อิสราเอลโจมตีครั้งใหม่ด้านเวสต์แบงก์และโบสถ์ในกาซา ขณะจุดผ่านแดนอียิปต์ยังนิ่งแต่เริ่มมีหวัง

อิสราเอลโจมตีครั้งใหม่ฝั่งเวสต์แบงก์และโบสถ์ในกาซา มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย ขณะความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมยังคงรออยู่ที่จุดผ่านแดนอียิปต์ แต่เริ่มมีความเคลื่อนไหว

ภาพถ่ายของผู้เสียชีวิต, สูญหาย หรือถูกลักพาตัวระหว่างการโจมตีอิสราเอลโดยกลุ่มฮามาสตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม ถูกวางไว้บนที่นั่งของหอประชุมสโมลาร์ซที่มหาวิทยาลัยเทลอาวีฟ ในนิทรรศการหัวข้อ "รวมเป็นหนึ่งต่อต้านการก่อการร้าย" เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม (Photo by AHMAD GHARABLI / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 20 ตุลาคม 2566 กล่าวว่า อิสราเอลโจมตีครั้งใหม่ในแนวรบด้านเขตเวสต์แบงก์ของปาเลสไตน์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตล่าสุด 13 ราย ตามข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์

"กองกำลังของอิสราเอลก่อเหตุสังหารหมู่จากในนูร์ชามส์ระหว่างการโจมตีเมื่อวานนี้ โดยมีผู้เสียชีวิตแล้ว 13 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 5 ราย" กระทรวงฯระบุในถ้อยแถลง

อิสราเอลอ้างอิงไปในทิศทางเดียวกันว่า กองทัพได้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศซึ่งสังหาร "ผู้ก่อการร้ายจำนวนหนึ่ง" ในเมืองนูร์ชามส์ และมีการยิงตอบโต้กับกลุ่มติดอาวุธที่ใช้ระเบิดขว้างใส่กองกำลังความมั่นคงของตน

อีกหนึ่งการโจมตีที่ยังคงถกเถียง คือการที่อิสราเอลโจมตีโบสถ์กรีกออร์โธด็อกซ์ เซนต์พอร์ฟีเรียสในย่านประวัติศาสตร์ของฉนวนกาซาเมื่อวันพฤหัสบดี ทำให้มีผู้พลัดถิ่นที่พักพิงในบริเวณดังกล่าวเสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย ซึ่งกองกำลังป้องกันอิสราเอลยอมรับว่าส่งเครื่องบินรบของตนเข้าไปโจมตีศูนย์บัญชาการของฮามาส และผลจากการโจมตีทำให้กำแพงโบสถ์แห่งหนึ่งในพื้นที่ได้รับความเสียหายโดยไม่ได้ตั้งใจ โดยโบสถ์แห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลอาห์ลี อาหรับ ซึ่งถูกโจมตีทางอากาศเมื่อวันอังคาร

นอกจากนี้กองทัพอิสราเอลยังสั่งอพยพประชาชนออกจากเมืองเคอร์ยัต ชโมนา ทางตอนเหนือ หลังเกิดเหตุปะทะกับนักรบฮิซบุลเลาะห์ตามแนวชายแดนติดกับเลบานอนต่อเนื่องหลายวัน พร้อมเคลื่อนย้ายรถถังและอาวุธหนักเข้าพื้นที่เพื่อโจมตีโครงสร้างพื้นฐานและจุดสังเกตการณ์ของกลุ่มติดอาวุธในเลบานอน

ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม กลุ่มติดอาวุธฮามาสบุกเข้าไปในอิสราเอลจากฉนวนกาซาและสังหารผู้คนอย่างน้อย 1,400 ราย ส่วนใหญ่เป็นพลเรือนที่ถูกยิง, ทำลายหรือเผาจนตาย นอกจากนี้ยังจับตัวประกันไปอีกเกือบ 200 คน รวมถึงชาวต่างชาติจาก 24 ประเทศ

ในขณะที่การตอบโต้ไปยังฉนวนกาซา ชาวปาเลสไตน์ราว 3,785 รายซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลเรือนเช่นกัน ถูกสังหารในการทิ้งระเบิดอย่างไม่หยุดยั้งของกองกำลังอิสราเอล

ล่าสุด เส้นทางความช่วยเหลือในฉนวนกาซาเริ่มมีความชัดเจนขึ้นแม้จุดผ่านแดนราฟาห์จะยังไม่เปิดตามกำหนดในวันศุกร์ก็ตาม โดยอียิปต์เริ่มรื้อบล็อกคอนกรีตใกล้ชายแดน และส่งพาหนะพร้อมอุปกรณ์เข้าไปซ่อมแซมถนนในฝั่งปาเลสไตน์เพื่ออำนวยความสะดวกให้รถบรรทุกของสหประชาชาติ เป็นสัญญาณแห่งความหวังว่าความช่วยเหลือที่จำเป็นอย่างยิ่งจะเริ่มไหลไปยังชาวปาเลสไตน์ที่ติดอยู่ข้างในในไม่ช้า

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ เพิ่งบรรลุข้อตกลงกับอียิปต์และอิสราเอลที่อนุญาตให้รถบรรทุกเสบียงความช่วยเหลือข้ามแดนได้ 20 คัน แม้องค์การอนามัยโลกชี้ว่าต้องส่งเข้าไปให้ได้ถึง 2,000 คันเป็นอย่างน้อย

แต่ข้อตกลงดังกล่าวมาพร้อมกับเงื่อนไขที่เข้มงวดจากอิสราเอลที่ว่าความช่วยเหลือจะต้องส่งไปทางใต้ของฉนวนกาซาซึ่งอิสราเอลสั่งให้พลเรือนอพยพเท่านั้นและต้องไม่ตกไปอยู่ในมือของกลุ่มติดอาวุธฮามาส

ขณะที่หัวหน้าผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติเรียกร้องอิสราเอลว่า การขยายการดำเนินการใดๆทางทหารของอิสราเอลอาจเป็นยิ่งกว่าหายนะสำหรับประชาชนในฉนวนกาซา พร้อมขอให้ทบทวนและยับยั้ง.

เพิ่มเพื่อน