ผู้นำสหรัฐฯและผู้นำเม็กซิโกให้คำมั่นว่าจะทำงานร่วมกันเพื่อรับมือกับวิกฤติเฟนทานิลและการย้ายถิ่นฐานของผู้อพยพบริเวณชายแดน ในการประชุมนอกรอบหลังสิ้นสุดการประชุมเอเปกที่ซานฟรานซิสโก
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของ สหรัฐฯ (ขวา) และประธานาธิบดีอันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ของเม็กซิโก นั่งอย่างสบายๆระหว่างการประชุมทวิภาคีในวันสุดท้ายของสัปดาห์ผู้นำความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) ที่เมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน (Photo by Brendan SMIALOWSKI / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2566 กล่าวว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ และประธานาธิบดีอันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ของเม็กซิโก ได้หารือร่วมกันหลังเสร็จสิ้นการประชุมสุดยอดเอเชีย-แปซิฟิก หรือเอเปก และต่างให้คำมั่นว่าจะทำงานร่วมกันเพื่อรับมือกับวิกฤติเฟนทานิลและการย้ายถิ่นฐานของผู้อพยพบริเวณชายแดนซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังมานาน
ผู้นำสหรัฐฯกล่าวในการหารือว่า ปัญหาการอพยพย้ายถิ่นฐานตามแนวชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโกนั้นไม่สามารถแก้ไขได้โดยง่าย และประเด็นดังกล่าวอาจเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับพรรคเดโมแครตและตัวเขาเองในความพยายามก้าวสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2567 ที่ฝ่ายตรงข้ามอย่างพรรครีพับลิกันซึ่งนำโดย โดนัลด์ ทรัมป์ นักประชานิยมหัวรุนแรง มีแนวทางชัดเจนในนโยบายชายแดนที่เข้มงวด
ขณะที่ผู้นำเม็กซิโกให้คำมั่นว่าจะจัดการกับการค้ามนุษย์และการผลิตฝิ่นสังเคราะห์ หรือเฟนทานิล ซึ่งเป็นสาเหตุให้มีผู้เสียชีวิตหลายหมื่นคนในสหรัฐฯ ด้วยตระหนักดีถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเยาวชนอเมริกัน อีกทั้งยังเชื่อมั่นในตัวโจ ไบเดนว่าเป็นคนดีมีความสามารถ
ทั้งนี้ รัฐบาลวอชิงตันกล่าวหาว่าสารเคมีตั้งต้นของเฟนทานิลนั้นผลิตโดยกลุ่มค้ายาชาวเม็กซิโก แต่ฝ่ายบริหารของโลเปซ โอบราดอร์เคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่าส่วนผสมดังกล่าวมาจากเอเชีย
การประชุมเอเปกครั้งล่าสุดปิดฉากลงเมื่อวันศุกร์ด้วยแถลงการณ์ร่วมในคำมั่นสัญญาที่จะส่งเสริมพลังงานหมุนเวียนและปรับปรุงการค้า แต่ไม่มีข้อตกลงในประเด็นสำคัญสองประเด็นที่ปั่นป่วนการเมืองโลก ได้แก่ สงครามของอิสราเอลในฉนวนกาซา และการรุกรานยูเครนของรัสเซีย
แถลงการณ์ของกลุ่มประเทศที่มาประชุม รวมถึงรัสเซีย เป็นเพียงแค่การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับวิกฤตที่กำลังดำเนินอยู่ในฉนวนกาซา และบรรดาชาติสมาชิกส่วนใหญ่ล้วนประณามการโจมตีในยูเครนของรัสเซียมาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าผู้นำบางคนเชื่อว่าเอเปกเป็นเวทีที่ควรสงวนไว้สำหรับหารือเกี่ยวกับประเด็นทางเศรษฐกิจ ไม่ใช่ภูมิศาสตร์การเมือง โดยเจ้าภาพครั้งต่อไปได้แก่ประเทศเปรู.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘อิ๊งค์’ โชว์30บ. เวทีผู้นำเอเปก
นายกฯ อิ๊งค์โชว์ผลงาน 30 บาทรักษาทุกที่ บนเวทีผู้นำภาคเอกชนเอเปก พร้อมชวนลงทุนด้านธุรกิจดูแลสุขภาพในไทย มั่นใจหลังให้นโยบาย “บีโอไอ”
นายกฯแพทองธาร สวมชุดผ้าไหมไทย ร่วมงานเลี้ยงผู้นำเอเปก
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สวมชุดผ้าไหมไทย ซึ่งเป็นผ้าไหมผสมผสานผ้าปักชาวเขา เข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ เพื่อเป็นเกียรติ
นายกฯอิ๊งค์ โชว์ 30 บาทรักษาทุกโรค บนเวทีสุดยอดผู้นำภาคเอกชนเอเปก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อ 15 พ.ย. 2567 เวลา 16.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นกรุงลิมา ซึ่งช้ากว่ากรุงเทพฯ 12 ชม.) ณ the Grand National Theater of Peru กรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมน