คนนับแสนในเยอรมนียืนหยัดต่อต้านความรุนแรงและการเมืองขวาจัด

กลุ่มผู้ชุมนุมในเยอรมนีกว่าล้านคนออกมาเดินขบวนต่อต้านความเกลียดชังตามท้องถนนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นักการเมืองขอบคุณผู้ประท้วงสำหรับความมุ่งมั่นในการต่อต้านลัทธิหัวรุนแรงฝ่ายขวา

ตามรายงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้คนนับแสนพากันออกมาเดินขบวนตามท้องถนนทั่วเยอรมนีในช่วงสุดสัปดาห์ เพื่อต่อต้านกลุ่มการเมืองขวาจัดและเพื่อประชาธิปไตย ผู้จัดการชุมนุมประเมินว่าน่าจะมีผู้เข้าร่วมการชุมนุมประมาณ 1.4 ล้านคนตลอดวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา จากข้อมูลของ Campact หนึ่งในคณะผู้จัดการชุมนุม มีการชุมนุมประท้วงอย่างน้อย 40 แห่งทั่วเยอรมนีในวันอาทิตย์เพียงวันเดียว และยังกล่าวถึงการชุมนุมประท้วงครั้งนี้ว่าเป็น “สุดสัปดาห์แห่งความหวัง”

ที่เบอร์ลิน เมืองหลวงของเยอรมนี ผู้คนหลายหมื่นคนแห่กันไปที่บริเวณเขตที่ตั้งรัฐสภา ตำรวจระบุว่ามีอย่างน้อย 60,000 คน โฆษกตำรวจกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ เนื่องจากมีผู้คนไหลบ่าเข้ามาจำนวนมากและสถานการณ์มีความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา อาจมีประชาชนเข้าร่วมการชุมนุมมากถึง 100,000 คน ผู้คนหลายหมื่นคนออกมาเดินขบวนตามท้องถนนในเมืองอื่นๆ อีกหลายแห่ง เช่น มิวนิก ฮัมบวร์ก โคโลญน์ และเบรเมน การประท้วงที่ดำเนินมาหลายวันถึงจุดสิ้นสุดในวันอาทิตย์

ในวันเสาร์ ตำรวจและผู้จัดการชุมนุมได้นับจำนวนคนได้อย่างน้อย 300,000 คน จุดโฟกัสอยู่ที่เมืองฮันโนเวอร์ แฟรงก์เฟิร์ต และสตุทการ์ต ส่วนทางฟากตะวันออกของเยอรมนี เมืองฮัลเลเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีผู้ชุมนุมจำนวนมากมารวมตัวกัน ตำรวจประเมินว่ามีผู้เข้าร่วมประมาณ 16,000 คน ไรเนอร์ ฮาเซลอฟฟ์-นายกรัฐมนตรีแห่งรัฐแซกโซนี-อันฮาลต์ สังกัดพรรคสหภาพประชาธิปไตยคริสเตียน (CDU) กล่าวกับสื่อท้องถิ่นว่า “ถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่ามีคนจำนวนมากต่อต้านลัทธิหัวรุนแรงฝ่ายขวา และสนับสนุนการอยู่ร่วมกันในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งเราสามารถมองย้อนกลับไปด้วยความภาคภูมิใจ”

เดือนกันยายนปีนี้ จะมีการเลือกตั้งรัฐสภาแห่งรัฐชุดใหม่ในรัฐบรันเดนบวร์ก แซกโนนี และทูรินเจีย จากการสำรวจพบว่า พรรคทางเลือกเพื่อเยอรมนี (AfD) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองนิยมฝ่ายขวา อาจกลายเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดในทั้งสามรัฐ การประท้วงใหญ่ครั้งนี้เกิดขึ้นจากการเปิดเผยของศูนย์วิจัย Correctiv เกี่ยวกับการประชุมของพวกหัวรุนแรงฝ่ายขวาเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายนปีกลาย ซึ่งนักการเมืองสังกัดพรรคทางเลือกเพื่อเยอรมนี รวมถึงสมาชิกบางคนของพรรคสหภาพประชาธิปไตยคริสเตียน และ “สหภาพค่านิยม” ที่เป็นฝ่ายอนุรักษ์นิยม ได้เข้าร่วมประชุมกันในพ็อตสดัม

มาร์ติน เซลเนอร์ อดีตหัวหน้ากลุ่มหัวรุนแรงฝ่ายขวาในออสเตรีย กล่าวในที่ประชุมถึง “Remigration” (ซึ่งนายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ของเยอรมนีไม่ยอมรับเป็นคำศัพท์ในเวลาต่อมา) เมื่อกลุ่มหัวรุนแรงฝ่ายขวาใช้คำนี้ พวกเขามักจะหมายความถึงการขับไล่คนต่างชาติออกจากประเทศ ไม่ว่าด้วยเงื่อนไขการบังคับก็ตาม

ประธานาธิบดีแฟรงก์-วาลเทอร์ ชไตน์ไมเออร์ กล่าวขอบคุณผู้ชุมนุมประท้วงที่มุ่งมั่นต่อประชาธิปไตยผ่านวิดีโอในกรุงเบอร์ลินเมื่อวันอาทิตย์ “ผู้คนเหล่านี้ให้กำลังใจพวกเราทุกคน พวกเขาปกป้องสาธารณรัฐและรัฐธรรมนูญของเราจากศัตรู พวกเขาปกป้องมนุษยชาติของเรา แต่พวกเขาทั้งหมดมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน นั่นคือ ขณะนี้พวกเขากำลังยืนหยัดต่อสู้กับลัทธิเกลียดชังมนุษย์และลัทธิหัวรุนแรงฝ่ายขวา พวกเขาต้องการที่จะอยู่ร่วมกันอย่างเสรีและสงบสุขต่อไปในอนาคต อนาคตของระบอบประชาธิปไตยของเราไม่ได้ขึ้นอยู่กับพลังเสียงของฝ่ายตรงข้าม แต่ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของผู้ที่ปกป้องประชาธิปไตย มาแสดงให้เห็นว่าเราแข็งแกร่งขึ้นด้วยกัน”

ส่วนนักการเมืองฝ่ายอนุรักษ์นิยมอย่างพรรคสหภาพประชาธิปไตยคริสเตียนเรียกร้องให้ฝ่ายประชาธิปไตยผนึกกำลังร่วมกัน พร้อมทั้งชี้ว่า พรรคทางเลือกเพื่อเยอรมนีซึ่งนับวันจะเติบโตขึ้นนั้น เป็น “พรรคนาซีที่อันตรายอย่างยิ่ง” บนแพลตฟอร์ม X นักการเมืองฝ่ายอนุรักษ์นิยมโพสต์ว่า “พรรคทางเลือกเพื่อเยอรมนีไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของกฎหมาย อีกทั้งไม่ได้เป็นพรรคอนุรักษ์นิยมตามคำกล่าวอ้าง และไม่ใช่พรรคที่เน้นคุณค่าอย่างแน่นอน”.