ปลดระวางภัตตาคารลอยน้ำชื่อดังของฮ่องกง หลังบริการลูกค้ามากว่าครึ่งศตวรรษ

ภัตตาคารลอยน้ำขนาดยักษ์ของฮ่องกง ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานผ่านกาลเวลา และปรากฏตัวในภาพยนตร์ฮ่องกงและฮอลลีวูดหลายเรื่อง ได้รับการเคลื่อนย้ายออกจากเมือง หลังจำเป็นต้องปิดตำนาน เพราะการระบาดใหญ่ของโควิดทำให้ธุรกิจทรุดตัวจนต้องปลดระวางตัวเองในที่สุด

“จัมโบ้” ภัตตาคารลอยน้ำขนาดยักษ์ของฮ่องกง ที่ได้รับการออกแบบเหมือนพระราชวังของจักรพรรดิจีนและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานผ่านกาลเวลา เคลื่อนตัวออกจากท่าเรืออเบอร์ดีนของเกาะฮ่องกง เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน หลังธุรกิจทรุดตัวจนต้องปลดระวางตัวเองในที่สุด (Photo by Peter PARKS / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 15 มิถุนายน 2565 กล่าวว่า ภัตตาคารลอยน้ำ “จัมโบ้” (Jumbo Floating Restaurant) ที่เทียบท่าอยู่คู่ฮ่องกงมากว่าครึ่งศตวรรษ ปิดกิจการลงอย่างถาวร และได้รับการลากจูงออกจากอ่าวอเบอร์ดีนไปเรียบร้อยแล้ว หลังเผชิญพิษเศรษฐกิจอย่างหนักในช่วงการระบาดของโรคโควิด

ยักษ์ลอยน้ำลำนี้ มีความยาว 76 เมตร (250 ฟุต) และสามารถรองรับผู้มารับประทานอาหารได้กว่า 2,300 คน เคลื่อนตัวออกจากทางใต้ของเกาะฮ่องกงช่วงก่อนเที่ยงของวันอังคาร จากลำน้ำที่จอดอาศัยมาเกือบ 50 ปี

ภัตตาคารลอยน้ำ “จัมโบ้” ได้รับการออกแบบให้เหมือนพระราชวังของจีน และเคยได้รับการยอมรับในฐานะแหล่งท่องเที่ยวที่ควรมาเยือน ภัตตาคารแห่งนี้ดึงดูดผู้มาเยือนมาแล้วมากมายนับไม่ถ้วน ตั้งแต่ควีนอลิซาเบธที่ 2 ของสหราชอาณาจักร จนถึงนักแสดงฮอลลีวูดอย่างทอม ครูซ และเป็นฉากสำคัญในภาพยนตร์อีกหลายเรื่อง รวมถึงภาพยนตร์แนวระทึกขวัญเรื่อง สัมผัสล้างโลก (คอนเทเจี้ยน) ของสตีเวน โซเดอร์เบิร์ก ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับโรคระบาดใหญ่ทั่วโลก

ผู้ประกอบการของภัตตาคารแห่งนี้ อ้างว่าการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 เป็นสาเหตุหลักในการยุติการให้บริการตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 หลังจากประสบปัญหาด้านการเงินสะสมมากว่า 10 ปี

บริษัท เมลโก อินเตอร์เนชั่นแนล ดีเวลล็อปเม้นท์ ซึ่งเป็นเจ้าของภัตตาคารแห่งนี้ ประกาศตั้งแต่เดือนที่แล้วว่า ธุรกิจภัตตาคารไม่สามารถทำกำไรได้ตั้งแต่ปี 2556 และขาดทุนสะสมเกิน 100 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 440 ล้านบาท) อีกทั้งยังต้องเสียค่าบำรุงรักษาหลายล้านดอลลาร์ฮ่องกงในทุกปี แม้จะพยายามส่งต่อกิจการให้องค์กรธุรกิจหลายรายให้เข้ารับช่วงบริหารต่อโดยไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจ รวมถึงใบอนุญาตประกอบกิจการจะหมดอายุลงในเดือนมิถุนายน ท้ายที่สุดแล้ว “จัมโบ้” ต้องเดินทางออกจากเกาะฮ่องกง เพื่อหาผู้ประกอบการรายใหม่ในสถานที่แห่งใหม่ที่ไม่ได้รับการเปิดเผย

ชาวฮ่องกงจำนวนมาก มาร่วมส่งและเฝ้าดู “จัมโบ้” ค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากฮ่องกงไป ด้วยความรู้สึกผูกพันและเสียดาย ในฐานะสถานที่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและดึงดูดผู้คนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวจำนวนมาก... เป็นร้านอาหารที่รู้จักกันทั่วโลก.

ภัตตาคารลอยน้ำ “จัมโบ้” เปิดตัวในปี 2519 โดยสแตนลีย์ โฮ เจ้าพ่อคาสิโนผู้ล่วงลับ โดยมีรายงานว่าค่าก่อสร้างภัตตาคารหรูหราแห่งนี้มูลค่ากว่า 30 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 130 ล้านบาท) และมีจุดเด่นที่ "บัลลังก์มังกร" ในรูปแบบราชวงศ์หมิง รวมถึงจิตรกรรมฝาผนังที่วิจิตรอลังการ

ท่าเรืออเบอร์ดีนเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับร้านอาหารทะเลที่มีมากมายในแถบนี้ และได้รับความนิยมจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เฟื่องฟูของฮ่องกง แต่ความนิยมกลับลดลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ก่อนเกิดวิกฤตการระบาดของโรคโควิด-19.