ศรีลังการะงับการขายน้ำมันเชื้อเพลิง หลังน้ำมันเชื้อเพลิงสำรองลดลงแตะระดับต่ำสุด

ศรีลังกาขัดสนหนัก ประกาศระงับการขายน้ำมันเชื้อเพลิงทั่วประเทศเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ยกเว้นกิจการที่จำเป็น

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของศรีลังกายืนเฝ้าอยู่หน้าสถานีบริการน้ำมันที่ไม่มีน้ำมัน ในกรุงโคลัมโบ เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน (Photo by AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 28 มิถุนายน 2565 กล่าวว่า ศรีลังกากำลังเผชิญกับการล่มสลายทางเศรษฐกิจครั้งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ได้รับอิสรภาพจากสหราชอาณาจักรในปี 2491 และไม่สามารถจัดหาเงินตราต่างประเทศเพื่อนำเข้าสินค้าจำเป็นตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว

ในสถานการณ์ปัจจุบัน ปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงสำรองของศรีลังกาลดลงแตะระดับต่ำสุด ไม่เพียงพอสำหรับอุปทานการบริโภคแม้เพียง 1 วัน และเพื่อสงวนน้ำมันเชื้อเพลิงที่เหลือเหล่านั้นไว้สำหรับกิจการสาธารณะที่จำเป็นและฉุกเฉิน รัฐบาลจึงออกคำสั่งระงับการขายน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศเป็นเวลา 2 สัปดาห์

บันดูลา กุนาวารนะ โฆษกรัฐบาลกล่าวว่า การห้ามขายคือวิธีที่ดีที่สุดในการสงวนน้ำมันเบนซินและดีเซลไว้สำหรับกรณีฉุกเฉิน และขอเรียกร้องภาคเอกชนอนุญาตให้พนักงานทำงานจากที่บ้านเพื่อหยุดการเคลื่อนไหวของขนส่งสาธารณะ

“ตั้งแต่เที่ยงคืนของวันจันทร์ น้ำมันเชื้อเพลิงจะระงับการขาย ยกเว้นบริการที่จำเป็น เช่น ภาคสาธารณสุข เพื่อสงวนพลังงานสำรองที่เรามีอยู่น้อยนิดไว้สำหรับสิ่งที่สำคัญจริงๆ ทั้งนี้รัฐบาลขออภัยในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้นกับประชาชนทุกคน” กุนาวารนะ กล่าวในแถลงการณ์

ศรีลังกากำลังเผชิญกับอัตราเงินเฟ้อที่สูงเป็นประวัติการณ์และไฟฟ้าดับเป็นเวลานาน ซึ่งทั้งหมดนี้มีส่วนทำให้เกิดการประท้วงเป็นเวลาหลายเดือน และในบางครั้งก็กลายเป็นเหตุรุนแรง เพื่อเรียกร้องให้ประธานาธิบดีโกตาเบยา ราชปักษา ลาออกจากตำแหน่ง

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลศรีลังกาเพิ่งสั่งปิดโรงเรียนและหยุดให้บริการภาครัฐที่ไม่จำเป็นและเริ่มต้นเข้าสู่การล็อกดาวน์เป็นเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อประหยัดพลังงานและสงวนเชื้อเพลิงสำรองที่กำลังหมดลงอย่างรวดเร็ว

เดิมทีการปิดหน่วยงานภาครัฐมีกำหนดจะสิ้นสุดในสัปดาห์นี้ แต่ล่าสุดได้มีคำสั่งขยายเวลาออกไปจนถึงวันที่ 10 กรกฎาคม โดยรัฐบาลกำลังแก้ปัญหาด้วยการติดต่อขอซื้อเชื้อเพลิงจากแหล่งน้ำมันราคาถูกอย่างรัสเซียและกาตาร์

ศรีลังกาผิดนัดชำระหนี้ต่างประเทศจำนวน 51,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนเมษายน และกำลังเจรจากับกองทุนการเงินระหว่างประเทศเพื่อขอความช่วยเหลือทางการเงินอย่างเร่งด่วน.