สำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติที่นครเจนีวาแสดงความห่วงกังวลสถานการณ์ในเมียนมา อ้างมีรายงานกองทัพเมียนมาระดมอาวุธหนักและกำลังพลในหลายเมือง หวั่นเตรียมเปิดฉากถล่มฝ่ายต่อต้าน ขณะอินเทอร์เน็ตถูกตัดสัญญาณทำให้ชาวบ้านหลายล้านคนไร้ช่องทางสื่อสารกับโลกภายนอก
เอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานว่า ราวินา ชามดาซานี โฆษกสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งองค์การสหประชาชาติ แถลงที่นครเจนีวาเมื่อวันศุกร์ที่ 8 ตุลาคม ว่าสำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งนี้ได้รับรายงานที่น่าตกใจว่ากองทัพเมียนมาวางกำลังอาวุธหนักและกำลังทหารจำนวนมากในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่่ผ่านมา ที่เมืองกานแปะและ และ เมืองฮาค่า ในรัฐชิน, เมืองกะนีและโมนยวาในรัฐสะกายทางภาคกลาง และเมืองกั่นก้อในเขตมาเกว
"สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เราได้เห็นการเสริมกำลังอย่างแท้จริง มีการวางกำลังอาวุธหนักและกำลังทหารจำนวนมากในพื้นที่เหล่านี้" โฆษกหญิงผู้นี้กล่าว
ความรุนแรงและการเสริมกำลังทำให้มิเชล บาเชเลต์ ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชน มีความตื่นตระหนกและกังวลอย่างมากว่าอาจเกิดการโจมตีในเวลาอันใกล้ เป็นการโจมตีที่ร้ายแรงมากต่อพลเรือน ชามดาซานีเผยอีกว่า มีผู้บัญชาการทหารระดับสูง 2 นายถูกส่งไปยังพื้นที่ด้วย
"เรากังวลอย่างยิ่งกับพัฒนาการเหล่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้รับรายงานว่า กองทัพโจมตีรุนแรงขึ้นในพื้นที่เหล่านี้ช่วงเดือนที่ผ่านมา" ชามดาซานีกล่าว และว่า การโจมตีดังกล่าวมีทั้งการสังหาร, บุกโจมตีหมู่บ้านและเผาบ้านเรือน เพื่อค้นหากลุ่มต่อต้านที่ติดอาวุธ และตอบโต้หมู่บ้านที่ถูกมองว่าเข้าข้างกองกำลังป้องกันประชาชนหรือกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธ
เธอกล่าวอีกว่า อินเทอร์เน็ตก็ถูกระงับสัญญาณด้วย ซึ่งทำให้ประชาชนหลายล้านคนขาดช่องทางในการติดต่อสื่อสารหรือได้รับข้อมูลที่จำเป็นต่อการเอาชีวิตรอด และทำให้ข้อมูลเกี่ยวกับการละเมิดที่อาจเกิดขึ้นไม่ได้รับการเปิดเผย
เธอเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ที่มีอิทธิพลโน้มน้าว ดำเนินการเพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชนเพิ่มมากขึ้น พร้อมกับอ้างตัวเลขประเมินขององค์กรท้องถิ่นในเมียนมาว่า มีคนเสียชีวิตในการปราบปรามของกองกำลังความมั่นคงเมียนมาแล้ว 1,120 คน นับตั้งแต่ฝ่ายประชาธิปไตยนัดหยุดงานและประท้วงการก่อรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์
รัฐบาลทหารเมียนมาปฏิเสธตัวเลขประมาณการนี้ และว่ามีทหาร-ตำรวจเสียชีวิตด้วยเช่นกัน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'บิ๊กโจ๊ก' ขุดข้อมูลเหยื่อเล่าก์ก่ายเข้าข่ายความผิด ตามล้างสแกมเมอร์
“บิ๊กโจ๊ก” ติดตามการคัดกรองช่วยเหลือคนไทยจากเมืองเล่าก์ก่าย 331 คน พบเป็นบุคคลกระทำความผิดจับดำเนินคดี 9 คน
ผงะ! แรงงานต่างด้าว 26 คน ซุกรถกระบะลอบเข้าไทย
ทหารหน่วยเฉพาะกิจราชมนู (ฉก.ราชมนู) ซึ่งมีหน้าที่ปฎิบัติภารกิจชายแดนไทย-เมียนมา 5 อำเภอชายแดน จังหวัดตาก
นายกฯ ชี้ต้องแยก 'เหยื่อค้ามนุษย์-แก๊งคอลเซ็นเตอร์' หลังช่วยคนไทยในเล่าก์ก่ายกลับบ้าน
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการช่วย 226 คน จากเล่าท์ก่าย ประเทศเมียนมา ว่า ได้รับรายงานจากกระทรวงการต่างประเทศ ขณะนี้ได้ช่วยเหลือออกมาแล้ว ซึ่งในนั้นมีผู้กระทำความผิดที่อยู่ในกระบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ด้วย แต่ไม่แน่ใจว่ามี 3 คนหรือไม่
ญาติเฮ! คนไทย 266 คน รอดขุมนรกเล้าก์ก่าย ถึงบ้านคืนนี้
คืนนี้ คนไทย 266 จากเมืองเล้าก์ก่ายได้กลับบ้าน เจ้าหน้าที่สแกนยิบเข้าสู่กระบวนการคัดแยกเหยื่อตามกฎหมายค้ามนุษย์
ทบ. เผยคนไทยจาก ‘เล่าก์ก่าย’ มาถึงพรมแดนเมียนมา-จีน อยู่ระหว่างข้ามแดน
ทบ. เผยคืบอพยพ 259 คนไทย ใน ‘เล่าก์ก่าย’ มาถึงพรมแดนเมียนมา-จีน อยู่ระหว่างข้ามแดน
ตร.หิ้ว 2 ชาวต่างชาติ ฆ่าโหดหนุ่มไต้หวัน ฝากขังศาล คอตกนอนคุกไร้คนประกัน
พนักงานสอบสวน สน.บางนา นำตัวนายแซ วอ ลิงแปร่ อายุ 22 ปี สัญชาติเมียนมา เเละนายจอห์น แอบอนี อายุ 40 ปี ชาวแคมเมอรูน 2 ผู้ต้องหาในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,83ไปยื่นคำร้องฝากขังครั้งเเรกต่อศาลเป็นเวลา 12 วัน