อินเดียตื่นตัว หลังไวรัสนิปาห์ระบาด เสียชีวิตแล้ว 2 ราย

อินเดียประกาศควบคุมการชุมนุมในที่สาธารณะและปิดโรงเรียนบางแห่งในรัฐเกรละทางตอนใต้ หลังจากมีผู้เสียชีวิต 2 รายจากโรคนิปาห์ ซึ่งเป็นไวรัสจากค้างคาวหรือสุกรที่ทำให้เกิดไข้ร้ายแรง

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสวมชุดอุปกรณ์ป้องกันขณะเคลื่อนย้ายร่างของผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสนิปาห์ ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในเมืองโคซิโคเด รัฐเกรละ ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 14 กันยายน (Photo by AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 กันยายน 2566 กล่าวว่า เกิดภาวะระบาดของไวรัสนิปาห์ (Nipah virus) ในรัฐเกรละ ทางตอนใต้ของอินเดีย มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย

ทางการอินเดียประกาศควบคุมพื้นที่สาธารณะทันทีและห้ามการชุมนุม รวมทั้งสั่งปิดโรงเรียนบางแห่งในพื้นที่ที่เริ่มเกิดการระบาด

นอกจากพบผู้เสียชีวิตแล้ว ยังมีผู้ได้รับผลทดสอบการติดเชื้อเป็นบวกอีก 3 คน และผู้คนมากกว่า 700 คน รวมถึงเจ้าหน้าที่สาธารณสุข 153 คนที่สัมผัสกับผู้ติดเชื้อนั้นอยู่ระหว่างการสังเกตอาการ ตามรายงานจากหน่วยงานสาธารณสุขอินเดีย

ปัจจุบันมีผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจากการติดเชื้อดังกล่าวอย่างน้อย 4 ราย โดยหนึ่งในนั้นเป็นเด็กอายุ 9 ขวบ

ทั้งนี้ ไวรัสดังกล่าวก่อให้เกิดโรคไข้สมองอักเสบ และอยู่ในตระกูลเดียวกับไวรัสซึ่งก่อให้เกิดโรคทางเดินหายใจ

องค์การอนามัยโลกระบุว่าไวรัสดังกล่าวไม่มีวัคซีนป้องกันและมีอัตราการเสียชีวิตอยู่ระหว่าง 40 -75% หากเกิดการติดเชื้อ

อาการต่างๆจากการติดเชื้อ ได้แก่ มีไข้รุนแรง, อาเจียน และทางเดินหายใจอักเสบ แต่ในกรณีที่รุนแรงอาจมีอาการชักและมีไข้ในสมอง ส่งผลให้สมองอักเสบและตกอยู่ในภาวะโคม่าได้

ในระยะแรก ไวรัสจะแพร่เชื้อจากสัตว์พาหะ เช่น ค้างคาวผลไม้หรือสุกร แต่ก็สามารถแพร่เชื้อจากคนสู่คนได้ด้วย

ระยะฟักตัวตั้งแต่การติดเชื้อไปจนถึงการเริ่มแสดงอาการ อยู่ในช่วงประมาณ 4-14 วัน แต่มีรายงานว่าอาจยาวนานถึง 45 วัน ตามการระบุขององค์การอนามัยโลก

เมื่อปี 2561 ในรัฐเกรละแห่งนี้เคยเกิดการระบาดของไวรัสชนิดดังกล่าว จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 17 ราย

ไวรัสนิปาห์ถูกค้นพบครั้งแรกในปี 2541 หลังจากแพร่ระบาดในหมู่เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรในมาเลเซีย ส่วนในอินเดีย มีรายงานการระบาดของไวรัสนิปาห์ครั้งแรกในรัฐเบงกอลตะวันตกเมื่อปี 2544

องค์การอนามัยโลกระบุว่า ภาวะติดเชื้อจากไวรัสนิปาห์ ถือเป็นหนึ่งในโรคที่ต้องให้ความสำคัญและติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะอาจนำไปสู่ "ความเสี่ยงด้านสาธารณสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุด" เนื่องจากไวรัสดังกล่าวมีศักยภาพในการแพร่ระบาดและทั่วโลกยังไม่มีมาตรการรับมือที่ดีพอ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'หมอธีระวัฒน์' แฉข้อมูล องค์การอนามัยโลก พบว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด กลับเพิ่มมากขึ้นหลังจากการฉีดวัคซีน

ศ. นพ. ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ศูนย์ความเป็นเลิศ ด้านการแพทย์บูรณาการและสาธารณสุข และ ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก

ระวังอันตรายจากวัณโรคปี 67 เสียชีวิตกว่า 1.3 หมื่นราย

รบ.เตือนระวังอันตรายจากวัณโรค ปี 2567 พบผู้ป่วยรายใหม่พุ่งสูงกว่า 113,000 ราย เสียชีวิตกว่า 13,000 ราย รัฐบาลตั้งเป้าลดอัตราการตายจากวัณโรคลง 95% และลดผู้ป่วยรายใหม่ลงให้ได้ถึง 90%

ศูนย์จีโนมฯ เจาะลึก 'วัคซีนอีโบลา' ออกฤทธิ์ไว หลังฉีด 30 นาที ป้องกันติดเชื้อได้

ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เจาะลึกวัคซีนอีโบลาล่าสุด : สร้างเกราะป้องกันได้ใน 30 นาทีก่อนได้รับเชื้อ