กองทัพเรือจีนเดินทางถึงเมียนมา ก่อนเริ่มปฎิบัติการซ้อมรบร่วม

เรือรบของจีน 3 ลำเดินทางถึงเมียนมาเพื่อซ้อมรบร่วมทางทะล สวนทางความขัดแย้งบริเวณชายแดนที่ตึงเครียด

เจ้าหน้าที่อาวุโสของกองทัพเรือเมียนมาให้การต้อนรับเจ้าหน้าที่ของกองทัพเรือจีน หลังเดินทางมาถึงท่าเรือติลาวา ในกรุงย่างกุ้ง เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน (Photo by Handout / MYANMAR MILITARY INFORMATION TEAM / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 28 พฤศจิกายน 2566 กล่าวว่า กองทัพเรือของจีนเดินทางถึงเมียนมาพร้อมเรือรบ 3 ลำ เพื่อปฎิบัติการซ้อมรบร่วมกับกองทัพเมียนมา

ข้อมูลของรัฐบาลทหารระบุว่า เรือพิฆาต, เรือฟริเกต และเรือเสบียงที่บรรทุกลูกเรือหลายร้อยคนเดินทางถึงท่าเรือติลาวาเมื่อวันจันทร์ เพื่อเตรียมพร้อมก่อนการซ้อมรบด้านความมั่นคงทางเรือระหว่างเมียนมาและจีน

รัฐบาลทหารไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบการซ้อมรบหรือกรอบเวลาการดำเนินการ แต่สื่อของรัฐรายงานว่า กองกำลังเฉพาะกิจทางเรือของจีนมีลูกเรือ 700 คนที่เต็มไปด้วยสมรรถภาพ

รัฐบาลปักกิ่งเป็นพันธมิตรรายใหญ่และเป็นผู้จัดหาอาวุธให้กับรัฐบาลเผด็จการทหารของเมียนมา และปฏิเสธที่จะประณามการทำรัฐประหารของกองทัพในปี 2564

อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ของสองชาติเริ่มสั่นคลอนในช่วงไม่นานมานี้ จากปัญหาการสู้รบระหว่างกองทัพเมียนมาและกองกำลังชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์ใกล้ชายแดนจีน โดยรัฐบาลเผด็จการกล่าวว่าชนกลุ่มน้อยเหล่านี้ใช้โดรนที่ผลิตในจีนในการโจมตีฐานที่มั่นและเข้ายึดศูนย์กลางการค้าและด่านหน้าทางทหารหลายสิบแห่งในรัฐฉานทางตอนเหนือของประเทศ

เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา มีชาวเมียนมารวมตัวประท้วงที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักในกรุงย่างกุ้ง เพื่อกล่าวหาว่าจีนสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธในการสร้างความไม่สงบ ซึ่งการรวมตัวครั้งนี้นักวิเคราะห์กล่าวว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเผด็จการ

ทั้งนี้ รัฐบาลปักกิ่งแสดงความไม่พอใจอย่างยิ่งต่อการปะทะกันในรัฐฉานซึ่งเป็นที่ตั้งของท่อส่งน้ำมันและก๊าซที่ส่งไปยังจีน และอาจส่งผลกระทบกับแผนการเชื่อมโยงทางรถไฟมูลค่าพันล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ จีนยังกล่าวว่าการสู้รบดังกล่าวทำให้มีชาวจีนเสียชีวิตที่บริเวณชายแดน

รัฐบาลปักกิ่งยังรู้สึกหงุดหงิดกับความล้มเหลวของรัฐบาลเผด็จการทหารในการปราบปรามกลุ่มหลอกลวงออนไลน์ในพื้นที่ชายแดนที่ผิดกฎหมายของเมียนมา ซึ่งมุ่งเป้าไปที่พลเมืองจีน

เมื่อวันเสาร์ จีนทำการซ้อมรบใกล้ชายแดนเมียนมา ไม่กี่วันหลังเกิดการโจมตีพาหนะมากกว่าหนึ่งร้อยคันในเมืองมูเซ ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์กลางชายแดนของเมียนมา

การสู้รบทางตอนเหนือของเมียนมาเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นตั้งแต่เดือนที่แล้ว โดยกลุ่มพันธมิตรติดอาวุธชาติพันธุ์ 3 กลุ่ม รุมโจมตีฐานที่มั่นและด่านหน้าของกองทัพ

การปะทะได้ลุกลามไปทางตะวันออกและตะวันตกของประเทศ และทำให้ผู้คนเกือบ 335,000 คนต้องอพยพหนีความรุนแรงออกจากพื้นที่ ตามการระบุของสหประชาชาติ.

เพิ่มเพื่อน