
ไมค์ เพนซ์-อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศเมื่อวันเสาร์ว่า เขาจะยุติการรณรงค์หาเสียงเพื่อเสนอชื่อตนเองต่อพรรครีพับลิกันสำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปีหน้า
“ผมขอบอกกับพลเมืองอเมริกันว่า ผมขอบอกว่านี่ไม่ใช่เวลาของผม” เพนซ์กล่าวกับผู้เข้าร่วมการประชุมแนวร่วมยิวของพรรครีพับลิกันในลาสเวกัส “หลังจากอธิษฐานและไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนแล้ว ผมจึงตัดสินใจยุติการรณรงค์หาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดี”
นักการเมืองวัย 64 ปีไม่ได้เสนอแนะชื่อของใคร แต่เรียกร้องให้มีผู้สมัครที่ดีของประชาชน และสามารถเป็นผู้นำด้วย “ความสุภาพ” เพนซ์เสนอตัวเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว แต่การรณรงค์หาเสียงของเขาไม่โดดเด่นหรือได้รับความสนใจเท่าที่ควร
ไมค์ เพนซ์เป็นอดีตรองประธานาธิบดีสมัยโดนัลด์ ทรัมป์มาหลายปี ปัจจุบันเขาถือเป็นตัวเต็งในการแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของพรรครีพับลิกันในการเลือกตั้งปี 2024 ซึ่งในส่วนของพรรคดีโมแครตคู่แข่งนั้นมีโจ ไบเดนเป็นผู้สมัครอีกครั้ง
เพนซ์ นักการเมืองอนุรักษ์นิยมและคริสเตียนเคร่งศาสนา แม้จะเคยทำหน้าที่เป็นรองประธานาธิบดีของทรัมป์ในช่วงสี่ปีที่ทำเนียบขาว อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ก่อจลาจลที่อาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 ก็นำไปสู่การแตกหักระหว่างสมาชิกพรรครีพับลิกันทั้งสอง
ในช่วงเวลานั้นเพนซ์ปฏิเสธข้อเรียกร้องของทรัมป์ที่จะให้ขัดขวางการยืนยันชัยชนะของโจ ไบเดนจากพรรคดีโมแครต ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีในสภาคองเกรสปี 2020 นับแต่นั้นมา เขาได้วิพากษ์วิจารณ์ทรัมป์อย่างรุนแรงบ่อยครั้ง และประกาศว่าไม่ควรปล่อยให้ประชานิยมฝ่ายขวาเข้าสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีอีก
การเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาจะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2024 ในช่วงหลายเดือนข้างหน้าผู้สมัครของแต่ละพรรคจะถูกกำหนดโดยการเลือกตั้งขั้นต้น.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กัมพูชาถอนตัวซีเกมส์ ขอบคุณมิตรภาพจากไทย หวั่นไม่ปลอดภัยจากเหตุปะทะ
จากการที่นักกีฬากัมพูชาได้ถอนตัวจากการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ โดยได้มีการแจ้งถอนตัวทั้งหมด เมื่อวันที่ 10 ธันวาคมนั้น
ทรัมป์เตือนอิสราเอล อย่าแทรกแซงซีเรีย
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตือนอิสราเอลไม่ให้แทรกแซงซีเรีย “เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่อิสราเอลจะต้องรักษาการเจรจาที่มั่นคงและจริงใจกับซีเรีย และต้องไม่มีการกระทำใด ๆ ที่อาจขัดขวางการพัฒนาซีเรียให้กลายเป็นประเทศที่เจริญรุ่งเรือง” ทรัมป์โพสต์บนแพลตฟอร์ม Truth Social ของเขาเมื่อวันจันทร์ เขายังเสริมด้วยว่า “ยังมีโอกาสครั้งประวัติศาสตร์ในการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ”

