กัญชาเสรีในเยอรมนี การแพทย์ + นันทนาการ

องค์ประกอบหลักของการทำให้กัญชาถูกกฎหมายในเยอรมนี คือการจัดตั้งสโมสรกัญชา ไม่ได้หมายถึงการจำหน่ายอย่างเสรีในห้องสลัวๆ ที่มีการเสพกันอย่างเมามัน

ตามร่างกฎหมายกัญชาฉบับแรกโดย คาร์ล เลาเทอร์บาค-รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข สังกัดพรรคสังคมประชาธิปไตยเยอรมนี (SPD) ซึ่งยังไม่ผ่านการลงมติในสภา ระบุถึง ใครก็ตามที่ต้องการก่อตั้งสโมสรกัญชาในเยอรมนีต้องเตรียมพร้อมสำหรับกฎที่เข้มงวด และต้องเป็น ‘สโมสรเพื่อการเพาะปลูก’ อย่างแท้จริง ภายในสโมสรและในรัศมี 250 เมตรไม่ควรมีการเสพกัญชา การเพาะปลูก การส่งมอบ การเป็นสมาชิกสโมสร และการจัดสถานที่ควรอยู่ในความควบคุมอย่างเคร่งครัด

เนื่องจากกฎหมายกัญชายังอยู่ในระหว่างการลงมติ หลายสิ่งหลายอย่างจึงสามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่ในเบื้องต้นแผนการวางกฎของสโมสรกัญชามีลักษณะดังนี้

+ สถานที่ตั้งของสโมสรกัญชา สถานปลูกและจัดเก็บ จะต้องล้อมรั้วและรักษาความปลอดภัย เช่น มีประตูและหน้าต่างกันขโมย เรือนเพาะปลูกต้องพรางให้พ้นจากสายตาของคนทั่วไป รัฐบาลในแต่ละรัฐสามารถกำหนดระยะห่างขั้นต่ำระหว่างสโมสรกับโรงเรียน สนามเด็กเล่น สถานที่เล่นกีฬา ศูนย์รับเลี้ยงเด็ก และสถานที่สำคัญอื่นๆ

+ สโมสรกัญชาทุกแห่งควรจัดทำแนวคิดการคุ้มครองสุขภาพและเยาวชน แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ วางแนวทางป้องกันการเสพติด โดยต้องผ่านการฝึกอบรมและเข้าร่วมหลักสูตรทบทวนอย่างสม่ำเสมอ สมาชิกในคณะกรรมการของสโมสรที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนของสโมสรจะต้องแสดงใบรับรองความประพฤติด้วย

+ สโมสรต้องแน่ใจว่ามีการปฏิบัติตามข้อกำหนดเรื่องสารตกค้างของยาฆ่าแมลงหรือปุ๋ย ต้องเก็บบันทึกว่ามีการจัดหาเมล็ดพันธุ์จากที่ไหน ปริมาณเมล็ดพันธุ์ที่จัดเก็บ และส่งมอบกัญชาให้สมาชิกคนใด เท่าไหร่

+ ทุกๆ ปี สโมสรจะต้องรายงานต่อเจ้าหน้าที่ถึงปริมาณกัญชาที่มีส่วนประกอบออกฤทธิ์ (THC และ CBD) ที่ผลิต ขาย หรือทำลายไปมากน้อยเพียงใดในรอบปีที่ผ่านมา และสต็อกปัจจุบันมีจำนวนเท่าใด

+ สโมสรสามารถแจกจ่ายกัญชาให้กับสมาชิกได้สูงสุด 50 กรัมต่อคนต่อเดือน และอยู่ใน “บรรจุภัณฑ์ที่เป็นกลาง หรือแบบไม่บรรจุหีบห่อ” เท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยง “การจูงใจในการบริโภค” สำหรับเยาวชน ควรมีเอกสารระบุน้ำหนัก วันที่เก็บเกี่ยว วันหมดอายุ และปริมาณสารออกฤทธิ์ (THC และ CBD) เป็นเปอร์เซ็นต์

ร่างกฎหมายที่ยังไม่ผ่านการลงมติในสภายังมีข้อบังคับเกี่ยวกับการบริโภคในที่สาธารณะด้วย – แม้ว่ากัญชาจะถูกกฎหมายโดยหลักการแล้วก็ตาม แต่ห้ามมีการสูบกัญชาในรัศมี 250 เมตรจากโรงเรียน ศูนย์รับเลี้ยงเด็ก สนามเด็กเล่น สถานที่ทำกิจกรรมของเยาวชน หรือสถานที่เล่นกีฬา และไม่อนุญาตให้บริโภคในย่านถนนคนเดินระหว่างเวลา 7.00 น.ถึง 20.00 น.

กัญชายังเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี ในร่างกฎหมายยังระบุว่า สำนักงานสวัสดิการเยาวชนสามารถสั่งให้เข้าร่วมใน “โปรแกรมการแทรกแซงก่อนกำหนด” ในกรณีที่มีการละเมิด นอกจากนี้เยาวชนจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าสโมสรกัญชา สำหรับสมาชิกสโมสรที่อายุมากกว่า 18 ปีและต่ำกว่า 21 ปี สามารถรับกัญชาที่มีสารออกฤทธิ์ (THC) ไม่เกิน 10 เปอร์เซ็นต์ได้สูงสุดเพียง 30 กรัมต่อเดือน

จำนวนสมาชิกของสโมสรจะถูกจำกัดที่ 500 คน และไม่อนุญาตให้บุคคลใดเป็นสมาชิกของสโมสรมากกว่าหนึ่งแห่ง ร่างกฎหมายยังยืนยันว่า อนุญาตให้ครอบครองกัญชาได้ไม่เกิน 25 กรัม และเพาะปลูกกัญชาสำหรับใช้ส่วนตัวได้ไม่เกิน 3 ต้น ส่วนแผนการจะให้เปิดขายอย่างเสรีในร้านค้าพิเศษนั้นถูกตัดตกไป แต่มีแผนสำรองที่จะทำการทดสอบในภายหลัง ในฐานะโครงการนำร่องในบางพื้นที่

รัฐมนตรีเลาเทอร์บาคได้ส่งร่างกฎหมายเพื่อประสานงานภายในกับกระทรวงอื่นๆ เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทันทีที่เสร็จสิ้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับประเด็นกัญชาเสรีจะได้รับแจ้งและปรึกษาหารือต่อไป จากนั้นจะถูกส่งให้คณะรัฐมนตรีร่วมพิจารณา ก่อนส่งร่างเข้ารัฐสภาเพื่อลงมติ

ตัวแทนที่สนับสนุนกฎหมายกัญชาเสรีในฝ่ายรัฐบาลทั้ง 3 พรรค คาดหวังว่าจะผลักดันร่างกฎหมายฉบับนี้ให้สำเร็จภายในปีนี้.