นักบวชคาทอลิก 450 คนล่วงละเมิดทางเพศเด็กเกือบ 2,000 คน

คริสตจักรคาทอลิกในสหรัฐอเมริกาถูกอัยการสั่งฟ้องด้วยข้อหาร้ายแรง จากรายงานของฝ่ายสืบสวนซึ่งเผยแพร่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ระบุว่า นักบวชกว่า 450 คนในรัฐอิลลินอยส์ล่วงละเมิดทางเพศเด็กเกือบ 2,000 คนในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา

นับว่าเป็นบันทึกการล่วงละเมิดทางเพศเด็กโดยสมาชิกคริสตจักรคาทอลิกครั้งแรกของรัฐ และเป็นการสรุปสำนวนคดีอย่างเป็นทางการของพนักงานอัยการที่ทำการสืบสวนในช่วงเวลาตั้งแต่ปี 1950 จนถึง 2019 ในสำนวนระบุเรื่องราวที่บอกเล่าโดยเหยื่อผู้รอดพ้นจากเหตุการณ์ แสดงให้เห็นถึงรูปการที่น่าวิตก ซึ่งคริสตจักรไม่สามารถช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบได้ รวมถึงรายงานการถูกล่วงละเมิดที่ถูกเพิกเฉยหรือถูกปกปิด

ในช่วงเริ่มต้นของการสืบสวน สังฆมณฑลในรัฐอิลลินอยส์ได้เปิดเผยชื่อของนักบวชจำนวนน้อยกว่าที่มีข้อกล่าวหา โดยเฉพาะนักบวชที่น่าเชื่อถือ ในเรื่องของการล่วงละเมิดทางเพศต่อผู้เยาว์ กระทั่งสำนักอัยการต้องยื่นเรื่องให้สังฆมณฑลอิลลินอยส์ตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อให้ส่งรายชื่อนักบวชที่ต้องสงสัยคนอื่นๆ

ควาเม ราอูล-อัยการสูงสุดของรัฐอิลลินอยส์เปิดเผยว่า ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมาผู้นำคาทอลิกมักใช้กลยุทธ์หรือบ่ายเบี่ยง เพื่อให้ผู้กระทำความผิดที่ตนรู้จักสามารถหลบซ่อนตัวได้ ซึ่งบ่อยครั้งนักบวชเหล่านั้นก็ยังอยู่ท่ามกลางสาธารณชน จนหลายครั้งคดีความหมดอายุ ทำให้เหยื่อผู้ถูกนักบวชคาทอลิกล่วงละเมิดทางเพศเหล่านั้นไม่ได้รับความยุติธรรมทางกฎหมาย

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีการเปิดโปงเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศในโบสถ์คาทอลิกในสหรัฐอเมริกา รวมถึงในรัฐเพนซิลเวเนียด้วย นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาทางการได้เร่งสืบสวนในหลายรัฐ และพบคดีใหม่ๆ เกิดขึ้นเรื่อยๆ

ยามนี้กรณีการล่วงละเมิดทางเพศในคริสตจักรคาทอลิกค่อยๆ กลายเป็นประเด็นสาธารณะไปทั่วโลกแล้ว.