเขตสิเลฏ กล่าวว่า เขื่อนที่เสียหายยังไม่สามารถซ่อมแซมได้เพราะกระแสน้ำยังคงมีปริมาณมาก ต้องรออีกสักระยะจนกว่าน้ำจะลดลง

ด้านอินเดีย ในรัฐอัสสัม ทางตะวันออกเฉียงเหนือ มีผู้เสียชีวิตกว่า 50 รายจากเหตุน้ำท่วม, ดินถล่ม และพายุฝนฟ้าคะนอง และจากข้อมูลของหน่วยงานจัดการภัยพิบัติแห่งรัฐอัสสัม พบว่าเกือบ 3,250 หมู่บ้านจมอยู่ใต้น้ำ ขณะที่ผู้อพยพหนีน้ำท่วมไปอยู่ในศูนย์บรรเทาทุกข์มีมากกว่า 92,000 คน

กองกำลังกู้ภัยของรัฐซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากกองทัพ กำลังทำงานอย่างหนักเพื่อช่วยเหลือผู้คนจากหมู่บ้านต่างๆ และแจกจ่ายอาหาร, น้ำดื่มสะอาด และสิ่งจำเป็นอื่น ๆ ให้แก่ผู้ประสบภัย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อุตุฯ เตือนอากาศเย็น อุณหภูมิลด 1-3 องศา ใต้ฝนเพิ่มตกหนักถึงหนักมาก

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า ภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

กต. เร่งชี้แจงทูตอินเดีย รื้อถอนสิ่งก่อสร้างเพื่อควบคุมพื้นที่ ไม่ใช่เทวสถาน

นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงแนวทางของกระทรวงการต่างประเทศ ต่อสถานการณ์ไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในห้วงเวลาที่ทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการประชุม เช่น วานนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

กองทัพแจงรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างแปลกปลอมในพื้นที่อธิปไตยไทย ไม่ใช่ศาสนสถาน

ศูนย์แถลงข่าวร่วม สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ตามที่มีการเผยแพร่ภาพและคลิปวิดีโอในสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างซึ่งมีลักษณะคล้ายประติมากรรมทางศาสนา ในพื้นที่ใกล้แนวชายแดนไทย–กัมพูชา จนก่อให้เกิดความห่วงกังวลและการตีความที่หลากหลายในสังคมนั้น

นายกฯ ลั่นทำลายรูปปั้นสัญลักษณ์เขมร เทียบไม่ได้กับทหารไทยขาขาด มองอินเดียตำหนิ ให้เป็นเรื่องแค่ 2 ประเทศ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา ภายหลังมีการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปหรือ GBC ระดับเลขานุการ ระหว่างฝ่ายไทยและกัมพูชาที่ จ.จันทบุรี

'นักข่าวเทวดา' ซัดทหารไทยเมาสงคราม สื่อ-กองเชียร์สิ้นคิดทำลายรูปปั้นเทพเจ้าฮินดู จี้รัฐบาลขอโทษอินเดียด่วน

นายประวิตร โรจนพฤกษ์ นักเคลื่อนไหว และผู้สื่อข่าวประจำข่าวสดภาคภาษาอังกฤษ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า นี่ก็อาการเมาสงคราม! ถามจริง ตอนนี้เมาจนสังคมขาดสติ ไม่รู้ว่าทำอะไรไปบ้าง และสร้างความรู้สึกยี้ให้กับต่างชาติมากขึ้นเรื่อยๆ?

อินเดียดราม่า! ออกโรงตำหนิไทยรื้อถอนรูปปั้นเทพเจ้าฮินดูในพื้นที่พิพาท ทำร้ายจิตใจผู้ศรัทธาทั่วโลก

เพจ Army Military Force โพสต์ข้อความว่า อินเดียแถลงตำหนิไทย กรณีรื้อถอนรูปปั้นเทพเจ้าในพื้นที่พิพาท ชี้กระทบความรู้สึกผู้ศรัทธาทั่วโลก