ออสเตรเลียจะซื้อเรือดำน้ำนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ ในข้อตกลงความร่วมมือครั้งใหม่ที่มุ่งชนะอิทธิพลจีน

ออสเตรเลียประกาศว่าจะซื้อเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ มากถึง 5 ลำ จากนั้นจะสร้างโมเดลใหม่ด้วยเทคโนโลยีของสหรัฐฯ และอังกฤษภายใต้แผนการรวมพลังตะวันตกทั่วอินโด-แปซิฟิกในการเผชิญกับการผงาดขึ้นของจีน

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ (กลาง) กล่าวร่วมกับนายกรัฐมนตรีริชี ซูนัค ของอังกฤษ (ขวา) และนายกรัฐมนตรีแอนโธนี อัลบานีส ของออสเตรเลีย (ซ้าย) ในงานแถลงข่าวระหว่างการประชุมสุดยอดออคัส (AUKUS) เมื่อวันที่ 13 มีนาคม ที่ฐานทัพเรือพอยต์โลมาในเมืองซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา (Photo by Jim WATSON / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 14 มีนาคม 2566 กล่าวว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ เป็นเจ้าภาพต้อนรับนายกรัฐมนตรีแอนโธนี อัลบานีส ของออสเตรเลีย และนายกรัฐมนตรีริชี ซูนัค ของอังกฤษ ในการประชุมสุดยอดกลุ่มออคัส (AUKUS - กติกาสัญญาความมั่นคงไตรภาคีระหว่างประเทศออสเตรเลีย, สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา) ที่ฐานทัพเรือซานดิเอโก ในรัฐแคลิฟอร์เนีย

ไบเดนกล่าวว่าสหรัฐฯ ได้ปกป้องเสถียรภาพในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกมานานหลายทศวรรษ และพันธมิตรเรือดำน้ำจะช่วยสนับสนุนโอกาสแห่งสันติภาพในอีกหลายทศวรรษข้างหน้า

นายกรัฐมนตรีแอนโธนี อัลบานีส กล่าวว่า ออสเตรเลียจะซื้อเรือดำน้ำนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ 3-5 ลำ ภายใต้ข้อตกลงสัญญาความมั่นคงดังกล่าว ซึ่งแสดงถึงการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ด้านการป้องกันของประเทศ

ทั้งนี้ เรือดำน้ำที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์จะกลายเป็นอาวุธใหม่ที่ทำให้ออสเตรเลียอยู่ในประเทศระดับแนวหน้าที่นำโดยสหรัฐฯ ในการแข่งขันกับการขยายกำลังทหารของจีน

อัลบานีสเน้นย้ำว่า ขณะนี้ออสเตรเลียเป็นเพียงประเทศที่สองรองจากอังกฤษที่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงความลับทางนิวเคลียร์ของกองทัพเรือสหรัฐฯ อันจะนำมาซึ่งสันติภาพ, เสถียรภาพ และความปลอดภัย รวมทั้งรับประกันความเจริญรุ่งเรืองที่มากขึ้น

หลังการได้มาของเรือดำน้ำนิวเคลียร์ อังกฤษและออสเตรเลียจะเริ่มดำเนินการสร้างเรือดำน้ำโมเดลใหม่ซึ่งขับเคลื่อนด้วยพลังงานนิวเคลียร์และติดอาวุธทั่วไป ขนานนามว่าเอสเอสเอ็น-ออคัส (SSN-AUKUS) ภายใต้การออกแบบของอังกฤษด้วยเทคโนโลยีของสหรัฐฯและการลงทุนที่สำคัญในฐานอุตสาหกรรมทั้งสามแห่ง ภายใต้ความพยายามที่จะปกป้องและรักษาความปลอดภัยในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก

แม้จะไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ แต่การได้มาซึ่งเรือดำน้ำของออสเตรเลียถือเป็นความเคลื่อนไหวสำคัญในการเผชิญหน้ากับจีนซึ่งได้สร้างกองกำลังเรือยุคใหม่และเปลี่ยนเกาะเทียมให้กลายเป็นฐานทัพนอกชายฝั่งในมหาสมุทรแปซิฟิก

ขณะที่อังกฤษเองก็กำลังเดินหน้าเพิ่มขีดความสามารถทางทหารในการเผชิญกับความท้าทายของจีนและการสู้รบในรัสเซีย โดยจะอัดฉีดงบประมาณมากกว่า 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 2 ปีข้างหน้า เพื่อใช้เติมเต็มและสนับสนุนคลังอาวุธที่สำคัญ, ปรับปรุงองค์กรนิวเคลียร์ของสหราชอาณาจักรให้ทันสมัย ​​และให้ทุนแก่โครงการเรือดำน้ำของกลุ่มออคัสในระยะต่อไป

เจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐฯ คาดการณ์ว่า กองทัพเรืออังกฤษจะสามารถผลิตเรือดำน้ำรุ่นเอสเอสเอ็น-ออคัสที่ล้ำสมัยได้ภายในปี 2573 ขณะที่ออสเตรเลียน่าจะเป็นช่วงต้นทศวรรษ 2583

ในระหว่างนี้ กะลาสีเรือ, วิศวกร และบุคลากรอื่นๆ ของออสเตรเลียจะเข้ารับการฝึกอบรมกับพันธมิตรของสหรัฐฯและอังกฤษเพื่อให้เกิดความเชี่ยวชาญ ขณะที่เรือดำน้ำของอังกฤษและสหรัฐฯ จะเดินทางเทียบท่าเรือของออสเตรเลียเป็นประจำ

ด้านจีนออกมาเตือนว่าการดำเนินการของกลุ่มออคัส เสี่ยงที่จะทำให้เกิดการแข่งขันด้านอาวุธ และกล่าวหาทั้งสามประเทศว่าทำลายความพยายามจำกัดอาวุธนิวเคลียร์ของโลก

"เราขอเรียกร้องให้สหรัฐฯ, สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย ละทิ้งความคิดแบบสงครามเย็น, ให้เกียรติพันธกรณีระหว่างประเทศโดยสุจริตใจ และทำสิ่งอื่นๆ ที่เอื้อต่อสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค" เหมา หนิง โฆษกหญิงกระทรวงต่างประเทศของจีนกล่าวกับผู้สื่อข่าวในกรุงปักกิ่ง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ คุย 'ทรัมป์' ค่ำนี้ อัปเดตชายแดน ปัดหลิ่วตา 'ฮุนเซน'

'อนุทิน' อัปเดตชายแดนกับ 'ทรัมป์' ค่ำนี้ หลังคุย 'อันวาร์' ช่วงเย็น ปัดหลิ่วตา 'ฮุนเซน' ย้อนถามหยุดยิงเมื่อไหร่ ยันรัฐบาลมีอำนาจเต็มดูแลชายแดน

ไทยก้าวใหม่ดัน ‘ทนายเจมส์’ ลุยซิดนีย์ ขยายฐานคนไทยต่างแดนร่วมเลือกตั้ง

“ไทยก้าวใหม่” ส่ง “ทนายเจมส์” อินฟูลฯคนดัง เสาหลักในออสเตรเลีย โกยแต้มนอกราชอาณาจักร ชูคนไทยต่างแดนมีคุณภาพชีวิตดี อยู่อย่างสง่า มีศักดิ์ศรี

ขำไม่ออก! อดีต รมว.กต. โวรัฐบาลอิ๊งค์เจรจาสหรัฐ-จีน กดดันกัมพูชาเคารพข้อตกลงสันติภาพได้สำเร็จ

"มาริษ" แนะดึงจีนร่วมกดดันกัมพูชาให้เคารพข้อตกลง-รักษาสมดุลมหาอำนาจ-สื่อสารสหรัฐฯ โดยตรงไม่ผ่านคนกลาง

ลั่นไทยไม่ใช่นักเรียนประถม! จวกสหรัฐทำตัวเป็นครูใหญ่ถือไม้เรียวขู่

จวกสหรัฐอเมริกาใช้กำแพงภาษีขู่ไทยเหมือนครูใหญ่คุมเด็กประถม พร้อมชี้ไทยไม่ใช่สนามเด็กเล่นของวอชิงตัน และอธิปไตยไม่ใช่ของแลกผลประโยชน์ทางภูมิรัฐศาสตร์กับใครทั้งนั้น